xs
xsm
sm
md
lg

รัฐตำรวจ ยึดคำสั่งศาลปิดล้อมไล่ พธม.-ยันไม่ส่งสไนเปอร์เก็บแกนนำ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

“สุรพล” เผยแผนชาร์จกลุ่มพันธมิตรฯ ตร.สามารถจับกุมแกนนำได้ทันที ใช้คำสั่งศาลบังคับดำเนินการไล่ออกจากทำเนียบได้ แต่จะไม่ใช้ความรุนแรง ให้เกิดความวุ่นวาย

วันนี้ (28 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ หลังจากเข้าร่วมประชุมกับ พล.ต.ท.โกวิท วัฒนะ รมว.มหาดไทย และเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ว่า ขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่าเจ้าหน้าที่จะหาวิธีการที่ดีที่สุดในการดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยจะใช้กลไกของศาลเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาของบ้านเมือง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างที่ฝ่ายโจทย์ยื่นคำร้องต่อศาลตามคำสั่งศาลที่ให้จำเลยทั้ง 6 คน ออกจากทำเนียบรัฐบาล และเปิดเส้นทางการจราจรบริเวณถนนพิษณุโลกและถนนราชดำเนิน เพื่อให้ครม.และโจทก์สามารถเข้าออกทำเนียบรัฐบาลได้โดยสะดวก แต่จนถึงขณะนี้ทั้ง 6 คน ยังไม่มีการปฏิบัติตามคำสั่งของศาล ซึ่งเจ้าหน้าที่ศาล หรือเจ้าพนักงานบังคับคดีที่ศาลได้แต่งตั้งขึ้นเพื่อดำเนินการเรื่องนี้โดยเฉพาะ ได้ไปที่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อแจ้งให้กับจำเลยทราบแล้ว ซึ่งคำสั่งของศาลก็จะมี 2 ส่วน คือ ส่วนแรกก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับตัวบุคคลศาลอาจจะบังคับให้ออกจากทำเนียบรัฐบาล ซึ่งศาลอาจจะมีคำสั่งเพิ่มเติมเพื่อเป็นแนวทางเพื่อให้ดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งก็มีด้วยกันหลายวิธี รวมถึงการที่จะให้จับก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ส่วนที่ 2 เป็นเรื่องของการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งถ้าหากยังไม่มีการปฏิบัติตามก็อาจจะให้เจ้าหน้าที่บังคับคดีหรือเจ้าหน้าที่ศาลบังคับให้ออกไป

พล.ต.ต.สุรพล กล่าวต่อไปว่า เจ้าพนักงานของศาล หรือเจ้าหน้าที่บังคับคดีอาจจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปช่วยเหลือในการทำตามคำสั่งศาลซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือ เมื่อมาถึงจุดที่มีความชัดเจนของศาลที่เป็นคนกลางและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายแล้ว เชื่อว่า น่าจะมีผลต่อการตัดสินใจของแกนนำ ซึ่งอาจจะมีการลดท่าทีที่แข็งกร้าวลงบ้าง แต่ทั้งนี้เมื่อไม่มีเวลามาเป็นตัวบังคับก็ต้องให้เวลาทั้งฝ่ายจำเลยและฝ่ายโจทก์ในการที่จะดำเนินการไปตามขั้นตอนต่างๆได้ ส่วนเรื่องที่กลุ่มแกนนำจะมีการยื่นอุทธรณ์ก็เป็นกระบวนการของฝ่ายจำเลย แต่จะต้องดูคำสั่งของศาลว่าคำสั่งที่สุดจะมีผลอย่างไร ซึ่งถ้าหากยังไม่มีการรับอุทธรณ์หรือมีคำสั่งให้ชะลอการดำเนินการตามคำสั่งให้บังคับคดี ก็จะต้องดำเนินการไปตามนั้น

“ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ต้องรอผลการอุทธรณ์สามารถทำตามคำสั่งเดิมได้ทันที เพราะมีผลตามกฎหมายแล้ว ซึ่งถ้าหากรอก็ไม่รู้ว่าผลจะออกหรือไม่ออกอย่างไร แต่ถ้าหากมีการยืนอุทธรณ์แล้วผลออกมาอย่างไรจะต้องปฏิบัติตามทันที โดยจะสามารถจับกุมได้ทันทีเลยหรือไม่ต้องรอดูคำสั่งที่ระบุเอาไว้ ศาลสั่งอย่างไรก็ดำเนินการได้ตามนั้น ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีการสับเปลี่ยนกำลังหรือดูแลความเรียบร้อยบริเวณทำเนียบรัฐบาลจะไม่มีการถอนกำลังออกมา เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ที่จะต้องดูแลทรัพย์สินของทำเนียบรัฐบาล อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีกลไกในการบังคับให้เป็นไปตามกฎหมายแต่จะต้องดูว่าจะสามารถทำอะไรได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนข่าวลือที่ว่าจะมีการลอบยิงกลุ่มแกนนำหรือกระทำการในลักษณะลับๆล่อๆนั้นยืนยันว่าไม่มี ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามความชอบธรรม” พล.ต.ต.สุพล กล่าว

รองโฆษก ตร.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ที่มาร่วมการชุมนุมยังไม่ทราบว่าการเข้าไปร่วมชุมนุมนั้นเป็นการกระทำที่ผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา ซึ่งจะต้องมีการแจ้งให้ประชาชนทราบ สำหรับประชาชนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า เข้าไปชุมนุมแล้วไม่สามารถออกมาได้ เช่นมีการบังคับขู่เข็ญ หรือไม่ให้ออกจากสถานที่ชุมนุมเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเร่งตรวจสอบและหาวิธีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่มีการใช้ความรุนแรงจะปฏิบัติตามกลไกของอำนาจตุลาการเพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งคาดว่า น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว

นายสนธิ  ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตร
แกนนำพันธมิตร
กำลังโหลดความคิดเห็น