xs
xsm
sm
md
lg

อดีตบิ๊กทหารสับ “หุ่นเชิด” ขัดขวางคนรักชาติเข้าข่ายกบฏ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์
อดีตบิ๊กทหารย้ำภารกิจรุ่นน้องรักษาเขตแดนพระวิหาร ใครล้ำแดนจัดการทันที ไม่ต้องรอคำสั่ง อัดรัฐบาลหุ่นเชิดขัดขวาง ปชช.แสดงความรักชาติ ถือว่าเป็นกบฏ พร้อมชี้ปาหี่หยุดยิงหวังเบนประเด็นจนแต้มคดีเขาพระวิหาร ด้านอดีตสายลับเตือนอันตรายจัดแกนนำใต้ดินแถลงข่าว หยุดยิงโดยไม่ต่อรองเป็นไปไม่ได้

 คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "รู้ทันทหารไทย"

รายการ “รู้ทันทหารไทย” บนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ดำเนินรายการโดย พล.ร.ท.ประทีป ชื่นอารมณ์ อดีตผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติการลำน้ำโขง (นปข.) เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้เชิญ พล.ร.ท.อรุณ เสริมสำราญ อดีตรองผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการรักษาความปลอดภัย ซึ่งเคยปฏิบัติหน้าที่สายลับในประเทศกัมพูชา และ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ อดีตรองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ที่ปรึกษาศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม (ศูนย์คุณธรรม) มาร่วมรายการ

พล.อ.ปรีชา ได้กล่าวถึงปฏิบัติการทางทหารที่เขาพระวิหารว่า ถ้าตนเป็นผู้บังคับกองกำลังในพื้นที่ สิ่งแรกที่จะทำ คือไล่เขมรที่อยู่ในบริเวณนั้นออกให้หมด แค่นั้นเอง เพราะเรามีหน้าที่รักษาอธิปไตย ทหารที่อยู่ในแนวชายแดนต้องวิเคราะห์ภารกิจให้ชัดเจน ภารกิจของเราคือการรักษาเขตแดน ถ้ามีการล้ำแดนไม่ต้องรอให้มีใครสั่ง เรื่องลักษณะนี้ตนเคยทำมาแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร

“อย่าทำเรื่องที่ไม่ใช่ปัญหาให้เป็นปัญหา เพราะอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าไม่คิดถึงชาติ ไม่คิดถึงอธิปไตย ไม่คิดถึงพระเจ้าอยู่หัว ก็จะเป็นแบบนี้แหละ เหมือนมีคนใช้ ที่เราจ้างมาทำความสะอาดบ้าน นกมาขี้ คนใช้ก็ยืนเฉยๆ อย่างนี้มันไม่ถูก หรือเราจ้างยาม บอกว่า ไม่ให้ใครเข้ามานะ ถ้ามีใครแงะประตูเข้ามาต้องถีบทันที

ผมคิดอะไรง่ายๆ ตามธรรมชาติ เพราะผมไม่มีประโยชน์ทับซ้อน ถ้ารักชาติ และไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน อะไรๆ มันก็ง่ายไปหมด อย่าว่าแต่จะถูกปลดเลย แม้ตายก็ยอม บ้านเมืองเราที่อยู่มาถึงวันนี้ได้ ก็เพราะบรรพรุษของพวกเราคิดอย่างที่ผมบอก”

พล.อ.ปรีชา กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 17 ก.ค.ซึ่งประชาชนในเครือข่ายของพันธมิตรถูกเจ้าหน้าที่และม็อบจัดตั้งสกัดกั้นไม่ให้ขึ้นไปบนเขาพระวิหารนั้น ตนก็อยู่ในพื้นที่ และเห็นว่ารัฐบาลได้ใช้อำนาจสกัดกั้นความรักชาติของคนไทย ซึ่งการขัดขวางไม่ให้กดดันข้าศึกนั้น คือการกบฏ เพราะว่าได้ขัดขวางความรักชาติของคนไทย ที่ทำตามมาตรา 70 และ 71 ของรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า คนไทยมีหน้าที่ปกป้องชาติ

“เรื่องรบกันไม่ยาก มันอยู่ที่ใจ อยู่ที่ว่าเรากล้าหาญ รักชาติ จงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์หรือไม่ เท่านั้นเอง ซึ่ง ขณะนี้มันไม่ใช่ เรามีรัฐบาลที่หน่อมแน้มถึงเป็นปัญหา และขอยืนยันว่าไม่มีเขตทับซ้อนมีแต่เขตแดนไทย”

พล.อ.ปรีชา กล่าวอีกว่า ตอนแรกๆ นายสมัครยืนยันว่าพื้นที่เป็นของเขมรแน่นอน แต่เมื่อถูกกดันมากๆ ก็บอกว่าเป็นพื้นที่ทับซ้อน และล่าสุดบอกว่าเป็นของไทย ซึ่งคนที่ทำหน้าที่เป็นแค่ตัวแทน ไม่มีอำนาจที่แท้จริง ก็มักจะทำอะไรผิดพลาดซ้อแล้วซ้ำเล่าอย่างนี้

พล.อ.ปรีชา กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มใต้ดินรวมภาคใต้ของประเทศไทยแถลงหยุดยิง โดยการติดต่อของ พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร อดีต รมว.กลาโหม ซึ่ง พล.อ.เชษฐาบอกว่าจะขอรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวว่า ไม่รู้ พล.อ.เชษฐาจะรับผิดชอบอะไร เพราะมันไม่มีอะไรเลย และเรื่องนี้น่าจะเป็นการสร้างข่าวกลบกระแสเขาพระวิหาร ซึ่งเป็นประเด็นร้อน รัฐบาลจวนตัวจนแต้มทุกวันๆ ต้องมีอีกคนมาสร้างประเด็นใหม่ เรียกว่าเป็นการเบนประเด็น

