ครม.เงาจับพิรุธตั้งบอร์ดแบงก์ชาติ ขู่ฟ้องศาลปกครอง

ปชป.ห่วงการตั้งบอร์ดแบงก์ชาติ หมิ่นเหม่ต่อการทำผิดกฎหมายอย่างน้อย 3 คน เป็นกรรมการในธนาคารพาณิชย์ ขู่หาก ก.คลังไม่ทบทวนอาจยื่นศาลปกครองพิจารณาความเหมาะสมทางกฎหมาย

วันนี้ (31 ก.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายศิริโชค โสภา โฆษกคณะรัฐมนตรีเงา พรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุม ครม.เงาว่า ที่ประชุมได้แสดงความวิตกกังวลในการแต่ตั้งคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือบอร์ด ธปท. เพราะกระทรวงการคลังมีความพยายามที่จะเข้าไปครอบงำการทำงานของ ธปท. แม้การตั้งกรรมการสรรหาบอร์ด ธปท.จะเป็นไปตามกฎหมายก็ตาม แต่มีความหมิ่นเหม่ต่อการกระทำผิดกฎหมาย เพราะมีอย่างน้อย 3 ใน 7 คนในคณะกรรมการสรรหา อาจจะไม่เป็นไปตามมาตรา 28/1 ของ พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย 2551 คือ ทั้ง 3 คนดังกล่าวมีผลประโยชน์ หรือมีส่วนได้ส่วนเสียที่ขัดต่อการปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.นี้ และ ธปท.ได้มีการทักท้วงแล้ว ซึ่งนางอัจฉนา ไวความดี รองผู้ว่าฯ ธปท.ได้ยืนยันต่อคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมาว่าได้มีการทักท้วงไปแล้ว แต่ท้ายที่สุดได้มีการตั้งคณะกรรมการสรรหาชุดนี้ขึ้นมา

นายศิริโชค กล่าวต่อว่า คณะกรรมการรรหาได้มีการคัดเลือกทั้งประธานกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 1 คน และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก 5 คน โดย ครม.ได้รับทราบไปเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา แม้ต่อมา รมว.คลัง จะพยายามออกมายืนยันว่าไม่ได้มีการแทรกแซง แต่ข้อเท็จจริงปรากฏชัด แม้ว่าตามกฎหมายแล้ว ธปท.ได้เสนอชื่อผู้ที่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทยไปทั้งหมด 12 ชื่อ แต่คณะกรรมการสรรหากลับเลือกเพียงคนเดียว ในขณะที่กระทรวงการคลัง เสนอไป 6 ชื่อ แต่กลับได้รับเลือกถึง 5 ชื่อ

“ครม.เงาเป็นห่วงเรื่องนี้มาก เพราะหน้าที่แรกของบอร์ดชุดนี้คือต้องไปแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ขึ้นใหม่ โดย กนง.ประกอบไปด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก 4 คน และกรรมการโดยตำแหน่งจาก ธปท.3 คน ได้แก่ ผู้ว่าฯ ธปท.และรองผู้ว่าฯ ธปท.2 คน เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ธปท.2551 เพราะบอร์ด กนง.ชุดปัจจุบันจะครบวาระและประชุมครั้งสุดท้ายในวันที่ 27 ส.ค.นี้ หากผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 4 คนถูกกำหนดตัวมาจากกระทรวงการคลังเพื่อมุ่งหวังที่จะแทรกแซงนโยบายบการเงินของ ธปท. ก็จะเป็นอันตรายอย่างมาก นอกจากนี้ บอร์ดชุดนี้ ยังต้องไปแต่งตั้งคณะกรรการนโยบายสถาบันการเงิน และคณะกรรมการระบบการชำระเงินด้วยนั้น ครม.เงาจึงเรียกร้องให้ฝ่ายการเมืองยุติพฤติกรรมเช่นนี้ มิฉะนั้นความน่าเชื่อถือของ ธปท.จะหมดไป” นายศิริโชค กล่าว

ด้าน นายกรณ์ จาติกวนิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรมว.คลังเงา กล่าวว่า กรณีนี้ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้คัดค้านมาตั้งแต่แรก เพราะที่มาของการสรรหามีข้อครหาตั้งแต่แรกในแง่ของความเหมาะสม และตัวบุคคล ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ความเหมาะสมในส่วนของจริยธรรมอย่างเดียว แต่เป็นความเหมาะสมในแง่ของกฎหมายด้วย และอย่างน้อย 3 รายชื่อของกระทรวงการคลังที่ได้คัดมาเป็นกรรมการสรรหา เป็นผู้ที่มีคุณลักษณะขัดต่อ พ.ร.บ.ธปท. ทำให้ที่มาของคณะกรรมการสรรหาได้มาโดยมิชอบ จึงเกรงว่าจะส่งผลต่อความเสียหายต่อ ธปท.ในอนาคต จึงขอให้กระทรวงการคลังยุติการเสอนชื่อคณะกรรมการเหล่านี้ ถ้ากระทรวงการคลังไม่ยอมที่จะทบทวนกระบวนการนี้ใหม่ทั้งหมด เราก็จะดำเนินการด้วยการยื่นเรื่องต่อศาลปกครองเพื่อพิจารณาในแง่ของความเหมาะสมทางกฎหมายต่อไป

เมื่อถามว่า คณะกรรมการสรรหาทั้ง 3 คนดังกล่าวขาดคุณลักษณะอย่างไร นายกรณ์ กล่าวว่า เป็นกรรมการของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งธนาคารพาณิชย์อยู่ภายใต้การดูแลโดยตรงของ ธปท. คือธนาคารทหารไทย ธนาคารกรุงไทย และธนาคารนครหลวงไทย เพราะฉะนั้นผู้ที่เข้ามาเป็นกรรมการสรรหา มีสถานะเป็นกรรมการของธนาคารพาณิชย์ด้วย คิดว่าตรงยิ่งกว่าตรวงในแง่ของการมีส่วนได้ส่วนเสียที่ขัดต่อการปฏิบัติหน้าที่ ดังนั้น ในส่วนนี้คิดว่าแค่นี้ก็เพียงพอต่อการที่จะพิจาณณาว่ากระบวนการขั้นตอนทั้งหมดไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งยังไม่รวมถึงเหตุผลที่มาของความพยายามในส่วนของกระทรวงการคลัง ต่อเนื่องที่จะแทรกแซงการทำงานของธปท. และบุคคลที่เป็นกรรมการสรรหาหลายคนก็เป็นคนที่มีคดีถูกฟ้องอยู่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับตำแหน่งหน้าที่ในอดีตต่อการบริหารธนาคารพาณิชย์เอง และธปท.อย่างน้อยที่สุดก็เป็นผู้เสนอข้อมูลให้กับกระทรวงการคลังที่ดำเนินการฟ้องร้องบุคคลเหล่านี้อยู่ เพราะฉะนั้นส่วนได้ส่วนเสียต่อตัวเองก็มี ต่อกระทรวงการคลังก็มี