ตำรวจนครบาลเอาใจ “สมัคร-โกวิท” เสนอศาลอาญา ขออนุมัติหมายจับกุม แกนนำพันธมิตรแล้ว ด้านทนายความพันธมิตรเตรียมยื่นศาลคัดค้านการออกหมายจับ ขณะที่ “โกวิท” ยังไม่หยุด เตรียมเสนอออกหมายจับเพิ่ม
วันนี้ (27 ส.ค.) ที่ศาลอาญา เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้นำคำร้องพร้อมพยานหลักฐานเสนอต่อศาลเพื่อขออนุมัติหมายจับกุม นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายสมศักดิ์ โกสัยสุข นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และนายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรฯ ในข้อหามั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีผู้กระทำความผิดเป็นหัวหน้า เป็นผู้มีหน้าที่สั่งการ ซึ่งเป็นข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และมาตรา 126 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
อย่างไรก็ตาม ทางด้านนายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เตรียมยื่นคำร้องเพื่อขอคัดค้านการออกหมายจับต่อไป
ส่วนความเคลื่อนไหวที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีการเรียกประชุมนายตำรวจเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งจะเดินหน้าเตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกจำนวนหลายราย
ด้าน พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ปักหลักอยู่บริเวณภายในทำเนียบรัฐบาลขณะนี้ว่ายังมีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยปักหลักชุมนุมอยู่ที่บริเวณตึกไทยคู่ฟ้า กว่า 18,000 คน โดยเป็นกลุ่มเดียวกับที่บุกเข้าทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้(26 ส.ค.) ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวพยายามขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลเข้าทำงานได้ โดยปิดประตูทางเข้า-ออกทุกด้าน ส่วนสถานการณ์การชุมนุมยังเป็นไปลักษณะเดียวกันกับการชุมนุมอย่างต่อเนื่องตลอด 90 วันที่ผ่านมาบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ แต่การชุมนุมในครั้งนี้เป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย และไม่มีความชอบธรรมในการชุมนุมเนื่องจากไม่ได้เป็นการชุมนุมในถนนสาธารณะอย่างที่เคยเป็น
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวต่อไปว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สับเปลี่ยนกำลังและนำกำลังเข้าไปเสริมในพื้นที่ เพื่อให้เห็นว่าอำนาจรัฐในการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายยังคงมีอยู่ และจะดูแลการชุมนุมให้อยู่ในความเรียบร้อย โดยในช่วงเช้าวันนี้ (27 ส.ค.) จะนำข้อมูลต่างๆ ไปปรับแผนเพื่อรองรับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งเรายังยืนยันจะใช้แนวทางการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างละมุนละม่อม เพื่อประคับประคองไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้น
ทั้งนี้ แกนนำผู้ชุมนุมยังไม่มีความชัดเจนเรื่องกำหนดการชุมนุมว่าจะสิ้นสุดเมื่อใด โดยยังยืนยันข้อเสนอเดิม คือจะยุติการชุมนุมเมื่อนายกรัฐมนตรีลาออกเท่านั้น ส่วนเรื่องการอำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ทำเนียบรัฐบาลเข้ามาทำงานในวันนี้นั้น รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่าต้องรอดูสถานการณ์ก่อน แต่ขณะนี้ยังมีกลุ่มผู้ชุมุนุมปิดทางเข้าออกอยู่
“อย่างไรก็ตาม ในส่วนของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุนของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาลสามารถแจ้งความได้ หรือข้าราชการที่ได้รับผลกระทบกับเรื่องนี้โดยตรงก็สามารถฟ้องต่อศาลปกครองขอความคุ้มครองชั่วคราวได้” พล.ต.ต.สุรพล กล่าว