xs
xsm
sm
md
lg

แม่ทัพฟ้าเตือน “ลูกกรอก” ดันแก้ รธน.ภัยจะย้อนเข้าตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุก
ผบ.ทอ.เตือนสติรัฐบาล เร่งแก้ รธน.ระวังภัยจะย้อนมาหาตัวเอง ชี้หากจะแก้ต้องทำเพื่อส่วนรวมจริงๆ ไม่ใช่พอเป็นรัฐบาลก็แก้เลย ย้ำองค์กรอิสระต้องมีเพื่อถ่วงดุล และเท่าที่เห็นมายังไม่มีข้อด้อย ทุกองค์กรยังทำงานอย่างเต็มที่ และยังต้องมี หลายประเทศที่เจริญแล้วก็มีทั้งสิ้น

พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ กล่าวภายหลังการรับฟังการอภิปรายทางวิชาการเรื่อง “การดำเนินชีวิตภายใต้วิกฤตเศรษฐกิจ และพลังงาน วานนี้ (16 ก.ค.) ว่า รัฐบาลก็คงพยายามต้องสดับตรับฟังหลายๆด้าน เพราะเป็นเรื่องทางเศรษฐศาสตร์ และ ภาพรวมของประเทศ รัฐบาลก็ต้องช่วยเหลือในหลายๆ ด้าน สำหรับ 6 มาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ออกมานั้น รัฐบาลคงมีที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญทุกด้านที่พยายามแก้ไขปัญหา และช่วยเหลือประชาชน ซึ่งมาตรการดังกล่าวถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่รัฐบาลพยายามที่จะหาหนทางปฏิบัติช่วยเหลือเพื่อส่วนรวม ในอนาคตจะปรับเปลี่ยนเพิ่มเติม ต่อเนื่องอย่างไรก็ว่ากันไป บางทีเราต้องการเงินเป็นรายได้เข้าประเทศมากจนเกินไป ก็ทำให้ประชาชนเดือดร้อนก็เป็นไปได้

ส่วนที่มองว่าเป็นมาตรการเฉพาะหน้าที่พยุงความนิยมของรัฐบาลให้อยู่รอดนั้น พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ผู้ที่รับอาสาเข้ามาช่วยเหลือ ดูแลบ้านเมืองก็ต้องพยายามทำทุกอย่าง และแสดงฝีมือให้เห็น ส่วนจะได้ผลประการใดก็แล้วแต่สิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ และเป็นการรับข้อมูลเข้ามาแก้ไขในแต่ละช่วงด้วย ตนคิดว่าทุกอย่างไม่ใช่ข้อจำกัดที่จะต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ ต้องแล้วแต่สิ่งแวดล้อม ต้องใจกว้างและรับฟังข้อมูล

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลพยายามเอาตัวรอดในการยื่นเงื่อนไขในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ขอยกตัวอย่างว่า คนที่ทำงาน ณ บริษัทใดก็ต้องพยายามรักษาสถานภาพของตัวเองให้คงอยู่ และทำงานในบริษัทนั้นให้ยืนยาว เพราะฉะนั้นรัฐบาลก็พยายามแสดงฝีมือให้อยู่ยาว จะใช้คำว่าดิ้นรนคงไม่ใช่ สำหรับที่เกรงว่าประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะกลับไปสู่วังวนการเผชิญหน้ากันนั้น ตนคิดว่า บางครั้งสิ่งที่ตัวเองทำอาจจะทำร้ายตัวเองได้เหมือนกัน จะเห็นได้ว่าเมื่อครั้งก่อนที่เริ่มต้นที่อยากจะทำการแก้ไข และเกิดปฏิกิริยา ขณะนี้อาจจะมีการทดสอบว่าขณะนี้ผู้คนเห็นด้วยหรือยัง ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเปิดสมัยประชุม ก็ต้องรอดูก่อน

