xs
xsm
sm
md
lg

“เรืองไกร” ไล่สอย “เลี้ยบ-แก๊ง 3 เกลอ” ถือครองหุ้นและภาษี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา
“เรืองไกร” ทยอยยื่น ปธ.วุฒิฯส่งศาลรธน.ตีความคุณสมบัติ “หมอเลี้ยบ” กรณีการถือครองหุ้นของภริยา แถมด้วยไล่เช็กบิล “แก๊ง 3 เกลอ” การถือครองหุ้นและการเสียภาษีในบริษัทเพื่อนพ้องน้องพี่ ทิ้งทวนจี้ตรวจสอบ “วรวัจน์” ที่สั่งตัดงบวุฒิสภาทิ้ง คาดสัปดาห์หน้าทุกอย่างลงตัว

วันนี้ (8 ส.ค.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ส.ว.สรรหา แถลงถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กรณีภรรยามีเงินลงทุนในคณะบุคคล 9 แห่ง และมีเงินลงทุนในห้างหุ้นส่วนสามัญอีก 1 บริษัทว่า หลังจากที่ได้ยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบแล้ว ล่าสุด ตนและเพื่อน ส.ว.อีก 18 คนได้ร่วมกันลงชื่อทำหนังสือถึงนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 91 เพื่อให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาถึงความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัวของ นพ.สุรพงษ์ กรณีรัฐมนตรีเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 269 และ 259 วรรคสามหรือไม่ ซึ่งขั้นตอนต่อไปประธานวุฒิสภาจะตรวจสอบรายชื่อ ส.ว.ดังกล่าว และจะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญต่อไป

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบแบบ บลจ.5 เกี่ยวกับบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นใน บริษัท เพื่อนพ้องน้องพี่ จำกัด ของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคพลังประชาชน และนายวีระ มุสิกพงศ์ พบว่าแต่ละคนได้ถือหุ้นอยู่ในบริษัทดังกล่าวคนละ 1 แสนหุ้น หุ้นละ 100 บาท มูลค่า 10 ล้านบาทต่อคน ซึ่งใน บลจ.5 มีรายเซ็นของนายวีระ เป็นผู้รับรองความถูกต้อง เมื่อดูข้อมูลดังกล่าวแล้วจะเห็นว่าบุคคลทั้ง 4 มีฐานะพอสมควร ไม่ทราบว่าเอาเงินมาจากไหน ที่มาของเงินมาอย่างไร และขณะนี้เงินดังกล่าวไปอยู่ที่ไหน ตนจึงจะตรวจสอบบุคคลที่ดำรงตำแหน่งส.ส.ต่อไปว่า ได้มีการแจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) อย่างไร โดยจะเทียบกับการยื่นแบบแสดงภาษีของบุคคลดังกล่าว โดยขณะนี้กำลังประสานกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรอยู่ว่า มีการยื่นภาษีครบหรือไม่ แต่ละปีมีรายได้มาจากไหน ซึ่งบุคคลทั้ง 4 ควรออกมาชี้แจงโดยอาจชี้แจงผ่านรายการความจริงวันนี้ ทางสถานีเอ็นบีที ที่จัดอยู่ก็ได้

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า พร้อมกันนี้ตนจะตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่ พรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบรายจ่ายประจำปี 2552 โดยเบื้องต้นได้ดูบัญชีทรัพย์สินที่นายวรวัจน์ยื่นแสดงต่อ ป.ป.ช.แล้ว พบว่ามีเงินให้ชาวบ้านกู้ยืมถึง 104 ราย ตกรายละหลักหมื่นบาท รวมเป็นเงิน 4 ล้านกว่าบาท จึงต้องดูว่าเป็นการประกอบธุรกิจตามปกติหรือไม่ หรือเป็นการกระทำเยี่ยงธนาคารพาณิชย์หรือไม่ เพราะในประมวลกฎหมายรัษฎากรพบว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายกระทำการเบี่ยงธนาคารพาณิชย์ จึงต้องดูว่าได้มีการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ มีพฤติกรรมเลี่ยงภาษีหรือไม่ แต่ยังไม่ได้เจาะจงลงไปว่ามีความผิดหรือไม่ ทั้งนี้การตรวจสอบดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่นายวรวัจน์ขู่ตัดงบประมาณของวุฒิสภาจำนวน 1,000 ล้านบาทแต่อย่างใด ทั้งนี้ ได้มอบให้เจ้าหน้าที่ไปจดรายละเอียดการยื่นบัญชีทรัพย์สินของนายวรวัจน์แล้ว คาดว่าสัปดาห์หน้าคงมีความชัดเจนมากขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น