“สมเกียรติ” ซัด “หมัก” หงอเจรจาเขมร!ผวาเสียสัจจะไทยไม่เสียดินแดน

“สมเกียรติ” อัดยับ “หมัก” ธาตุไฟใกล้แตก ส่ง “บุญสร้าง” เจรจาเขมรแทน ชี้ชัดถือเป็นการกลืนน้ำลายตัวเองเพราะกลัวเสียหน้าหลังเคยประกาศว่าการขึ้นทะเบียน “ปราสาทพระวิหาร” เป็นมรดกโลก จะไม่ทำให้ไทยจะเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว พร้อมหนุน “ผบ.สส.” เจรจาบรรลุผล-ขับไล่ชาวเขมรพ้นเขตพื้นที่ทับซ้อน

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ปราศรัย 

วานนี้ (20 ก.ค.) นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวทีปราศรัย โดยกล่าวถึงความคืบหน้ากรณีข้อพิพาทปราสาทเขาพระวิหารว่า การที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวกรณีไทยเสียดินแดน พร้อมกับยันยืนยันว่าจะออกโทรทัศน์เพื่อตอบโต้กลุ่มพันธมิตรฯ เป็นศัตรูหมายเลข 1 แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน ฉะนั้น ธาตุไฟของนายกฯ จึงใกล้ที่จะแตกแล้ว เพราะแทนที่จะมองฮุนเซนซึ่งมาเอาดินแดนของเราไป กลับมองว่าพันธมิตรฯ เป็นศัตรูหมายเลข 1

“ต้องขอขอบคุณหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ซึ่งตีพิมพ์บทบรรณาธิการพิเศษ ถึงกรณีที่นายกฯ พูดคำว่าไอ้บ้า 3 ตัว เป็นพระภิกษุ 1 รูป และเป็นชาวบ้าน 2 คน โดยเดลินิวส์ระบุว่า ไอ้บ้า 3 ตัว ทำให้คนไทยตาสว่าง เนื่องจากเป็นเหตุทำให้แผ่นดินไทย 4.6 กิโลเมตร ต้องตกไปเป็นของเขมรเรียบร้อยแล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่กล้าออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลถอนทหารอย่างเปิดเผยออกจากพื้นที่เขาพระวิหาร นอกจากนี้ นายสมัครเคยยืนยันว่าการสนับสนุนให้เขมรขึ้นทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารไม่ได้ทำให้ให้ประเทศไทยเสียดินแดนนั้น ต้องถามว่า ในฐานะที่นายสมัคร เป็นหัวหน้ารัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไร เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏเช่นนี้ แต่นายสมัคร รับผิดชอบโดยการออกทีวีด่าพันธมิตรฯ เพราะพันธมิตรฯ เป็นต้นเหตุทำให้เสียดินแดน โดยเดลินิวส์สรุปว่า ไอ้บ้า 35 ตัว ทำให้ไทยต้องสูญเสียดินแดน” นายสมเกียรติ กล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เป็นที่ประจักษ์ว่าไทยได้เสียดินแดนไปแล้ว เพราะเขมรออกมายืนยันว่าเป็นพื้นที่ของเขา เพราะในพื้นที่เดียวกันเรามีรัฐมนตรีตาเหล่ ทำให้มองไม่เห็น โดยเฉพาะนายสมัครที่ออกมาระบุว่าตั้งแต่เกิดมา กระทรวงการต่างประเทศไม่เคยเสียเกียรติภูมิขณะนี้ต้องขอบอกว่าตั้งแต่กระทรวงการต่างประเทศตั้งมา 116 ปี ก็มาเสียเกียรติภูมิในสมัยที่นายสมัครเป็นนายกฯ นี่เอง ซึ่งน่าจะเป็นเหตุให้สมัครไม่กล้าสู้หน้าฮุนเซน เพราะหลงไปพูดว่า ไทยไม่เสียดินแดน จึงส่งให้ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผบ.สส.ไปเจรจาแทนที่อรัญประเทศ ซึ่งจะใช้ 3 มาตรการในการเจรจา ฉะนั้นจึงต้องขอขอบคุณ พล.อ.บุญสร้าง ที่ออกมาให้สัมภาษณ์เมื่อวัน 7 วันที่แล้วว่า ฝ่ายทหารพร้อมขับไล่เขมรพ้นแผ่นดินไทย เพื่อนรักษาสถาบันสถาบันชาติ และสถาบันกษัตริย์

“พวกเราจะไม่เสียดายเงินภาษีอากรให้กับกระทรวงกลาโหม จำนวน 16 หมื่นล้านบาทต่อปีเลยแม้แต่น้อย ถ้ารัฐบาลออกมาปกป้องอธิปไตย และรักษาสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่สำคัญ พล.อ.บุญสร้าง ยืนยันว่า 1.จะมีการล้อมรั้วลวดหนามบนพื้นที่บริเวณปราสาทเขาพระวิหาร แต่ถ้าไม่ทำ ก็ขอให้เปลี่ยนจากรั้วเป็นสายสินแทน 2.สำหรับพื้นที่ทับซ้อน 4.6 กิโลเมตรนั้น มีประชาชนกรเขมรอยู่ 990 คน โดยทหารไทยจะผลักดันออกไปจากพื้นที่อย่างแน่นอน แต่ถ้าท่านไปเจรจาให้เขาถอยเพียงก้าวเดียว 3.จะแจ้งการยกเลิกแถลงการณ์ร่วมขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งไทยเสียเปรียบเพราะรัฐมนตรีเหล่ และถ้าจำไม่ได้ ให้ไปเปิดดูเว็บไซต์ผู้จัดการในวันที่ 13 ก.ค.2551 ซึ่ง พล.อ.บุญสร้าง ยืนยันว่า พร้อมแล้วที่จะขับไล่เขมรออกนอกพื้นที่ แต่ผมฝันว่า พล.อ.บุญสร้างถูกน๊อคยก 3” แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว

อ่านบทสัมภาษณ์ของ พล.อ.บุญสร้าง แล้ว มีความปีติยินดี เพราะสมกับที่ พล.อ.บุญสร้าง เคยเป็นทหารที่เรียนดีที่สุด โดยสามารถจบด็อกเตอร์ในบรรดาไม่กี่คน แต่ถ้าเจรจาไม่สำเร็จ ก็ขอให้อยู่แถวบริเวณเขาพระวิหาร ไม่ต้องกลับมากองทัพ โดยไปเป็นฤษีอยู่แถวนั้น แต่ถ้าเจรจาสำเร็จ เราก็จะเอาดอกไม้ไปมอบให้ และเราจะไม่พูดเรื่องทหารอีกเลย แต่ตนคิดว่า การเจรจาที่จะเกิดขึ้นนั้น คงไปไม่ถึงดวงดาว

“นายสมัครออกอาการธาตุไฟแตก เพราะไปวิพากษ์วิจารณ์และว่ากล่าวศาลปกครองไปหลายคำ หลังจากศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวกรณีแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยครั้งที่ 2 พอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า แถลงการณ์ดังกล่าวเป็นหนังสือสัญญาประเภทหนึ่ง ซึ่งถ้าไม่ขอความเห็นชอบต่อรัฐสภา ถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 190 โดยจะนำไปสู่การถอดที่ ป.ป.ช.ทั้งคณะ ทำให้คนกลุ่มนี้ดิ้นสุดตัวทั้งคณะ โดยให้ ส.ส.เข้าชื่อถอดถอน ป.ป.ช. แต่ถึงอย่างไรผมคิดว่า ป.ป.ช.ก็สามารถถอดถอนได้แน่นอน” นายสมเกียตริ กล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า หลังจากพันธมิตรฯ ไปปิดล้อม กกต. ทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้งดูดีขึ้น อีกทั้ง ป.ป.ช.มีมติส่งรายการชิมไปบ่นไป ไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้นายกฯ ประสาทหลอน ซึ่งเป็นการดีถ้านายกฯ ถูกตัดสินให้มีความผิด เพราะกรณีที่นายสมัคร ออกมาระบุว่า รายการชิมไปบ่นไป ทำโดยมีเอกสารระบุชัดเจนว่าเป็นเพียงผู้แสดง จึงเป็นเพียงคนรับจ้าง ไม่ใช่ลูกจ้าง และคนเขาจ้างมา 7 ปี จึงถือว่าวิปริต และนายสมัครเสียฟอร์มมาก ทั้งๆ ที่เรียนกฎหมายจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดังนั้นจึงใกล้เวลาสวดส่งวิญญาณกันแล้ว

“มาวันนี้จึงเกิดเรื่องน่าเศร้าใจ เพราะนายสมัคร ในฐานะ รมว.กลาโหม ไม่ยอมไปเจรจากับนายเตีย บัน รมว.กลาโหม กัมพูชา เรื่องข้อพิพาทเขาพระวิหารด้วยตัวเอง โดยมีสาเหตุคือ ต้องมาออกรายการไฟธาตุแตก ทำให้ไม่มีเวลา แต่คาดว่าสาเหตุที่นายสมัคร ไม่กล้าไป เพราะระบุว่าถ้าขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกแล้ว ไทยจะไม่เสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว แต่เสียดินแดนทางทะเลเพียงเล็กน้อยเพียง 26,000 ตารางกิโลเมตร” แกนนำพันธมิตรฯ กล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า อีกไม่กี่วันข้างหน้า หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไปเจรจากับสมเด็จฮุนเซน เรื่องการขุดเจาะน้ำมันปริมาณมาก กับแก๊สที่เชื่อว่าใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยบริษัทของนายจอร์จ บุช เป็นนายทุนที่เกี่ยวกับกิจการน้ำมันของโลก จะบินมาที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อเจรจากับอดีตนายกฯ ที่ไปเช่าเกาะกงได้ 99 ปี ถึงวันนั้นขอให้ชาวเชียงใหม่ซึ่งขับไล่พันธมิตรฯ ไปต้อนรับ 2 คนดังกล่าวให้ดี เพราะเราจะเห็นความเกี่ยวโยงของพวกเขา โดยเฉพาะกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปตั้งสโมสรเพื่อดึงนักธุรกิจชั้นยอดทั่วโลกไปลงทุนในเกาะกงเพื่อขุดเจาะน้ำมัน ซึ่งกลยุทธอันร้ายกาจถูกออกแบบโดยผ่านนายกฯ และอดีต รมว.ต่างประเทศของไทย โดยมูลค่าทั้งสิ้นขั้นต่ำกว่า 5 ล้านล้านบาท ซึ่งเท่ากับงบประมาณของไทยทั้งประเทศกว่า 5 ปี