เมื่อถามว่า เห็นด้วยกับรัฐบาลในประเด็นการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า กฎหมายทุกฉบับมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่โดยปกติรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศต้องพยายามให้เป็นกรอบอยู่ แต่เท่าที่ทราบรัฐธรรมนูญมีมาตรามากมาย แต่สิ่งที่ตราเป็นกฎหมายขึ้นมานั้นก็คือการป้องกันไม่ให้ใครกระทำในสิ่งที่ไม่ดี เพื่อเป็นกรอบในการทำสิ่งดีๆ กับประชาชน บางมาตราที่ไม่ดีก็ควรจะแก้ไข แต่ต้องเป็นความเห็นชอบจากประชาชนด้วย ถึงแม้จะมีกฎหมายให้อำนาจรัฐสภาโดยสภาผู้แทนฯ หรือวุฒิสมาชิก มีสิทธิ์จะแก้ไข แต่ตนคิดว่านั่นไม่ได้หมายถึงว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งตนมองว่ากฎหมายต้องทำเพื่อส่วนรวม

เมื่อถามว่า แต่ขณะนี้มีความพยายามแก้ไขเพื่อประโยชน์ส่วนตัว พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ทุกคนต้องช่วยกันดู เพราะสื่อมวลชนก็เป็นตัวแทนของประชาชนในการตรวจสอบ และหาข้อมูลที่ถูกต้องให้ประชาชนทราบ อะไรที่ไม่ใช่ส่วนรวมก็ต้องนำออกมาให้ประชาชนรับทราบ ส่วนจะนำไปสู่ความขัดแย้งของคนในสังคมอีกหรือไม่นั้น ตนคิดว่าก็อาจจะเป็นได้

ส่วนที่มองว่าการแก้ไข ม.309 ที่อาจมีผลกระทบต่อองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่ตรวจสอบนั้น ตนคิดว่ากลุ่มที่เสียผลประโยชน์ก็อาจจะป้องกันและแก้ไข แต่ประเด็นโดยทั่วไปคงต้องใช้เวลาดูว่าส่งผลเสียต่อผลประโยชน์โดยส่วนรวมหรือไม่ ไม่ใช่พอตั้งรัฐบาล และแก้ไขเลย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นที่คนมองว่าจะแก้ไขเพื่อช่วยเหลือการยุบพรรคหรือไม่นั้น เราต้องช่วยคิดว่าจริงหรือไม่

เมื่อถามว่า คิดว่าองค์กรตรวจสอบต่างๆ ยังจำเป็น ยังไม่ควรยุบไปใช่หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ตนคิดว่าทุกภาคส่วนที่มีอำนาจในการทำเรื่องใดๆ ต้องมีการถ่วงดุลอำนาจ ภาคเอกชน หน่วยงานอิสระที่ตั้งมาเกิดข้อขัดข้องมาบ้างแล้ว ก็จำเป็นต้องแก้ไข ต้องถ่วงดุล และตรวจสอบ แต่ตนก็ยังไม่เห็นข้อด้อยอะไร ทุกหน่วยที่ทำในขณะนี้ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ทุกองค์กรอิสระทำงานอย่างเต็มที่ ยังต้องมี และหลายประเทศที่เจริญแล้วก็มีทั้งสิ้น

เมื่อถามว่า ก่อนหน้ามีการทำประชาพิจารณ์แล้ว ถ้าแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกจะไม่ทำให้เกิดความวุ่นวายอีกหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ก็อาจจะเป็นเรื่องของเสียผลประโยชน์ หรือ เป็นเรื่องของการถูกบีบบังคับ จากที่คิดว่าควรจะมีอำนาจมากกว่านี้ มันก็เป็นเรื่องของคน ซึ่งตนคิดว่าต้องชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ หรือกรณีที่จะแก้ไขก็ต้องถามว่าจริงๆ เป็นความต้องการของพรรค หรือประชาชนทั่วไป

