“สนธิ” พูดเป็นของขวัญวันเกิดให้ “แม้ว” ย้อนอดีตเหตุผลที่ต้องออกมาขับไล่ เตือนให้ถอยออกจากการเมืองอย่างสิ้นเชิงก่อนที่จะรู้ว่านรกเป็นอย่างไร เตือนคนในรัฐบาลหยุดวางแผนก่อจลาจล พร้อมเรียกร้องให้คนไทยรวมทั้ง “ลูกจีนรักชาติ” ให้ออกมารวมพลังกันเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ได้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัย
วันที่ 26 ก.ค. เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีที่สะพานมัฆวานฯ โดยเริ่มกล่าวถึงเรื่องที่หน่วยเฝ้าดูด้านสิทธิมนุษยชนที่มสำนักงานใหญ่ในนครนิวยอร์ก ได้ออกแถลงการณ์ให้รัฐบาลปกป้องและดูแลการชุมนุมของพี่น้องประชาชนอย่างสันติและใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ รวมทั้งประณามเหตุการณ์ที่รัฐบาลสนับสนุนให้กลุ่มอันธพาลรุมทำร้ายประชาชนที่จังหวัดอุดรธานี และอีกหลายจังหวัด พร้อมทั้งให้ดำเนินคดีต่อกลุ่มบุคคลเหล่านั้นรวมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วย
นายสนธิ กล่าวว่า คำแถลงการณ์ขององค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศดังกล่าวต่อเหตุการณ์ที่จังหวัดอุดรธานีทำให้รัฐบาลเกิดความเสื่อมเสียไปทั่วโลก
จากนั้น นายสนธิได้ตั้งข้อสังเกตกรณีที่วัดธรรมกายซึ่งเคยสนับสนุนพรรคไทยรักไทยได้จัดงานทำบุญครั้งใหญ่ในวันที่ 26 ก.ค.ซึ่งอ้างว่าเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แต่บังเอิญว่าในวันดังกล่าวตรงกับวันเกิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พอดี ซึ่งอาจจะบังเอิญโดยไม่เจตนาก็ได้
นายสนธิ ได้กล่าวถึงปรากฏการณ์เมื่อวานนี้ (25 ก.ค.) ที่ได้มีการสาปแช่งคนชั่ว ปรากฏว่ามีลมพัดแรง เหมือนกับทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดินได้รับรู้ไปแล้ว จากนั้นได้เชิญชวนให้พี่น้องประชาชนสงบนิ่งเป็นเวลา 2 นาที อธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ปกป้องพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชวงศ์ทุกพระองค์ และคนไทยให้รอดพ้นจากภัยพิบัติ และขณะเดียวกัน หากใครคิดร้ายต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ก็ขอให้พินาศฉิบหาย ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด
จากนั้น นายสนธิได้ฝากไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เนื่องในโอกาสวันเกิดครบรอบ 59 ปี ย่างเข้า 60 ปี โดยย้ำว่า ไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทอย่างที่ลูกน้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามบิดเบือนว่าขัดแย้งผลประโยชน์แล้วมาโจมตี โดยเล่าเหตุการณ์ในอดีตให้ฟังว่า ได้พบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ครั้งแรกเมื่อ 20 กว่าปีก่อน ต่อหน้า นายสุวิทย์ เศรษฐีชาวสุโขทัย โดยตอนนนั้นต่างคนต่างไปแลกเช็คและมีการเจอกันอีกหลายครั้ง จนกระทั่งในยุครัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ และมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ จำได้ว่าตอนนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ไปพบ ร.ต.อ.เฉลิม ที่ทำเนียบฯ ทุกวันเพื่อขอสัมปทานไอบีซี แต่ต่อมาเมื่อ ร.ต.อ.เฉลิมให้สัมปทานกับบริษัท ไทยสกาย ของกลุ่มกาญจนพาส ก็ได้สร้างความโกรธแค้นให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หาว่าถูกหักหลัง
นายสนธิ กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มาโชคดีที่ได้สัมปทานโทรศัพท์มือถือขององค์การโทรศัพท์ฯ จนร่ำรวย แต่ตนเองไม่เคยอิจฉาต่างคนต่างอยู่ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้อะไร ในทางตรงข้ามกลับมีแต่ให้ ยกตัวอย่างกรณีแบ่งขายหุ้นบริษัท ไออีซี ในราคาหุ้นละ 10 บาท ขณะราคาตลาด 250 บาท และเมื่อนำไปขายได้กำไรถึง 750 ล้านบาท เป็นเครื่องยืนยันว่าตนไม่เคยได้อะไรจาก พ.ต.ท.ทักษิณ มีแต่ให้
