xs
xsm
sm
md
lg

ศาล รธน.ตีแสกหน้า “แม้ว” ชี้ กม.ป.ป.ช.ไม่ขัด รธน. รับเชือด “หมัก” ชิมไปฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ ตอกกลับข้อโต้แย้ง “แม้ว-อ้อ” ชี้ กม.ป.ป.ช.ไม่ขัด รธน.ปี 50 แถมการันตี กม.กำหนดขอบเขตเหมาะสม ลงมีมติรับคำร้อง กกต.กรณีคุณสมบัติ “หมัก” ชิมไปบ่นไป พร้อมนัดคู่กรณีตรวจพยานหลักฐานนัดแรก 21 ส.ค.

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ แถลงผลการประชุมคณะตุลาการ 

วันนี้ (5 ส.ค.) นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แถลงภายหลังการประชุมคณะตุลาการว่า ที่ประชุมคณะตุลาการได้มีการพิจารณากรณีศาลฎีกาส่งคำโต้แย้งของ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 211 ว่า พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่า การป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 4, 100, 122 ขัดหรือแย้งกับมาตรา 29, 50, ของรัฐธรรมนูญ 40 หรือไม่ และขัดหรือแย้งกับมาตรา 3, 38 วรรค ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2549 และขัดหรือแย้งกับมาตรา 26, 27, 28, 29, 39 และ 43 ของรัฐธรรมนูญ 50 หรือไม่ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วมีมติเป็นเอกฉันท์ ว่ามาตรา 4, 100, 122 ของ พ.ร.บ.ป.ป.ช.ไม่ขัดหรือแย้งต่อมาตรา 26, 27, 28, 29, 39 และ 43 ของรัฐธรรมนูญ 50 เนื่องจากบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ป.ป.ช.ทั้ง 3 มาตรา มีเนื้อหาสอดคล้องกับหลักการสำคัญของรัฐธรรมนูญ เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง รวมทั้งยังบัญญัติทางแก้ไขเพื่อความเป็นธรรมไว้ด้วยว่า หากเจ้าหน้าที่รัฐผู้ใดพิสูจน์ได้ว่าตนไม่มีส่วนรู้เห็นยินยอมด้วยในการกระทำของคู่สมรสให้ถือผู้นั้นไม่มีความผิด ซึ่งบทบัญญัติดังกล่าวนั้น ถือว่ามีขอบเขตที่พอเหมาะพอควร สมเหตุสมผล ไม่เป็นการล่วงละเมิดต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จำกัดสิทธิเสรีภาพเกินจำเป็นแต่อย่างใด ส่วนที่คู่กรณีโต้แย้งมาตราอื่นว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ 40 และรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 49 นั้น ตุลาการเห็นว่ารัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับได้เลิกใช้ไปแล้ว ประกอบกับบทบัญญัติที่โต้แย้งก็คือบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 50 จึงไม่จำเป็นต้องวินิจฉัย

นอกจากนี้ คณะตุลาการรัฐธรรมนูญยังได้มีการพิจารณากรณีประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของ ส.ว.และกกต.ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี ของนาย สมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี โดยคณะตุลาการมีมติให้รับคำร้องของ กกต.ไว้พิจารณา และให้รวมเข้ากับคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งมา และให้ยื่นคำร้องให้นายสมัครเพื่อยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากลับมา ภายใน 15 วันนับแต่ได้รับคำร้อง พร้อมกันนี้ตุลาการได้นัดให้คู่กรณีมีการตรวจพยานหลักฐาน ครั้งแรกในวันที่ 21 ส.ค.เวลา 09.30 น.เพื่อดูว่าพยานหลักฐานที่ได้มีการยื่นไว้ก่อนหน้านี้คู่กรณียอมรับกันได้หรือไม่ ทั้งนี้ตามระเบียบวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญนั้น นายสมัครอาจมอบหมายผู้อื่นมาดำเนินการแทนได้

นายไพบูลย์ ยังกล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังได้มีการพิจารณาในประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งนัดอ่านคำวินิจฉัยกรณีคุณสมบัติของนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.พาณิชย์ ว่าขัดหรือแย้งต่อมาตรา 182 วรรค 1(7) และมาตรา 269 ประกอบมาตรา 182 วรรค 3 และมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญหรือไม่ ในวันที่ 6 ส.ค.นั้น คณะตุลาการฯ เห็นว่า เนื่องจากมีพระบรมราชโอการโปรดเกล้าฯ ให้นายวิรุฬพ้นจากความเป็น รมช.พาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา จึงไม่มีประโยชน์ที่จะวินิจฉัยคดีอีกต่อไป จึงมีคำสั่งจำหน่ายคดีออกจากสารบบ และงดการอ่านคำวินิจฉัยตามที่ได้นัดหมาย รวมทั้งจะแจ้งให้คู่กรณีทราบต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น