ที่ประชุม ครม.กลั่นกรองเช่ารถ 6 พัน ยังติดใจค่าเช่าอู่รถ-ค่าเช่ารถแพงเกินจริง สั่งตั้งกรรมการชุดพิเศษหาข้อมูลประกบ สภาพัฒน์-ขสมก. ระบุกรณีอีสานพัฒนาออกมาแฉถือเป็นเรื่องภายในพรรค ด้านชาติไทยขย่มซ้ำค่าเช่าที่ดินอู่รถเอ็นจีวีแพงเกินจริง
วันนี้ (8 ส.ค.) พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีกลั่นกรอง คณะพิเศษ ครั้งที่ 2 ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อพิจารณาโครงการจัดหารถโดยสารที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวี (NGV) ของ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 6,000 คัน แถลงภายหลังการประชุมว่า วันนี้ยังไม่ได้พิจารณาว่าจะเห็นด้วยกับการเช่าหรือซื้อรถบางส่วน แต่ได้พิจารณาผลการศึกษาของสภาพัฒน์ และขสมก.เพียง 2 ประเด็นที่ตั้งข้อสังเกตไว้ เมื่อการประชุมครั้งที่แล้ว 9 ประเด็น โดยมีรัฐมนตรีจากพรรคชาติไทยและพรรคพลังประชาชนร่วมประชุมเท่านั้น
โดย 2 ประเด็น ประกอบด้วย 1.การประมาณการระหว่างการเช่าและการจัดซื้อว่ารูปแบบใดจะคุ้มทุนกว่า เพื่อเชื่อมโยงระบบตั๋วโดยสารและระบบตั๋วอิเล็กทรอนิกส์กับการเปลี่ยนเส้นทางใหม่ว่าจะมีความสะดวก และปลอดภัยมากน้อยเพียงใด แต่ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอของ กระทรวงการคลังที่เสนอให้เช่ารถเป็นล็อต แทนเช่าทั้ง 6,000 คัน และ 2.ประเด็นจำนวนอู่รถเอ็นจีวี และการวางท่อก๊าซเอ็นจีวีของ ปตท.เพื่อให้มีปริมาณก๊าซเพียงพอกับจำนวนรถทั้งหมด ทั้งนี้ ที่ประชุมยังเน้นเรื่องของการเดินรถ จำนวน 145 เส้นทางเพื่อให้บริการครบวงจรทั่ว กทม.และปริมณฑล แต่จำนวนรถโดยสารนั้น ขสมก.จะกลับไปทบทวนจำนวนรถใหม่ ให้สอดคล้องกับระยะเวลาการปล่อยรถ รวมทั้งการเพิ่มจำนวนรถจะต้องไม่มีปัญหาด้านการจราจร
“ยังติดใจหลายเรื่อง ทั้งเรื่องของการเช่าที่ดินทำอู่รถเอ็นจีวีที่ ขสมก.รายงานว่าจะต้องมีจำนวน 22 แห่ง แต่จำนวนที่รายงานวันนี้ก็ยังไม่มีครบ ขสมก.จะรับไปทำข้อมูลมาใหม่ ผมยังได้ให้ทีมงานพิเศษ ลงพื้นที่ศึกษาข้อมูลทั้งเรื่องความคุ้มค่าในการเช่ารถ และเรื่องของอู่เอ็นจีวี ซึ่งวันที่ 20 ส.ค.นี้จะมีการประชุมอีกครั้ง จะได้รู้ว่าจุดคุ้มทุนควรเป็นเท่าไร มูลค่าของโครงการจะได้ลดลงไม่เกินความจริง เพราะการเช่ารถ 6,000 คัน โดยใช้เงินกว่า 1.1 แสนล้านมันเกินไป” พล.ต.สนั่นกล่าว
