บช.น.เตรียม 3 แผนรักษาความปลอดภัยพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพ สมเด็จพระพี่นางฯ โดย 12 ต.ค. และ 19 ต.ค. ซ้อมย่อยขบวนแห่พระศพ ส่วน 2 พ.ย.เป็นการซ้อมจริงจำเป็นต้องปิดถนนโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ถ.สนามไชย ถ.ท้ายวัง ถ.มหาราช และถ.ราชดำเนินในบางส่วนตั้งแต่เช้ามืดถึง 10 โมงเช้า
วันนี้ (2 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น. เป็นประธานการประชุมร่างแผนการรักษาความความปลอดภัย แผนการจราจร และแผนเผชิญเหตุ ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ โดยมีผู้แทนสำนักพระราชวัง ผู้แทนฝ่ายทหาร และเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครเข้าร่วมประชุม
พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวภายหลังประชุมว่า ที่ประชุมหารือแผนการปฏิบัติ 3 แผนหลัก คือ แผนรักษาความปลอดภัยจะมีการพูดถึงเรื่องการวางกำลังการตั้งกองรักษาการต่างๆ 15 กองรักษาการ และมีกองรักษาการใหญ่จะคุมพื้นที่ของพระราชพิธีทั้งหมด รวมทั้งการวางกำลังในเส้นทางขบวนแห่พระศพ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการหารือวางแผนของพระราชพิธีวันที่ 15 พ.ย.เป็นหลัก ในช่วงเช้ามีขบวนแห่พระศพ ช่วงบ่ายเป็นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพ ณ พระเมรุ และเวลา 22.00 น. เป็นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระศพ ณ พระเมรุจริง
พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวว่า แผนที่ 2 เป็นแผนการจราจร แผนที่จอดรถของผู้มาร่วมงานทั้งหมดว่าจะจัดไว้ที่ไหนอย่างไร ในจุดห้ามจอดอยู่ตรงไหนบ้าง จุดห้ามรถเข้ามีตรงไหนบ้าง จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซน คือ ใน กลาง นอก รอบเกาะ ในเกาะ และพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เรื่องการจราจรจะขอทำเอกสารและแผนที่แจกจ่ายประชาชนเพื่อให้รับทราบในเรื่องการปิดเส้นทางต่างๆ ซึ่งจะมีการซ้อมขบวนแห่ในวันที่ 12 ต.ค. และวันที่ 19 ต.ค. เป็นการซ้อมย่อย ทางทหารจะซักซ้อมขบวนแห่ในพื้นที่จริง จำเป็นต้องปิดถนนบางส่วนเพื่อให้นำรถขนกำลังพลมาจอด เพื่อซ้อมเดินขบวน
“อย่างไรก็ตาม ในวันซ้อมย่อย คาดว่ารอบพระบรมมหาราชวังคงไม่มีปัญหา และซ้อมใหญ่ในวันที่ 2 พ.ย.เป็นการซ้อมจริงเหมือนจริงทุกอย่าง จำเป็นต้องปิดถนนโดยรอบพระบรมมหาราชวัง ถ.สนามไชย ถ.ท้ายวัง ถ.มหาราช และถ.ราชดำเนินในบางส่วน เพื่อเป็นเส้นทางขบวนแห่ เป็นการซ้อมในช่วงเช้าทั้งหมด อาจจะปิดถนนตั้งแต่เช้ามืดของวันดังกล่าวถึงเวลาประมาณ 10.00 น.ของแต่ละวัน ซึ่งคาดว่าในการซ้อมคิดว่าไม่น่าจะเกิดปัญหาการจราจร เพราะยังไม่มีแขกมาร่วมงาน” รองผบช.น.กล่าว
พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวว่า ส่วนพระราชพิธีจริงในวันที่ 15 พ.ย.จะมีการปิดพื้นที่ค่อนข้างมากประกอบด้วย รอบเกาะรัตนโกสินทร์ทั้งหมดและพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง รายละเอียดการปิดจราจรทาง บช.น.จะทำเป็นแผนที่แจกจ่ายอีกครั้ง และห้ามจอดรถตั้งแต่หลังเที่ยงคืนในวันที่ 15 พ.ย. ห้ามเข้ารอบเกาะทั้งหมด และพื้นที่บางส่วนตั้งแต่เวลา 05.00 น.จะห้ามผ่าน อาทิ สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า บางลำพู จะเข้าได้เฉพาะคนที่มีรถ มีบ้านอยู่ละแวกนั้น และรถที่มีบัตรเข้า
พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวต่อว่า ส่วนแผนที่ 3 เป็นแผนเผชิญเหตุ เป็นเส้นทางต่างๆในการเสด็จของพระบรมวงศานุวงศ์ทั้งหมด ว่าใช้เส้นทางไหนอย่างไร มีเส้นทางสำรองอย่างไร รายละเอียดที่ผู้ปฏิบัติจะรับทราบเบื้องต้น ซึ่งในการพูดคุยทั้ง 3 แผนจะให้คณะทำงานซึ่งมีหัวหน้าแต่ละชุด ประกอบด้วย แผนรักษาความปลอดภัยมี พล.ต.ต.เอกรัตน์ มีปรีชา รอง ผบช.น. เป็นหัวหน้าชุด แผนการจราจร มีตนเป็นหัวหน้าชุด และแผนเผชิญเหตุมี พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.เป็นหัวหน้าชุด และ พล.ต.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบช.น. ดำเนินการ นอกจากนี้จะมี พล.ต.ต.สุพร พันธุ์เสือ รอง ผบช.น. ดูและเรื่องการส่งกำลังบำรุงทั้งหมด รวมทั้งการจัดทำแผงเหล็ก การตั้งเต็นท์ ตลอดจนอาหารการกินของผู้ปฏิบัติกำลังพลต่างๆ ทำอย่างไร รวมทั้งสิ้นจะมีคณะทำงานทั้งสิ้น 4 ชุด สำหรับรองรับทั้ง 3 แผน
ผู้สื่อข่าวถามถึงการปิดถนนราชดำเนินนอกในช่วงสะพานมัฆวานรังสรรค์ เนื่องจากมีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ชุมนุมอยู่ตลอดจนในทำเนียบรัฐบาลจะทำให้มีปัญหากับพระราชพิธีหรือไม่ พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวว่า คงไม่มีปัญหาเพราะจากการพูดคุยเบื้องต้นจะมีการเปิดถนน ซึ่งอาจจะเร็วกว่าวันพระราชพิธีจริง เพราะทหารมหาดเล็กจำเป็นต้องซ้อมสวนสนามการจัดริ้วขบวนพระราชอิสริยยศในงานพระราชพิธีที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยจะมีการซ้อมตั้งแต่เดือน ต.ค.เป็นต้นไป พื้นที่ที่ใช้วางแถวกำลังพลเพื่อเดินแถวเข้าลานพระบรมรูปทรงม้า คือ ตั้งแต่สะพานมัฆวานฯ ถึงแยกสวนมิสกวัน แยกสวนมิสกวันถึงวังแดง และแยกสวนมิสกวันถึงแยกพาณิชย์ โดยจะทำรายละเอียดทั้งหมดประสานไปทางทำเนียบรัฐบาลเพื่อขอความร่วมมือเรื่องนี้ คิดว่าคงไม่มีปัญหาทั้งการสวนสนามในวันซักซ้อม และวันพระราชพิธีจริงทั้งหมด