“สมศักดิ์” ชี้ “สมัคร” หมดสภาพความเป็นผู้นำ จ้อหน้าทีวีร้องทุกข์ประชาชน แทนที่จะบำบัดทุกข์บำรุงสุขของราษฎร พร้อมตั้งข้อสังเกตกรณีเขาพระวิหาร ถ้าเขมรขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกได้เองจะมาเจรจากับไทยทำไม ชี้ชัดทำไปเพื่อแลกประโยชน์กับเกาะกงเท่านั้น ยก 6 มาตรการของฟรี ผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 165 เหตุไม่ได้หาเสียง สามารถถอดถอนได้
วันที่ 20 ก.ค.เวลาประมาณ 22.40 น. นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นกล่าวบนเวทีเชิงสะพานมัฆวานฯ ว่า ขณะนี้นายสมัคร สุนทรเวช ไม่อยู่ในฐานะจะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศอีกต่อไปแล้ว ซึ่งวันนี้เองก็ออกมายอมรับเองว่า ได้เปลี่ยนรายการ “สนทนาประสาสมัคร” เป็น “ร้องทุกข์ประชาชน” แล้ว เพราะแทนที่จะเป็นหัวหน้ารัฐบาลที่ทำหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขของราษฎร แต่กลับมาร้องทุกกับราษฎรที่เป็นเจ้าของประเทศแทน
นอกจากนี้จะใช้ทีวีช่อง 11 ออกมาแก้ตัวทุกวันโดยทีมโฆษกรัฐบาล นอกจากนี้ ยังกล่าวหาว่าพันธมิตรฯ อีกว่า ใช้กลยุทธ์ดาวกระจายไปจังหวัดนู้นจังหวัดนี้ เพื่อยึดศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด ซึ่งเราไม่มีเหตุผลว่าจะไปยึดทำไม เราไม่ใช่พวกอย่างนั้น ถ้าเราจะยึด เรายึดทำเนียบรัฐบาลไปนานแล้ว แค่เป่านกหวีดเบาๆ ก็เต็มแล้ว
นายสมศักดิ์ กล่าวต่อถึงเรื่องเขาพระวิหารว่า เรื่องนี้ถ้าเราฟังมาด้วยเหตุและผล จะทราบว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะมีรัฐบาลสมุนทักษิน ลงมติออกแถลงการณ์ให้เขมรขึ้นทะเบียนปราสาทเขาวิหารเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียว เราร้องศาลไปศาลก็พิจารณาออกมาว่าผิดรัฐธรรมนูญ แต่รัฐบาลก็ยังหน้าด้าน ผิดรัฐธรรมนูญ ก็ยังไม่ลาออก นอกจากนั้น ประชาชนออกมาเรียกร้อง ก็เอาคนมาขวาง ตำรวจเองก็ไม่ทำอะไร ถ้ารัฐบาลไม่ยกเขาพระวิหาร หรือยุแหย่นักการเมืองในพื้นที่ เอาอันธพาลมาก่อกวน ปัญหาคนไทยทุบตีคนไทยด้วยกันก็ไม่เกิดขึ้น นายสมัครเองออกมาบอกว่า เขาขึ้นทะเบียนแล้ว อีกไม่นานเรื่องก็คงจะจบ พูดเช่นนี้เห็นชัดแล้วว่า เป็นวิธีคิดที่ไม่มีจิตสำนึกในการรักอธิปไตยของชาติแม้แต่น้อย
