มุกเก่า “แม้ว” อโหสิไม่คิดล้างแค้น!! วอนทุกฝ่ายยุติความรุนแรง

“ทักษิณ” ชื่นมื่น เปิดตึกชินฯ 3 ให้ ลิ่วล้อ-แฟนคลับ เบิร์ธเดย์ 59 ปี “ขุนค้อน” ขน ส.ส.นั่งรถสภาฯ อวยพรถึงที่ ชี้ เหตุการณ์ไม่สงบ เกิดจากคนไทยคิดแต่พวกกูพวกมึง ทำชาติลำบาก เผยทำบุญ-อโหสิ ให้เจ้ากรรมนายเวร ยันไม่คิดล้างแค้นวอนทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ย้ำไม่หวนกลับเวทีการเมือง ขออยู่แค่สางคดีจบ พร้อมบินหากินเมืองนอก พร้อมปัด ไม่เกี่ยวแลกผลประโยชน์ “พระวิหาร” เชื่อ รมต.ใหม่ แก้ปัญหาได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (25 ก.ค.) ที่อาคารชินวัตร 3 เมื่อเวลา 11.00 น.พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเพื่อรับอวยพรวันเกิดอายุครบ 59 ปี ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ เป็นการเปิดให้อวยพรล่วงหน้า โดยมีคณะบุคคลต่างๆ เข้าร่วมอวยพรอย่างเนื่องแน่น อาทิ กลุ่มอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย เช่น นาย พงศ์เทพ เทพกาญจนา นายสุธรรม แสงประทุม นายสรอรรถ กลิ่นประทุม นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา น.ส.ศันสนีย์ นาคพงษ์ นาย อดิศร เพียงเกษ และ นายสุชาติ ตันเจริญ ที่ได้นำหลวงพ่อโสธร มามอบเป็นสิริมงคลให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนบุคคลสำคัญที่อยู่ในรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เช่น นายพงศกร อรรนพพร นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รมช.ศึกษาธิการ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายไชยา สะสมทรัพย์ อดีต รมว.สาธารณสุข นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม พ.ต.ท.บรรยิณ ตั้งภากรณ์ รมช.พาณิชย์

สำหรับในส่วน ส.ส.พรรคพลังประชาชน นำโดย นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาคนที่ 1 ได้นำ ส.ส.ประมาณ 10 คน เดินทางมาโดยรถบัสของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และ นายสามารถ แก้วมีชัย ประธานวิปรัฐบาล ได้ยกทีม ส.ส.ประมาณ 10 คน ส่วนคนในครอบครัวชินวัตรที่มา ประกอบด้วย คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมบุตร นายพานทองแท้ น.ส.พิณทองทา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร น.ส.ยิงลักษณ์ ชินวัตร นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้อง สาวพ.ต.ท.ทักษิณ นางเยาวเรศ ชินวัตร พี่สาว พ.ต.ท.ทักษิณ

นอกจากนี้ ยังนายทหารร่วมรุ่นหลายนายเข้ามาอวยพรด้วย พร้อมทั้งยังมีกลุ่มแฟนคลับ “คนรักทักษิณ” สวมเสื้อแดงกว่า 100 คน ได้เตรียมดอกไม้ ของขวัญ ป้ายผ้าให้กำลังใจ พร้อมส่งเสียงร้องเพลง “โปรดช่วยกัน รักษาคนดี” ของ “ตั๊กแตน” ชลดา อวยพร พ.ต.ท.ทักษิณ ตลอดเวลา ในบริเวณทางเข้าอาคารด้านหน้า

อย่างไรก็ตาม การเข้าอวยพรวันเกิดของกลุ่มบุคคลต่างๆ ที่เดินทางมาอวยพร พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนขึ้นไปสังเกตการณ์ใดๆ โอกาสนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้จัดเตรียมหนังสือที่รวบรวมคำกล่าวสุนทรพจน์ของตนเอง ในโอกาสที่กล่าวบนเวทีระดับต่างประเทศ ตั้งแต่ปี 2546-2551 ชื่อ “Thailand on the world stage” (ประเทศไทยบนเวทีโลก) ปกแข็งสีขาวพิมพ์ด้วยกระดาษสี่สีอย่างดี มามอบให้กับคณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าอวยพรวันเกิดในครั้งนี้