พล.ต.สนั่น ยังกล่าวถึงกรณีที่ นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา ออกมาแฉว่าผู้ใกล้ชิดนายกรัฐมนตรีมีส่วนทุจริตกับโครงการนี้ว่า เป็นเรื่องของพรรคพลังประชาชน หากจะมีการยื่น ป.ป.ช.ก็ไม่เกี่ยวกับเรา เราเพียงต้องพิจารณาเรื่องนี้ให้ดีที่สุด
รายงานข่าวแจ้งว่า การที่ พล.ต.สนั่น สั่งตั้งทีมงานพิเศษทำงานเรื่องรถโดยสารเอ็นจีวี 6,000 คัน จะทำให้มีกรรมการถึง 3 ชุด ประกอบด้วย สภาพัฒน์ ขสมก.และกรรมการชุดพิเศษนี้
นายอรรคพล สรสุชาติ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (พล.ต.สนั่น) กล่าวว่า จำนวนและปริมาณรถโดยสารที่ควรจะมีกี่คันยังเป็นข้อถกเถียง จึงขอให้ ขสมก.และสภาพัฒน์ไปคำนวณถึงค่าเช่าว่าสมวครจะเป็นเท่าไร เมื่อได้จำนวนค่าเช่าก็จะสามารถดูได้ถึงมูลค่าของโครงการ เพื่อเสนอ ครม.จะให้ความเห็นชอบได้ว่าควรเป็นเท่าไร ซึ่งประธานฯ เห็นว่า หากจะให้ครอบคลุมจำนวนรถที่มีความจำเป็นจริง น้อยที่สุดควรเป็นเท่าไร
ขณะที่ ราคาค่าเช่ารถ ที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตเรื่องของจุดคุ้มทุนของราคารถที่ ขสมก.มีการศึกษาไว้ที่ 5,100 บาทต่อวันต่อคัน โดยตั้งโจทย์ไว้ว่า หากราคารถอยู่ที่ 5-6 ล้านบาท ค่าเช่าควรจะเป็นเท่าไร โดยเฉพาะค่าดำเนินการ บางโมเดลที่ ขสมก.และสภาพัฒน์เสนอสูงเกินจริง จะสามารถที่จะปรับให้เป็นระดับปกติได้หรือไม่ และหากค่ารถถูกลงค่าใช้จ่ายก็จะลดลงไปด้วย รวมทั้งหากเป็นการเช่าจำนวนมากโอกาสในการต่อรองราคารถก็อาจจะต่ำมากขึ้น ขณะที่ระบบอี-ทริกเก็ต (ตั๋วอิเล็กทรอนิกส์) หากสามารถลดประมาณการได้ตามที่ ขสมก.ยอมรับว่าอาจจะมีการคาดเคลื่อนในวันนี้ราคามูลค่าโครงการก็อาจจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ลดลง ซึ่งประเด็นจุดคุ้มทุนได้มีการตั้งข้อสังเกตว่า จำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มเป็น 2 ล้านคนต่อวันได้จริงหรือไม่ เพราะปัจจุบันมีผู้โดยสารเพียง 7 แสนคนต่อวันเท่านั้น
นอกจากนี้ ประเด็นการจัดหารอู่รถโดยสารเอ็นจีวี ตามรายงานของ ขสมก.ที่จะต้องมีจำนวนอู่ 22 แห่งในโครงการฯ โดยเป็นอู่ใหม่ 16 แห่ง (ผู้ประมูลจัดหาเอง) และอู่ของขสมก.เอง 6 แห่ง แต่จากรายงานทราบว่าอู่ ขสมก.6 แห่งอาจจะไม่ได้รวมอยู่กับโครงการ เพราะมีระยะห่างจากการวางท่อก๊าซเอ็นจีวีของ ปตท.มาก ซึ่งตนยังได้ตั้งข้อสังเกต ประเด็นราคาที่ดิน ระยะเวลา 10 ปี ของการจัดสร้างอู่จำนวน 6 แห่งใหม่ แต่บางแปลงกลับมีการประเมินสูงเกินจากราคาประเมินของกรมที่ดิน รวมกว่า 5,920 ล้านบาท ดังนั้น ขอให้ ขสมก.ไปศึกษาวงเงินประเมินการเช่าที่ดินใหม่