ต่อมา นายสนธิ เล่าว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์การยึดอำนาจ รัฐบาล พล.อ.ชาติชาย โดยคณะ รสช. พ.ต.ท.ทักษิณก็ไปวิ่งเต้นเพื่อขอสัมปทานดาวเทียมกับประธาน รสช. ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม ต้องหนีหัวซุกหัวซุนต้องลี้ภัยที่เดนมาร์ก ซึ่งมีสภาพย่ำแย่ ตนเองสงสารจึงให้ นายคำนูณ สิทธิสมานนำเงินสดไปมอบให้ 5 แสนบาท แล้วเมื่อตนได้เจอกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะเดินออกมาพร้อมนายทหารที่กำลังวิ่งเต้นเรื่องดาวเทียมระหว่างไปทานอาหารเที่ยงที่โรงแรมแห่งหนึ่งแล้วถามว่าจะสมทบให้เงินไปช่วยเฉลิมหรือเปล่า พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่าจะให้มันทำไมให้มันเยอะแล้ว มันหักหลังผม
นายสนธิ เล่าความหลังให้ฟังอีกว่า จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ก็เข้ามาเล่นการเมืองในนามพรรคพลังธรรม และเริ่มโกรธตนเองจากกรณีนักวาดการ์ตูนของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการวาดรูป พ.ต.ท.ทักษิณเป็นลิเกทางการเมือง และขอให้ยุติการโจมตี แต่ตนไม่ยอม แต่ก็มีลักษณะต่างคนต่างอยู่
จนมีการลดค่าเงินบาทที่บริษัททุกแห่งในประเทศไทยได้รับผลกระทบหมด ยกเว้นบริษัทของ พ.ต.ท.ทักษิณ รวมทั้งตนเองต้องล้มละลายในปี 2542 ซึ่งยุคนั้นเป็นยุคที่นายธารินทร์ นิมมาณเหมินท์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่ยกประเทศให้กับไอเอ็มเอฟ เหมือนกับยุคนี้ที่นายสมัคร สุนทรเวช และนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยกประสาทพระวิหารให้เขมร
อย่างไรก็ตาม นายสนธิย้ำว่า ได้รับการสั่งสอนจากครูบาอาจารย์ที่บอกว่า แม้จะเสียทรัพย์สินไปเท่าใดก็ตามขอให้รักษาใจไว้ เพราะสมบัติเป็นของนอกกายหาเมื่อไหร่ก็ได้
“คุณทักษิณ และบริวาร ไม่รู้จักผม เพราะถ้าศึกษาตนให้ดีก็จะรู้ว่าเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วที่เคยลุกมาสู้กับ รสช.ก็มีผู้จัดการเจ้าเดียว มาวันนี้ก็มีเอเอสทีวีที่ต่อสู้กับคุณในวันนี้” นายสนธิ ระบุและว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกปองร้าย
นายสนธิ ยังได้เล่าถึงความช่วยเหลือที่หลวงตามหาบัวเคยให้ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ จนมีส่วนสำคัญจนได้เป็นนายกรัฐมนตรี รวมทั้งด้วยญาณวิเศษก็ได้เคยช่วยเหลือให้รอดพ้นจากภัยอันตรายถึงชีวิตจากเหตุการณ์วางระเบิดเครื่องบินการบินไทย แต่ต่อมา พ.ต.ท.ทักษิณก็ไม่เคยเห็นหลวงตาอยู่ในสายตา
นายสนธิ เล่าอีกว่า ที่เคยสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณนั้น เพราะในช่วงก่อนเลือกตั้ง ปี 2544 พ.ต.ท.ทักษิณได้ติดต่อขอไปพบในช่วงรับประทานอาหารเที่ยง และบอกว่ารวยแล้ว อยากจะทำงานให้ประเทศชาติบ้าง ซึ่งตนก็หลงเชื่อจึงได้ให้การสนับสนุน หลังจากนั้นก็ได้จัดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ทางช่อง 9 คอยแก้ต่างให้ทุกสัปดาห์ จนกระทั่งมีนายแพทย์คนหนึ่งเขียนจดหมายมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับการแปรรูปการไฟฟ้า ซึ่งทำให้ตนเจ็บปวดมาก และตัดสินใจเลิกสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณตั้งแต่บัดนั้น แต่สาเหตุที่ทำให้ยิ่งต้องออกมาต่อต้านคือกรณีที่ ไปเป็นประธานทำบุญในวัดพระแก้ว และหลังจากนั้นรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ก็ถูกถอดออกจากช่อง 9 โดยมีลูกน้องใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณแถลงข่าวให้ร้ายตน ตามมาด้วยการกลั่นแกล้งคุกคามต่างๆ นานา
“จนกระทั่งไม่รู้ว่าใครพูด หรือลูกน้องพูดว่าเขาต้องการให้ผมตายเพื่อเป็นของขวัญวันเกิดในวันนี้” นายสนธิระบุและว่าเงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง
นายสนธิ ได้ย้ำกับพี่น้องประชาชนโดยขอสัญญาว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง ก็ขอให้เปลี่ยนความแค้นเป็นพลังเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ดีขึ้นให้ได้ พร้อมทั้งเรียกร้องคนไทยทุกคนหากพี่น้องถูกรังแกก็ขอให้คนไทย โดยเฉพาะกลุ่มลูกจีนรักชาติได้ออกมาให้เต็มบ้านเต็มเมือง
พร้อมกันนี้ นายสนธิยังได้เตือนไปถึงคนในรัฐบาลที่กำลังวางแผนให้เกิดจลาจล ฝากถึง ร.ต.อ.เฉลิม และบางคนเตือนให้ถอยให้เลิกการเมือง ไม่เช่นนั้นไม่รู้หรอกว่านรกเป็นอย่างไรและเปิดเผยว่า ขณะนี้มีการจ้างมือปืนจากทางภาคใต้ชื่อ ย่อ ส.ทักษิณ โดยคนที่ติดต่อมีอักษรย่อ ว.แหวน เป็นคนสงขลา
