"สมเกียรติ" จวก "ทักษิณ" โคตรโกงหาใครเปรียบ ชี้ทางรอดเดียวที่เหลืออยู่ คือแก้ไขรัฐธรรมนูญ แฉพฤติกรรมลิ่วล้อเดินแผนรวบรวมรายชื่อประชาชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ โมเมส่งรัฐสภาว่าเป็นรายชื่อ ปชช. ที่ขอยื่นแก้ รธน. หวังนายใหญ่พ้นคดี ไม่ถูกยึดทรัพย์และได้อำนาจกลับคืน พร้อมท้า"แม้ว"กลับมาขึ้นศาลสู้คดีที่เป็นโจทก์ฟ้องแกนนำพันธมิตรฯ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย
วันที่ 15 ส.ค. เวลาประมาณ 21.20 น. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ว่า หากพูดถึงบุคคลที่ได้ขึ้นชื่อว่าคอร์รัปชั่นมากที่สุดในเอเชียหลายประเทศ ไม่สามารถเทียบได้กับเผด็จการของระบอบทักษิโนมิกส์ได้เลย ซึ่งถึงตอนนี้ ขนาดหนีอาญาแผ่นดินไปอยู่ต่างประเทศ บรรดาลิ่วล้อ ส.ส. ยังออกมาปกป้อง บอกว่าท่านเพียงลี้ภัยเท่านั้น
นอกจากนี้ ทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ยังได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขอถอนตัวเป็นทนายและให้จำหน่ายคดีทุจริตที่ดินรัชดาออกไปก่อน โดยอ้างว่าจำเลยไมได้อยู่ในประเทศแล้ว และแทนที่จะบันทึกคำร้องว่า ป็นผู้รายหนีอาญาแผ่นดิน กลับพูดเพียงว่า พำนักที่อังกฤษเท่านั้น
นายสมเกียรติกล่าวว่า อยากให้พี่น้องจำนายคำนวณ ชโลปถัมภื ที่เป็นทนายของ พ.ต.ท.ทักษิณเอาไว้ ซึ่งคนๆ นี้ เมื่อก่อนเป็นสมาชิกวุฒิสภา และยังเคยเป็นที่ปรึกษาของนายสุชน ชาลีเครือ อดีตประธานวุฒิสภาที่อัปลักษณ์ที่สุด ซึ่งคนๆ นี้ คือคนที่ออกมาพูดว่า ทั้งพ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน จะเดินทางกลับไทยรายงานตัวต่อศาลฎีกาฯ ในคดีที่ดินรัชดาในวันที่ 11 สิงหาคมที่ศาลนัดไต่สวนแน่นอน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้กลับมา
นอกจากนี้ นายคำนวณยังเป็นแกนนำในการจัดสัมมนาด้วยการเชิญอาจารย์แถวธรรมศาสตร์ที่อยู่ข้างทักษิณขึ้นเวทีเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2551 โดยมีความพยายามจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหลายมาตรา ซึ่งเป็นที่มาของการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในวันที่ 25 เมษายนของพันธมิตรฯ ก่อนจะปักหลักชุมนุมใหญ่ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. ถึงวันนี้เป็นวันที่ 83 แล้ว
นายสมเกียรติกล่าวว่า ทางรอดเดียวของ พ.ต.ท.ทักษิณในตอนนี้ คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะไม่ว่าจะใช้เงินซื้อศาลก็ทำไม่ได้ จะเอาประชาชนมาเผชิญหน้ากันก็ทำไม่ได้ หรือจะเอาทหารมารัฐประหารตัวเองก็ทำไม่ได้ เพราะทางรอดเดียวคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่านั้น