จากนั้นเวลา 13.00 น.พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ลงมาพบกลุ่มแฟนคลับที่ให้กำลังพร้อมทั้งรับดอกไม้ของขวัญวันเกิด และได้ถ่ายรูปแจกลายเซ็นให้กับประชาชนเป็นเวลาประมาณ 30 นาที จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ได้คว้าโทรโข่ง (เครื่องขยายเสียงมือถือ) ของแกนนำแฟนคลับ กล่าวว่า ขอบคุณทุกคน ที่แสดงความรักความห่วงใยแก่ตนมาตลอด โดยเฉพาะตอนที่ต้องไประหกระเหินอยู่ต่างประเทศ ก็ได้ช่วยกันส่งกำลังใจ และเรียกร้องต่อสู้กับเผด็จการเพื่อให้ตนได้กลับมา วันนี้แม้จะกลับมาแล้ว เหตุการณ์ก็ยังไม่สงบ เนื่องจากความไม่เข้าใจกันในหมู่คนไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครพึงปรารถนา จึงอยากให้ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

ตนได้แต่เรียกร้องวิงวอน และพยายามไม่ไปยุ่งเกี่ยวอะไร เพราะอยากให้เหตุการณ์ทุกอย่างสงบและยุติโดยเร็ว แต่ถ้าต่างคนต่างกลั่นแกล้งทำร้ายกันและกัน คงยุติยาก หากทุกคนยังคิดว่าเป็นคนไทยด้วยกัน ต้องรวมพลังกันไว้ ถ้าเรานึกตรงนี้ก็ไม่ยากที่จะยุติปัญหา แต่ถ้าคิดว่าเป็นพวกกูพวกมึง ทั้งที่เป็นคนไทยด้วยกัน มันก็ลำบาก หวังว่าสักวันคงคิดกันได้ว่า เราคนไทยด้วยกัน ดังนั้น ตราบใดที่เรามีความรักความผูกพันและความเป็นไทยต่อกัน คิดว่าจะผ่านพ้นวันแห่งความวุ่นวายที่เป็นมาแล้ว 3 ปีได้ ความไม่สงบของบ้านเมืองที่เกิดขึ้น คนที่เดือดร้อนมากที่สุด คือคนไทยที่หาเช้ากินค่ำ คนยากจน ส่วนคนที่กินเงินเดือนคงเดือดร้องไม่มากเท่า แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ ประเทศชาติเสียหาย

“ผมอยากฝากว่า ผมเข้าวัดทำบุญนั่งสมาธิ อโหสิกรรมทุกวัน กรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร ผู้จองเวรทั้งหลายตลอดเวลา ตัวผมนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ เรื่องใหญ่คือประเทศ อยากเห็นชีวิตคนไทยดีขึ้น หวังว่าคนไทยทุกคนจะให้อภัยกัน และนำความสันติกลับสู่ประเทศโดยเร็ว พวกเราเป็นผู้รักสันติ และอยู่ในกรอบตลอดเวลา แต่ขณะนี้บ้านเมืองเริ่มไม่มีกรอบกันมาขึ้น จึงอยากให้ทุกคนอดทนกันต่อไป สักวันสิ่งที่ดีย่อมชนะสิ่งที่ไม่ดี วันนี้เขาไม่เข้าใจเรา สักวันเขาจะเข้าใจเรา เมื่อเข้าใจเรา ก็จะรู้ว่ามันเสียหายไปเยอะแล้ว หวังว่าทุกคนจะอดทน และจะอยู่ในกรอบต่อไป” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

พ.ต.ท.ทักษิณ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ตนอยากเห็นความปรองดองของคนในชาติ ไม่อยากเห็นความขัดแย้งที่มีอยู่มากมายแบบนี้ ขอเรียนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในวันนี้ มันไม่ใช่กระเทือนขวัญคนไทยเท่านั้น แต่คนทั้งโลกที่เขาติดตามประเทศไทย ที่รักประเทศไทย ที่เคยมาเที่ยวมาลงทุนในประเทศไทย ต่างก็บอกว่าเขาอยากเห็นประเทศไทยสันติ และเป็นสยามเมืองยิ้ม เหมือนที่เราเคยได้รับการเรียกขานมานาน อยากให้สิ่งเหล่านั้นกลับคืนสู่ประเทศไทยโดยเร็ว