“ผมนี่แหละคนดำเนินงานควบคุมสถานการณ์ภาคใต้อย่างปิดทองหลังพระ สมัยที่ พ.ต.ท.ทักษิณยังมีอำนาจเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 เม.ย.2547 มีเหตุการณ์ปล้นปืนที่กองพันพัฒนาที่ 4 หลังจากนั้น 3-4 วันผมกับภรรยาขับรถเปอโยต์ 505 ตระเวนดูตามที่เกิดเหตุฆ่ากันตายในแต่ละที่ แล้วมาให้ข้อคิดเห็นต่อทักษิณว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ถ้าห่วงภาคใต้ ปรากฏว่าทักษิณไม่เอาสักอย่าง เอาอย่างเดียว เอากระเป๋าเงินลงไปจะซื้อเสียง เพราะตอนนั้นกำลังจะเลือกตั้ง เม็ดเงินทุกเม็ดจึงตกไปอยู่กับผู้ก่อการร้าย ความแข็งแรงจึงเพิ่มพูนขึ้นตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา”

พล.อ.ปรีชา กล่าวฝากไปถึงนายทหารรุ่นน้องในกองทัพบกว่า ตนเป็นคนที่หวังดีและมีความรักชาติอย่างแท้จริง เพราะฉะนั้น ที่เคยบอกอะไรไว้ให้รีบทำเสีย ทั้งนี้ จากประสบการชีวิตที่ผ่านมา ไม่มีอะไรที่เป็นอุปสรรค เพราะอุปสรรคจะแปรเป็นพลังให้เรามากขึ้น ให้เราเอาชนะได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเขาพระวิหาร ปัญหาภาคใต้ก็ดี ถ้าทุกคนทำทุกอย่างด้วยความรักชาติ รักพระเจ้าอยู่หัว เสียสละเพื่อส่วนรวม

“โดยเฉพาะ พล.อ.บุญสร้าง ก่อนไปเจรจากับเขมร ขอให้นึกถึงพี่ นึกถึงคำที่ว่า ให้ใช้เข็มทิศในการเจรจา คือ สำนึกในชาติ และพระเจ้าอยู่หัว เราชนะแน่นอน”

ด้าน พล.ร.ท.อรุณ เสริมสำราญ กล่าวว่า ตามตำราพิชัยสงครามของซุนวูนั้น บอกว่ากองทัพจะเกิดปัญหาด้วย 3 สาเหตุ คือ กองทัพยังไม่พร้อมจะรุกแต่สั่งให้รุก กองทัพยังไม่พร้อมจะถอยแต่สั่งให้ถอย และ ไม่รู้หลักการทหารแต่เข้ามาควบคุมทหาร นี่คือสภาพที่กองทัพไทยกำลังประสบปัญหา

กรณีที่ พล.อ.เชษฐา นำผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นหัวหน้ากลุ่มใต้ดินฯ มาแถลงข่าวการหยุดยิงนั้น พล.ร.ท.อรุณ กล่าวว่า โดยหลักการแล้วคนที่ได้ข้อมูลมาจะไม่เปิดเผยแหล่งข่าว และถ้าดูจากคำให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีต ผอ.รมน. ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของตน ก็ยืนยันตามที่ พล.อ.พัลลภได้พูดไว้ว่าไม่ใช่ตัวจริง และการที่ พล.อ.เชษฐา ซึ่งตอนนี้เป็นนักการเมืองรีบให้มาแถลงข่าวทันทีถือว่าไม่เหมาะ

“ผมว่าเป็นการพลาดอย่างยิ่งใหญ่ เพราะแหล่งข่าวที่เขาเอามาเปิดนั้น เขาเป็นคนเชื้อสายมุสลิม เขารู้อยู่แล้วว่าภาคใต้เรามีชาวมุสลิมอยู่มาก ซึ่งอันที่จริงชาวมุสลิมที่รักชาติก็มีอยู่เยอะแยะ แต่ขณะเดียวกันก็มันเป็นเงื่อนไขให้เขาเคลื่อนไหวได้ เพราะฉะนั้นแหล่งคนที่บอกว่าจะหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไขนั้น มันตอแหลครับ

“ถ้ามันเป็นตัวจริง มันต้องขอต่อรอง เพราะพื้นที่ที่ใกล้ภาคใต้ของเราที่สุดคืออินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีมุสลิมมากที่สุดในโลก ถ้าเขาเอามาต่อรองประเทศไทยจะเสียประโยชน์”

อย่างไรก็ตาม พล.ร.ท.อรุณ กล่าวว่า ในยามนี้ศัตรูที่สำคัญที่สุดของคนไทยคือพวกเรากันเอง คือรัฐบาลขายชาติรัฐบาลนี้ ถ้าเอาออกไปไม่ได้ ประเทศเราก็ยากที่จะเจริญรุ่งเรือง เราต้องรอจนกว่าเมื่อใดที่ประเทศไทยได้ผู้นำที่ดี ซื่อสัตย์สุจริต เมื่อนั้นเราถึงจะรวมกันเป็นปึกแผ่นได้ และอยู่ดีกินดีโดยทั่วกัน
พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ
พล.ร.ท.อรุณ เสริมสำราญ
กำลังโหลดความคิดเห็น