xs
xsm
sm
md
lg

พปช.ระส่ำ! หวั่น“หมัก”ลักไก่ยุบสภา-“ชิมไปฯ”ไม่รอด-พรรคโดนยุบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม
ลูกพรรค พปช.ไม่เชื่อใจ"หมัก" หวั่นซ้ำรอยผู้นำคนเดิม อ้างไม่ออก-ไม่ยุบ แต่สุดท้ายก็ยุบสภาโดย ส.ส.ไม่รู้ตัว วอน “หมัก”จะตัดสินใจอย่างไร ต้องขอมติ ส.ส.ก่อน ด้าน“หมัก”รับปาก เลิกตัดสินใจโดยลำพัง ขณะหลายคนยังห่วงคดีรุมเร้า ทั้ง"ชิมไปบ่นไป" - ปชป.ยื่นถอดถอน ซ้ำคดีใบแดง“ยุทธ”โยงถึงยุบพรรค ด้าน ส.ส.อีสานเร่งเร้าปรับ ครม.

แหล่งข่าวจากที่ประชุมพรรคพลังประชาชนเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา เปิดเผยว่าในที่ประชุมนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ได้กล่าวต่อที่ประชุม ส.ส.โดยได้เล่าถึงอดีตการเมืองที่ผ่านมาที่เกิดในหลายๆ ปัญหาขึ้นนั้น ล้วนเป็นผลมาจากรัฐธรรมนูญปี 50 ทั้งสิ้น ที่ทำให้เกิดปัญหาจนวุ่นวายกันไปหมด

“วันนี้ผมจะอยู่สู้ต่อไป เพื่อทำงานให้ประชาชนให้เต็มที่ อะไรที่ผิดพลาดก็ต้องค่อยๆ แก้ไป และทุกอย่าง ทุกเรื่องผมจะขอพูดในรายการ สนทนาประสาสมัครวันอาทิตย์นี้ แต่ตอนนี้ผมขอยืนยันให้สมาชิกทุกท่านได้สบายใจว่า ผมจะไม่ยุบ ไม่ถอย ไม่หนี ขอให้พวกเราพยายามรักใคร่กลมเกลียวกันไว้ให้แข็งแรง และช่วยกันทำงานให้ประชาชนอย่างเต็มที่ สิ่งที่รัฐบาลจะต้องดำเนินการจากนี้โดยเร็ว ก็คือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญเป็นต้นเหตุของปัญหาทุกอย่าง” แหล่งข่าวอ้างคำพูดของนายสมัคร

แหล่งข่าวยังกล่าวด้วยว่า ในที่ประชุม นายสมัครได้พูดประมาณชั่วโมงกว่า และเมื่อพูดจบได้มี ส.ส.ภาคอีสานลุกขึ้นสอบถามถึงการปรับคณะรัฐมนตรีแทนตำแหน่งที่ว่างลง ซึ่งนายสมัคร ได้บอกว่าขอยังไม่ตอบในขณะนี้ เพราะต้องคิดให้รอบคอบ

ส่วนท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น มี ส.ส.สอบถามถึงข่าวคราวที่อาจจะมีการหนีไปซบกับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งนายสมัครได้ยืนยันกับสมาชิกว่า ได้มีการพูดคุยและได้รับการยืนยันจากแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลแล้วทุกพรรคว่าเข้าใจถึงสถานการณ์ในขณะนี้ดี ซึ่งทุกพรรคยินดีที่จะร่วมงานกับรัฐบาลต่อไป ไม่หนีย้ายไปอยู่กับพรรคฝ่ายตรงข้ามแน่นอน

แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า สมาชิกพรรคหลายคนค่อนข้างเป็นห่วงคดีที่จะเกิดขึ้น และอาจมีผลต่อเนื่องกับพรรค ไม่ว่าจะเป็นคดีของนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้ดำเนินรายการชิมไปบ่นไปที่ กกต.จะตัดสินในวันที่ 18 ก.ค.นี้ ซึ่งสมาชิกก็มีการพูดเหมือนกันว่า คงไม่รอด นอกจากนี้ยังเป็นห่วงที่พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นถอดถอน ครม.ทั้งคณะ และยังมีคดีของนายยงยุทธที่จะต้องเชื่อมโยงถึงการยุบพรรค โดยสมาชิกเห็นว่า พรรคก็คงถูกยุบแน่นอน และมีการเตรียมตั้งพรรคไว้แล้ว หลายคนก็ท้อใจอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด

สำหรับเรื่องปราสาทพระวิหารนั้น แหล่งข่าวเปิดเผยว่า นายสมัคร ได้ชี้แจงว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นต่อให้รัฐบาลไหนเข้ามา เขมรก็ต้องได้ขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร เพราะประเทศสมาชิกเขามีการล็อบบี้กันไว้หมดแล้ว

“จะให้เราอย่างไร เพราะที่ผ่านมาเราก็ปรึกษากับผู้รู้มาตลอด ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการกฤษฎีกา หน่วยงานทางด้านกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะด้านต่างประเทศ หรือแม้แต่หน่วยงานทางทหาร ต่างก็ยืนยันว่า ถูกต้อง และเมื่อเป็นอย่างนี้จะให้ทำอย่างไร ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย รัฐบาลก็ต้องทำงานต่อไป อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด” แหล่งข่าวอ้างถึงคำพูดนายสมัคร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส.ส.นับสิบคนได้ซักถาม นายสมัคร ถึงความชัดเจนว่าจะมีการยุบสภา หรือ ลาออก หรือไม่ โดยนายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี ได้ลุกขึ้นซักถามนายกฯ ว่า ที่ผ่านมาเมื่อสถานการณ์ถึงทางตันก็บอกว่าจะไม่ยุบสภา ไม่ลาอออก แต่สุดท้ายก็มีการยุบสภาทุกครั้ง โดยที่ ส.ส.ไม่รู้ตัว ทำให้พวกพันธมิตรฯ ที่ชุมนุมประท้วงอยู่ในขณะนี้ได้ใจ จึงขอมติที่ประชุม ส.ส.วันนี้ว่า เห็นด้วยกับการยุบสภาหรือไม่ และหากนายกฯ จะตัดสินใจอย่างไรขอให้มาถามความเห็นจาก ส.ส.ว่าเห็นด้วยหรือไม่ ซึ่ง ส.ส.ก็เห็นตรงทั้งหมดกับข้อเสนอดังกล่าว

จากนั้น นายสมัคร ได้กล่าวกับที่ประชุมว่า การที่มาอยู่ที่พรรคพลังประชานั้น มีจุดประสงค์เพื่อรวบรวม ส.ส.ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน ขอให้ไว้ใจจะไม่ทำเหมือนที่ผ่านมาที่ตัดสินใจโดยลำพัง แต่จะเรียกประชุม ส.ส.ทั้งหมด เพื่อขอความเป็นและขอเป็นมติ

“มีคนบางคนชอบแอบอ้างสถาบันโดยฟุ่มเฟือยและไม่เคารพกติกา ถึงขั้นไปยกพวกด่าตำรวจ ไปวิจารณ์ศาล วันนี้ปัญหาที่เกิดขึ้น มีต้นเหตุ ดังนั้น เมื่อมีเหตุก็ต้องแก้ที่ตัวเหตุ ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงจำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่เขียนจากเผด็จการรัฐบาลเข้ามา 3-4 เดือนก็เจอปัญหา เพราะมีคนไปเขียนดักไว้ เรื่องนี้จะไม้เกิดหากเราไม่ชนะและไม่ได้เป็นรัฐบาล โดยมีความพยายามจะล้มให้ได้ ขณะเราถอยมันก็ยังไม่เลิก จะไล่ทุบให้ถึงที่สุด ดังนั้นเมื่อเปิดสภาฯ ก็ต้องคุยเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ โดยนำผลของคณะกรรมาธิการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 และอยากให้พวกเราจับตาดูว่ามีการใช้อำนาจนอกระบบมาจัดการหรือไม่ หากเจอก็มาบอกผม ผมก็จะออกมาต่อสู้เอง” นายสมัคร กล่าวกับที่ประชุม

“หมัก" ป้อง"นพดล -ยงยุทธ" ไม่ผิด

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับในการประชุมพรรคในวาระพิเศษครั้งนี้ ได้เริ่มประชุมตั้งแต่เวลา 16.00 - 18 .30 น. ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง โดยในส่วนของนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรค และนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ไม่ได้มาเข้าร่วมประชุม