“วันนี้ผมขอให้ทุกฝ่ายได้รู้ว่าผู้ที่ได้ทำอะไรไม่ดีต่อผม ผมก็ไม่ได้คิดที่จะไปล้างแค้นเจ็บใจอะไร แต่ตรงข้ามก็คิดว่าคนเรามันมีอารมณ์ มีความรู้สึกกันได้ แต่อยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน เพื่อให้ประเทศเข้าสู่ความปรองดองถวายพระเจ้าอยู่หัวในวันที่ 5 ธันวาคมที่จะถึง และถวายสมเด็จฯในวันที่ 12 สิงหาคมนี้ อยากให้ทุกคนได้ร่วมใจกันว่าถ้าใครที่ว่ารักเจ้านายก็ต้องมาร่วมใจกันหันหน้าเข้าหากันให้ความปรองดองในชาติเกิดขึ้น” พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯ ปะทะกับกลุ่มต่อต้านโดยมีการใช้อาวุธทำให้เกิดความรุนแรง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนคิดว่าเราคนไทยด้วยกัน หันไปทางไหนก็คนไทยทั้งนั้น เราสู้เก็บแรงเก็บสมอง เก็บปัญญาคนไทยด้วยกัน เอาไว้ต่อสู้กับสิ่งที่มากระทบต่อประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ สังคม เรายังต้องต่อสู้อีกมาก เราเก็บพลังคนไทยไว้ดีกว่าที่จะห่ำหั่นฆ่าฟันกันเอง อยากเรียกร้องทุกฝ่าย

เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน เพราะต่างฝ่ายก็ทิฐิกันอยู่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ก็บางครั้งเราก็ถือทิฐิใส่กันมากเกินไป ปล่อยวางไม่ได้ ลองปล่อยวางและคิดว่าคนเราไม่มีใครอยู่ยงคงกะพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นอายุไข หรือตำแหน่ง ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอนิจจัง หากเราเข้าใจคำนี้เราก็ควรที่จะปล่อยวางแล้วหันหน้าเข้าหากันแบบคนไทยด้วยกันดีกว่า

เมื่อถามความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนใจเข้ามาทำงานการเมือง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่หรอก ใจจริงๆ แล้วตนอยากให้เสร็จเรื่องราวของตน แล้วก็อยากจะไปทำมาหากินอยู่ต่างประเทศ เมื่อถามว่าในตอนนี้มีความเป็นห่วงในเรื่องคดีหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ก็ทำไป ตนเป็นคนเคารพกติกา ก็อยากขอร้องให้ทุกฝ่ายคนที่กลั่นแกล้งตน ก็ขอให้เคารพในกติกาด้วย ตนอยากให้ทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ตอนนี้ก็ทำมีมฟุตบอลแมนฯซิตี้ ก็กำลังจะเปิดฤดูกาลแข่งขัน ซึ่งการจะขอออกไปต่างประเทศนั้นก็คงต้องดูภารกิจที่จะต้องไปดำเนินการ

เมื่อถามถึงกรณีการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารที่ไทยยอมให้ขึ้นทะเบียนนั้นเพราะแลกกับการทำธุรกิจ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวเลยฮะ ไม่เกี่ยวเลย ความจริงแล้วต้องอยู่กันด้วยเหตุผล อย่าอยู่กันแบบไม่มีเหตุผล ผมคิดว่า อีก 2-3 วันนี้ถ้าทางรัฐบาลได้รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่แล้ว ก็คงจะเป็นคนที่แก้ปัญหานี้ได้ไม่ยาก เพราะความสัมพันธ์ของเรากับประเทศเพื่อนบ้านดีอยู่แล้ว

เมื่อถามรัฐมนตรีที่จะเข้ามาแก้ปัญหาควรมีคุณสมบัติอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ตนคิดว่า คนที่ทางรัฐบาลจะเสนอออกมานั้น ก็คิดว่าคงจะเป็นคนซึ่งพูดกับทุกฝ่ายได้ ให้เข้าใจให้อยู่ด้วยเหตุและผล ไม่ให้อยู่ด้วยอารมณ์หรือความเป็นพวกพ้อง ตนอยากบอกว่าโดยทั่วโลกนั้นนโยบายต่างประเทศถือว่าเป็นเรื่องประเทศ ไม่ใช่เป็นเรื่องของพวกหรือฝ่าย หรือพรรค เมื่อถามว่าห่วงสถานภาพของรัฐบาลในปัจจุบันอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า ไม่หรอกครับ ทุกอย่างให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย

น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยว่า สำหรับในวันที่ 26 ก.ค.ซึ่งตรงกับวันเกิดจริงของ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ จะตักบาตรร่วมกับครอบครัว และไม่ได้เดินทางไปฉลองที่จังหวัดเชียงใหม่แต่อย่างใด เพราะคนในครอบครัวต้องการความเป็นส่วนตัว จึงน่าจะเป็นเพียงการจุดเทียนและเป่าเค้กกันภายในครอบครัวมากกว่า