“หมัก” อ้างวันมหามงคลเลี่ยงพูดถึงปัญหาบ้านเมือง ใช้เวลาชี้แจงประจำสัปดาห์ ไปอวดถึงความประทับใจต่อการเข้าร่วมพิธีเปิดโอลิมปิก เมินตอบ “แก๊งออฟโฟร์” อาละวาด ตำหนิสื่ออย่าพยายามจุดชนวน โบ้ยปัญหาการเมืองคลี่คลายไปตามสถานการณ์
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "สนทนาประสาสมัคร"
วันนี้ (10 ส.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการสนทนาประสาสมัคร โดยใช้เวลาส่วนใหญ่กล่าวถึงงานวันแม่แห่งชาติ 12 ส.ค.และพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และหลบเลี่ยงที่จะพูดถึงเรื่องการบ้านการเมือง โดยอ้างว่าปัญหาบ้านเมืองจะคลี่คลายไปตามสถานการณ์ แต่สื่อมวลชนก็คอยแต่จะจุดชนวน เรื่องแก๊งออฟโฟร์ตนจะไม่พูดถึง ไม่มีปัญหาทั้งสิ้น ตนจะทำตามที่ได้กราบบังคมทูลขอพึ่งพระบารมีที่จะให้คนไทยหันหน้าเข้าหากัน ส่วนงานการเมือง ตนก็จะทำไป ครม.ก็ปรับไปแล้ว ต่อไปนี้ทุกอย่างจะเดินหน้า
“การบ้านการเมืองมันจะปรับสถานภาพโดยตัวของมันเอง โดยนายกรัฐมนตรีไม่ต้องไปพูด ไม่ต้องไปย้ำ แต่งานที่ได้บอกไว้ หนังสือพิมพ์จะเขียนวิพากษ์วิจารณ์ ผมไม่ทำอย่างที่พูด ผมพูด แต่ว่ามันไม่ได้รุนแรงอย่างที่ตีความหมาย แต่ว่าผมกำลังทำอย่างที่ผมได้กราบบังคมทูลไว้ เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ การเมืองจะเข้าที่เข้าทางยังไงปล่อยไปตามสภาพ
ไม่ต้องหรอกครับ จะมีแก๊งเท่าไหร่ แก๊งเท่าไหร่ แก๊งออฟไฟว์ ผมยังไม่เอ่ยถึงเลย ไม่ต้องเอ่ยถึงแก๊งออฟโฟร์หรอก เพราะฉะนั้นเรื่องต่างๆ มันจะจบลงด้วยสถานการณ์ด้วยความเป็นอยู่ของมัน ไม่มีปัญหาหรอกครับ นักข่าวก็คอยตามไล่ ตามนั่น คือจะจุดชนวนให้มันลุกอยู่เรื่อย ไม่หรอกครับ
พรุ่งนี้จะเป็นวันสุกดิบ แล้ววันที่ 12 ก็เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ เรามีงานถวาย 3 วัน แล้วก็จะมีตลอดอีก 9 วันตรงรัชกาลที่ 5 จะมี 1 วัน วันถวายพระเพลิง วันที่ 16 ถวายพระเพลิงสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ แล้วก็จะมี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ พระราชทานธงฯ
ก็เอาสิครับ เราก็จะทำกันอย่างนี้หละ แล้วงานการเมือง ผมก็จะทำหน้าที่ของผม แล้ว ครม.ก็ปรับแล้ว ทุกอย่างก็จะเดินหน้าไป ไม่ต้องตอบคำถาม ขออภัยท่านที่ถามมา ไม่ต้องคุยการเมือง ถือว่าเป็นวันมงคล ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ต่อไป แล้วก็ต้องถือว่าได้ขอพระราชทานไว้แล้วว่า ต้องอาศัยพระบารมีที่จะทำให้คนไทยหันหน้าเข้าหากัน จะได้ไม่ได้ ก็อยู่ที่หัวใจของท่านทั้งหลายที่เป็นพสกนิกร” นายสมัครกล่าวในตอนท้าย
ทั้งนี้ ตลอดรายการ นายสมัครไม่ยอมใช้เวลาในรายการชี้แจงปัญหาการบ้านการเมืองที่กำลังอึมครึม แต่กลับไปบรรยายบรรยากาศการเข้าชมพิธีแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ณ กรุงปักกิ่งประเทศจีนว่า เป็นแขกที่ได้รับเชิญระดับวีวีไอพี ได้พบปะกับผู้นำจากต่างชาติต่างๆ ที่ไปรวมกันอยู่ 86 ประเทศ ขณะที่ตนเองได้รับเกียรติให้นั่งติดกับนายกรัฐมนตรีเต็งเส็ง จากพม่า และมีการพูดคุยกันเพราะมีความสนิทสนมกันอย่างดี ส่วนประธานนาธิบดีสหรัฐ ก็ได้พาครอบครัวไปร่วมชมพิธีเปิดถึงขอบสนาม
พร้อมทั้งได้กล่าวยกย่องประเทศจีนว่าได้เตรียมความพร้อมจัดการแข่งขันเป็นอย่างดีทั้งด้านเทคโนโลยีและระบบขนส่งมวลชน แต่ที่น่าเสียดายประเทศไทยพลาดโอกาสคว้าเหรียญจากกีฬายกน้ำหนัก แต่ยังดีที่นักมวยสมัครเล่นเราชนะเกาหลี โดยก่อนหน้านี้ไทยเป็นประเทศเล็กๆ ที่ไม่เคยหวังเหรียญในการแข่งขัน เพียงขอได้ร่วมในมหกรรมกีฬาระดับโลก แต่วันนี้ไม่ใช่หวังว่าจะได้เข้าร่วมเท่านั้น ต้องถามว่าจะได้กี่เหรียญถึงจะกลับบ้านได้อย่างภูมิใจ