ที่ประชุมได้มีการหารือกันในประเด็นสถานการณ์ทางการเมืองของพรรค จากกรณีปราสาทพระวิหาร และกรณีนายยงยุทธ โดยนายสมัครได้กล่าวในที่ประชุมว่า ในสถานการณ์ขณะนี้รัฐบาลต้องรีบทำงานแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน แม้ว่าจะมีกรณีต่างๆ เกิดขึ้นทั้งในส่วนของกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 190 และกรณีของนายยงยุทธ ที่ถูกศาลฎีกามีคำสั่งให้ใบแดง แต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้ทำอะไรผิดอะไร วันนี้จึงเห็นชัดเจนว่ามีความพยายามปลุกระดมทำให้คนไทยแตกตื่น ตรงนี้อาจลุกลามไปเป็นปัญหาระหว่างประเทศ

นายสมัคร ยังได้กล่าวชมนายนพดลว่า สามารถทำหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีได้ดี เนื่องจากนายนพดลเป็นคนดี มีฝีมือ แต่ที่สถานการณ์ออกมาเป็นเช่นนี้ เพราะความตั้งใจของฝั่งตรงข้ามต้องการที่ต้องการจะทำลาย โดยใช้วิธี จัดการ คนในรัฐบาลทีละคน จึงขอเน้นย้ำกับ ส.ส.ในพรรคว่า เราจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด ทุกเวที ไม่ยุบ ไม่ลาออก โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่ถูกกล่าวหาต้องชี้แจงให้สังคมเข้าใจให้ละเอียด เพราะมีมีกระบวนการที่รัฐบาลต้องทำงานให้ประชาชนอยู่

นอกจากนี้ นายสมัครยังได้เล่าถึงสถานการณ์การเมืองเหตุการณ์ต่างโดยย้อนไปตั้งแต่ปี 2523 โดยได้ลำดับความมาว่าได้เกิดอะไรขึ้นมาบ้าง ในประวัติศาสตร์การเมือง

ทั้งนี้ในช่วงปี 2523 พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น และในช่วงดังกล่าวยังมีเหตุการณ์ความวุ่นวายในประเทศ มีการต่อสู้ระหว่างคนไทยด้วยกันเอง เกิดความสูญเสียเป็นจำนวนมาก โดยผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) พยายามเข้ามาแทรกแซงการทำงานของรัฐบาล ปลุกปั่นประชาชนเพื่อให้เกิดการปกครองที่ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย โดยพล.อ.เปรม ได้ใช้การเมืองนำหน้าทหาร ใช้นโยบาย 66/23 จนประสบความสำเร็จ ผกค.หลายคนออกจากป่าเข้าเมือง

ด้านนาย บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมากล่าวว่า นายสมัคร ได้ชี้แจงอย่างอารมณ์ดีไม่มีข้อกังวลใดๆ กับปัญหาทางการเมืองในขณะนี้ ซึ่งสิ่งที่ทำให้ ส.ส.ทุกคนคลายความกังวลใจคือ สิ่งที่นายกฯ ระบุว่าปัญหากรณีปราสาทพระวิหาร และกรณีใบแดงของนายยงยุทธ เป็นเรื่องของฝ่ายบริหารไม่เกี่ยวกับสภาฯ ดังนั้นจึงไม่เห็นผลใดจะต้องยุบสภาฯ และ ส.ส.ไม่ต้องกังวลใดๆ ในเรื่องนี้ ซึ่งส่วนตัวปัญหาใหม่ที่รัฐบาลกำลังเผชิญก็คือ ตำแหน่งของฝ่ายบริหารที่ยังว่างอยู่ เชื่อว่านายกรัฐมนตรีคงจะมีการพิจารณาปรับ ครม.ในเร็วๆ นี้ ส่วนจะเป็นบุคคลใดจะมาทำหน้าที่แทนนั้น เป็นอำนาจของนายกฯจะเป็นผู้ตัดสินใจ ดังนั้นหลังการประชุมวันนี้ ส.ส.ทุกคนคงจะรวมพลังเดินหน้าทำงานต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น