“อีกประเด็นที่อยากฝากถึงบรรดาพี่น้องนักวิชาการหรือผู้รู้ทั้งหลาย ผมมีข้อสังเกตว่า เขมรรู้ดีว่าการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ไม่สามารถทำได้เพราะว่ามีข้อตกลงร่วมกับไทยอยู่ แต่ก็พยายามเจรจาขอให้ไทยสนับสนุนขึ้นเป็นมรดกโลกฝ่ายเดียว ไม่งั้นเขาจะเข้ามาเจรจาทำไม ไทยเองก็ทำตามเขาเพื่อแลกประโยชน์กับเกาะกง ซึ่งหากเขาพระวิหารตกเป็นของเขมรแล้วตั้งแต่ 45 ปีอย่างสมัครว่า ป่านนี้คงไม่ต้องรอให้ไทยลงนาม แต่ที่เขาขึ้นไม่ได้เพราะรู้ว่ามีเงื่อนไขกับไทยอยู่ ดังนั้น จึงถือเป็นความผิดที่รัฐบาลยังไม่สำนึก และต้องถือว่ารัฐบาลนี้มองข้ามมาตั้งแต่ต้น
เส้นทางเดียวที่จะเอาเขาพระวิหารเป็นของไทย คือให้มีการรื้อฟื้นใหม่ เพราะเป็นมรดกที่ล้ำค่า แต่กระทรวงต่างประเทศบอกว่า ยกให้เขาไป เราจะได้ประโยชน์จากการขายของหน้าบันไดทางขึ้น เป็นความคิดที่คิดออกมาได้อย่างไร คนอื่นเขาเก็บค่าคนเข้าโรงหนัง แต่เราบอกว่าจะรับฝากจักรยานก็พอ ดังนั้น ประเด็นนี้จะจบง่ายๆ ไม่ได้ เพราะความผิดกฏหมายอาญาจะจบได้ไง เมื่อรัฐบาลยังไม่ได้ติดคุกตลอดชีวิต”
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตอนนี้นายสมัครออกอาการลนลาน กล่าวหาคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า รายการ "ชิมไปบ่นไป" ไม่น่าส่งเรื่องให้ศาลพิจารณา เพราะทำให้ตนปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ไม่เห็นยาก ถ้าปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ก็ไม่เห็นเป็นอะไร ก็แค่ออกจากการเป็นรัฐบาล ถ้าติดคุกก็แค่ประกันตัวออกมา แต่ถ้าไม่มีเงินประกันก็ติดคุกต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ เชื่อว่า ในวันที่ 28 กรกฎาคมนี้ ศาลน่าจะมีคำพิพากษาออกมา นอกจากนั้น ก็ยังมีอีกหลายคดีที่กำลังใกล้เข้ามา
ดังนั้น อยากให้พี่น้องทั้งที่อยู่ทางบ้านและอยู่ที่นี้ บอกกล่าวต่อไปว่ ต้องร่วมเกาะติดกระบวนการยุติธรรมให้ดำเนินต่อไป เขาบอกว่าจะปลดคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพราะไม่ได้ถวายสัตย์ก่อนปฏิบัติหน้าที่ ในขณะที่ ป.ป.ช. เองก็จะปลดนายสมัคร เพราะมีคนไปยื่นเรื่องที่รัฐบาลทำผิดรัฐธรรมนูญกรณีเขาพระวิหาร ดังนั้น ป.ป.ช.ต้องรีบปลดนายสมัครซะก่อน เพราะถ้าช้านายสมัครจะปลดคุณก่อน ซึ่งเรื่องนี้ ยึดคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญก็พอ เพราะผูกผันหมด เพียงแต่เอาคำพิพากษาไปสู้กระบวนการถอดถอนและลงโทษตามกฏหมายอาญาเท่านั้น ไม่ต้องสอบสวนอะไรมากนัก
