ผบ.ทบ.ย้ำดับไฟใต้เริ่มได้ผลเร่งป้องกันฆ่ารายวัน

ผู้บัญชาการทหารบกยืนยันการปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนใต้ได้ผลดี ยังไม่เป็นจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแก้ไขอะไร แต่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและรอบคอบ พร้อมเน้นย้ำเรื่อง “เข้าใจ-เข้าถึง-พัฒนา” ให้ทั่วถึง ขณะเดียวกัน เผยเริ่มส่งความช่วยเหลือให้พม่าที่ประสบพายุนาร์กีสแล้ว

วันนี้ (6 พ.ค.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ระยะนี้เกิดเหตุขึ้นบ่อยครั้งว่า การเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุระเบิดต้องยอมรับเป็นเรื่องยาก และต้องใช้เครือข่ายประชาชนที่เข้าใจการปฏิบัติงานของฝ่ายทหาร และอยู่กับฝ่ายทหารให้ช่วยกันเฝ้าระวังตลอดเวลา ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือไม่ให้เกิดกรณีฆ่ารายวัน

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า มาตรการการปฏิบัติงานในปัจจุบันได้ผลดีอยู่แล้ว ไม่มีอะไรต้องปรับเปลี่ยน เพียงแต่จะทำอย่างไรให้เกิดความต่อเนื่อง ทั้งกำลังพลในส่วนที่อยู่กับประชาชนเพื่อสร้างความเข้าใจกับส่วนที่ปฏิบัติการทางทหารที่จะต้องปฏิบัติทุกอย่างให้เป็นไปตามกฎหมาย พยายามทำให้ละเอียดรอบคอบมากขึ้น

เมื่อถามถึงการสับเปลี่ยนกำลังที่จะมีขึ้นในเดือนตุลาคมนี้ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เป็นนโยบายระดับสูงว่าผู้ที่จะลงไปปฏิบัติหน้าที่ใหม่จะต้องรับการปฐมนิเทศและลงไปอยู่ในพื้นที่ก่อนรับมอบงาน 1 เดือน ทั้งนี้ เพื่อให้การทำงานต่อเนื่อง และไม่สะดุดติดขัด ขณะเดียวกัน การปฏิบัติหน้าที่ตามแนวนโยบายพระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” จะต้องเรียนรู้ในหลายเรื่องที่มีรายละเอียดมาก ทั้งเรื่องความเข้าใจขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม ศาสนา สิ่งใดควรทำสิ่งใดไม่ควรทำ ทั้งนี้ เพื่อให้การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี การปรับความคิดและความเชื่อของคนในพื้นที่จะค่อยๆ พัฒนาให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น

ผู้บัญชาการทหารบก ยังกล่าวถึงการทำงานในกรอบของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ว่า ขณะนี้แม้ว่า พ.ร.บ.กอ.รมน.จะออกมาแล้ว แต่ต้องใช้เวลาอีกระยะเพื่อจัดตั้งองค์กรและคณะกรรมการมาบังคับใช้ตามพระราชบัญญัติ ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการ เมื่อเสร็จเรียบร้อยจะเชิญนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มามอบนโยบาย ทั้งนี้ การทำงานของ กอ.รมน.ตามโครงสร้างใหม่จะต้องมีส่วนราชการหลายส่วนเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งจะต้องบูรณาการการทำงานให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และเพื่อนำนโยบายต่างๆ นั้นมากำหนดเป็นแผนงานและโครงการระหว่างที่ยังจัดโครงสร้างใหม่ไม่เสร็จ เจ้าหน้าที่ยังคงทำงานตามแผนงานและโครงการเก่าอยู่ ซึ่งคาดว่าภายในปี 2552 จะเริ่มดำเนินงานตามแผนงานและโครงการของ กอ.รมน.ในบทบาทและภารกิจใหม่ได้

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก เปิดเผยว่า ได้เตรียมพร้อมทั้งเฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบิน สำหรับการเคลื่อนย้ายไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุไซโคลนนาร์กีส ในประเทศพม่า โดยเที่ยวบินแรกที่จะส่งไปนั้นจะใช้เครื่องบินของกองทัพอากาศก่อน แต่จะไม่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือคนไทยที่อาศัยอยู่ในพม่า โดยให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ

/0110