ทั้งนี้ นายสมเกียรติได้เปิดเผยว่า นายอำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ได้ออกหนังสือไปยังองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง พร้อมกับรายชื่อของของประชาชนในพื้นที่ ที่มาจากเครือข่ายของกรมการศึกษานอกโรงเรียนในทุกอำเภอ โดยระบุว่ารายชื่อดังกล่าวคือชาวบ้านที่ขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วให้นายกฯ อบต. ช่วยติดประกาศในหมู่บ้านว่า คนที่มีรายชื่ออยู่ให้มายืนยันว่าได้เซ็นชื่อไปจริงหรือไม่ ซึ่งหากไม่ได้เซ็นจริง หรือผู้ใดประสงค์จะคัดค้าน ก็ให้ขีดชื่อออก และให้ส่งคำร้องคัดค้านไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัดโดยตรง ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นการมัดมือประชาชน เพราะส่วนใหญ่เข้าถึงผู้ว่าฯ ได้ค่อนข้างยากอยู่แล้ว
"นี้คือทางรอดเดียวที่เหลืออยู่ นั่นคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งหลังจากแก้แล้วเขาจะได้กลับมา 3 ข้อ ข้อแรกคือ ไม่ต้องคิดคุกจากคดีที่รอศาลพิจารณาอยู่อย่างน้อย 13 คดี ข้อที่สองคือ ทรัพย์สินมูลค่า 7.6 หมื่นล้านบาทไม่ถูกยึด และข้อที่สามคือ มีอำนาจกลับมาเหมือนเดิม แต่นอกจาก 3 ข้อที่เขาจะได้แล้ว ยังมีพี่น้องพัมธมิตรฯ รอชุมนุมไล่อยู่ ที่เขาจะได้ไปอีกข้อ"นายสมเกียรติกล่าว
นายสมเกียรติกล่าวว่าวันนี้ "กาหลิบ เพ็ญแข" ได้เขียนบทความลงในหนังสือพิมพ์โลกวันนี้ว่า ขณะนี้ประเทศไทยเปรียบเหมือนเรือไททานิก ที่กำลังจะล่มอีกไม่นาน แต่กลับไม่รู้เลยว่า เรือที่เขานั่งอยู่นั้นกำลังรั่วและกำลังจะจมกันทั้งหมด
นอกจากนี้ แกนนำพันธมิตรฯ ยังได้ยกข่าวจากสื่อต่างประเทศที่กล่าวถึง พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ด้วยว่า สำนักข่าวอัญจาซีราห์ มีบทบรรณาธิการเขียนเอาไว้ว่า ศาลได้พิพากษาว่า สองสามีภรรยาเป็นคนมีฐานะทางสังคม ควรเป็นตัวอย่างสังคม แต่กลับไม่เป็น
ด้านสื่อยุโรป ซึ่งเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับการเสียภาษีค่อนข้างมาก ซึ่งหากเลี่ยงภาษีจะถูกมองว่าเป็นผู้ทรยศต่อชาติ ได้ระบุว่า ที่สำคัญ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานควรเป็นเป็นตัวอย่างที่ดี แต่กลับหลบเลี่ยง ฉ้อฉลด้วยการหลีกเลี่ยงภาษี ด้านบีบีซีดอทคอม ของอังกฤษ รายงานว่า ศาลได้ตัดสินจำคุกภรรยา พ.ต.ท.ทักษิณ 3 ปี หลังจากหลีกเลี่ยงหลบซ่อนภาษี ซึ่งยังมีอีกหลายคดีที่จะตามมา ซึ่งทักษิณทำไว้ช่วงที่มีอำนาจ นอกจากนั้น หนังสือพิมพ์ที่บริสเบนที่ทรงอิทธิพลในออสเตรเสีย รายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และภรรยา เป็นคนมีฐานะ มั่งคั่ง เป็นพลเมืองที่ประเทศต้องการ แต่กลับโกหกเลี่ยงภาษี ศาลจึงลงโทษสถานหนักต่อคนทั้งสอง
นายสมเกียรติกล่าวปิดท้ายว่า ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นโจทย์ฟ้องแกนนำพันธมิตรฯ หลายคน ในข้อหาหมิ่นประมาทและเรียกค่าเสียหายเป็นร้อยล้าน แต่กลับไม่มาเป็นโจทก์ฟังคำพิจารณาคดีที่ศาลเอง ซึ่งตนในฐานะจำเลยที่ถูกฟ้อง อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณมาที่ศาลเอง ไม่ใช่หนีไปอยู่ต่างประเทศแบบนี้