ผู้สื่อข่าวซักว่า รัฐบาลมีความชอบธรรมที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ตามกฎหมายมีสิทธิ์จะแก้ไข แต่ไม่ใช่แก้ด้วยผลประโยชน์ของคนกลุ่มเล็กๆ

เมื่อถามว่า รัฐบาลยังมีความชอบธรรมที่จะทำอะไรต่อไปหรือไม่ เพราะก่อปัญหาไว้มากมาย พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ตราบใดที่เป็นรัฐบาลก็ยังมีความชอบธรรมเพราะกฎหมายกำหนดไว้อย่างนั้น ถ้าท่านไม่ได้ลาออก ไม่ได้ไปไหน ท่านก็ต้องมีความชอบธรรม แต่ท่านจะทำสิ่งที่ดีที่สุดให้ประเทศหรือเปล่าเท่านั้นเอง

เมื่อถามว่า ผบ.ทอ.เคยเรียกร้องเรื่องจิตสำนึกในความรับผิดชอบมาแล้วแต่ไม่มีปฏิกิริยาอะไร พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า “ผมเสียงเล็กๆ” เมื่อถามว่า คนที่มีแผลอาจจะไม่ใส่ใจใช่หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า “ไม่เป็นไร เดี๋ยวสื่อจะเป็นกำลังสำคัญในการตรวจสอบ การใช้อำนาจหรือสิทธิในการทำสิ่งไม่ถูกต้อง”

เมื่อถามว่า นายกฯ ยังออกมาอ้างถึงมือมองไม่เห็นที่ทำลายล้างคนของ พลังประชาชน และ จะให้คนของตัวเองเอาคืนกลับจะทำให้สถานการณ์รุนแรงอีกหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า “ไม่ทราบ ทุกคนก็มีสิทธ์ต่อสู้ขัดขืน ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็เป็นไปตามธรรมชาติ”

เมื่อถามว่า อยากเตือนรัฐบาลหรือไม่แม้จะเป็นเพียงเสียงเล็กๆ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า “ ไม่น่าจะเหมาะสมที่จะไปเตือนรัฐบาล เพราะรัฐบาลมีสิทธิ์ที่จะบริหารประเทศอยู่ แต่ถ้าจะมีการพูดกับท่านก็คงไม่ผ่านสาธารชนอย่างนี้ ถ้าจะมี” เมื่อถามว่า จะเล่นการเมืองหลังเกษียณหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า “ไม่เล่นหรอก ผมไม่ชอบ”

เมื่อถามว่า การที่นายกรัฐมนตรีได้ออกมาระบุว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีถึง 10 ตำแหน่งจะทำให้ประเทศชาติดีขึ้น หรือเป็นการปรับเพื่อเอาตัวรอด ผบ.ทอ.กล่าวว่า น่าจะต้องดีขึ้น พรรคก็พยายามทำให้ดีขึ้น เราต้องมองภาพทางบวกมากๆ หน่อย ถ้าเรามองทางลบพรรคเขาก็ทำอะไรต่อไปไม่ได้

ผู้สื่อข่าวซักว่า การทำงาน 4 เดือนของรัฐบาลปัญหามากขึ้นหรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า เราต้องเปรียบเทียบกับรัฐบาลอื่นๆ ที่ผ่านมา หรือสภาฯ ที่ผ่านมา รัฐบาลก็พยายามทำงาน แต่รัฐสภาค่อนข้างมีผลงานที่ออกมาน้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง กมธ.หรือเรื่องอะไรต่างๆ จริงแล้วเมื่อรับเงินเดือนเมื่อไหร่แล้วก็ต้องทำงานให้มีผลผลิตออกมา

ผู้สื่อข่าวซักว่า หมายความว่าอยากเรียกร้องให้ ส.ส.ทำงานให้คุ้มกับเงินเดือนใช่หรือไม่ พล.อ.อ.ชลิต กล่าวว่า ทุกคนที่รับเงินเดือนแม้แต่ทหารก็ต้องเป็นเช่นนั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น