นอกจากนี้ยังมีเหตุให้ปลดรัฐบาลนี้ได้เช่นกัน นั่นคือ 6 มาตรการฟรี ที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่า จะเป็นภาระงบผูกพันให้รัฐบาลในอนาคต แต่ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 165 เรื่องนี้ถือเป็นความผิดได้เช่นกัน เพราะรัฐบาลไม่ได้แถลงเป็นนโยบาย ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ถอดถอนเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้ ไม่ใช่แก้ปัญหา ในต่างประเทศเองก็ไม่มี มีแต่จะเอา ปตท. กลับมาเป็นของประชาชนเพื่อให้ราคาน้ำมันลด เพราะรายการนี้ 6 เดือนแล้วก็เลิกกันไป แล้วยังไงต่อ เงินงบประมาณ 4 หมื่นล้านบาทก็หายไปเฉยๆ ซึ่งวิธีนี้ เป็นวิธีหลอกคนจน เปรียบเหมือนกัปตันเรือ ที่จะมีแค่กัปตันเรือโง่เท่านั้น ที่จะตัดประโดงเรือตัวเองเอามาหุงข้าวกิน เรือกว่ามาตรการสุนัขบ้านดีๆ เพื่อจงใจขอต่ออายุตัวเองที่สั้นลงทุกวัน เปลี่ยนจากคนที่จะมาแก้ปัญหา กลับให้คนอื่นแก้ปัญหาให้ ดังนั้น จึงหมดสิ้นศักยภาพการเป็นผู้นำแล้ว
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พี่น้องในทุกจังหวัดต้องเตรียมตัว เพราะนี่คือการเมืองที่เรียกว่า ประชาธิปไตยทางตรง เพราะระบบผู้แทนในสภาใช้ไม่ได้ เนื่องจากเข้ามาหาประโยชน์ส่วนตนด้วยการอ้างว่าเป็นตัวแทนของประชาชน แต่พี่น้องเป็นประชาธิปไตยโดยตรง เป็นการปฏิรูปการเมืองโดยพี่น้อง ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นระบบทุนนิยมแบบรัฐสถา มีการคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ เป็นยุคคนชั่วครองเมือง ดังนั้น เราต้องล้มระบบนี้ออกไปด้วยน้ำมือของเราเอง แต่ให้รอกระบวนการยุติธรรมอีกสักระยะ เพื่อให้ทราบว่าทุกอย่างมีเหตุมีผลเพียงพอ และถึงเมื่อนั้นประชาชนจะเข้าไปเป็นผู้เปลี่ยนแปลงอย่างแท้ทริง
“การเมืองใหม่ คนเข้ามาต้องโปร่งใส ไม่ใช่เข้ามาหาประโยชน์ แต่ต้องมีแต่ชีวิตจิตใจที่เข้ามาเปลี่ยนสังคม คนจนทั่วประเทศต้องได้เรียนฟรี มีหลักประกันตั้งแต่เกิด แก่ เจ็บ ตาย ทุกวันนี้ มีการโกง 30% ของงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งเงินเหล่านี้สามารถนำมาพัฒนาประเทศได้เหลือกินเหลือใช้ ปัญหาการโกงนี้คือระบบเผด็จการ แม้จะมาจากเลือกตั้งก็ตาม เพราะไม่มีสิทธิเอาเงินส่วนรวมเป็นของส่วนตัว”
นายสมศักดิ์กล่าวปิดท้ายว่า ถึงวันนี้พี่น้องทุกคนทำดีมาโดยตลอด ของหายที่นี้ก็มีคนเอามาคืน ทุกคนไม่เอาของคนอื่น แบบนี้ถึงจะเรียกว่า สังคมใหม่ของไทยในอนาคต ดังนั้น จึงอยากให้พี่น้องอดทน อย่าเครียด ทำใจให้สบาย มีความสุขอยู่อย่างนี้ ดีกว่ามีเงินแล้วเป็นทุกข์หนีหัวซุกหัวซุนไม่มีศักดิ์ศรี เงยหน้าก็ไม่อายฟ้า ก้มหน้าก็ไม่อายดิน นี่แหละคือคุณค่าสำคัญของคน แต่เราต้องขุดรากถอนโคนคนเหล่านี้ให้สินซากออกไปก่อน เพราะหากหมดไปเมื่อไหร่แผ่นดินก็จะสูงขึ้น