“มานิตย์” เพ้อเจ้อ เตรียมถาม ปชช.ยอมรับคำตัดสินคดี “แม้ว” หรือไม่

อดีตแกนนำ นปก.“มานิตย์ จิตจันทร์กลับ” ชี้ ไม่ยอมรับ ตุลาการ และ รธน.50 เพราะไม่มีความเป็นประชาธิปไตย เพ้อ! หาก “แม้ว” โดนตัดสินว่าผิด ก็จะขอความเห็น ปชช.ว่า ยอมรับคำตัดสินศาลหรือไม่ – “ทิวา เงินยวง” โต้ กฎหมายคือสิ่งที่ทุกคนต้องยอมรับ จะหาข้ออ้างมาแย้งไม่ได้

วานนี้ (16 ก.ค.) นายมานิตย์ จิตจันทร์กลับ อดีตผู้พิพากษา หัวหน้าคณะในศาลฎีกา อดีตแกนนำ นปก.และผู้สมัคร ส.ส.ระบบสัดส่วนกลุ่ม 6 พรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ในรายการ คมชัดลึก ดำเนินรายการโดย นายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ถึงระบบตุลาการในปัจจุบัน ว่า ระบบตุลาการในตอนนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมาก ว่า แท้จริงแล้วระบบตุลาการภิวัตน์ เป็นสิ่งที่ดีหรือ ใช้อำนาจตุลาการที่เกินขอบเขต ดังนั้น หากตนอยู่ในสภาในตอนนี้ตนคงจะตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ขึ้นมาพิจารณาว่าจริงๆ แล้ว ศาลในปัจจุบันได้ใช้อำนาจเกินขอบเขตหรือไม่ ตรงตาม รธน.ระบอบประชาธิปไตยหรือไม่

นอกจากนี้ ตนยังมองว่า การที่อำนาจตุลาการในตอนนี้ โดยเฉพาะตุลาการ รธน.เป็นสิ่งที่ตนไม่ยอมรับ และตนก็เห็นว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 คน ที่ดำรงตำแหน่งหน้าที่ในตอนนี้ไม่ถือว่าเป็นศาล เพราะในเมื่อบ้านเมืองเราที่เป็นระบอบประชาธิปไตย ศาลก็ต้องมาระบอบประชาธิปไตย แต่ตุลาการชุดนี้ไม่ได้มาจาก รธน.ปี 40 ที่เป็น รธน.ฉบับประชาธิปไตยของปวงชนชาวไทย หากแต่มาจากการคัดเลือกในระบอบ รธน.ปี 50 ที่ตนไม่เคยมองว่า รธน.ฉบับดังกล่าวคือ รธน.ทำให้ตนมองว่า แท้จริงแล้วขณะนี้ ผู้พิพากษาควรตัดสินคดีตามหลักของ รธน.ปี 40 จึงจะถือได้ว่าเป็นการตัดสินที่เป็นไปตามตามระบอบประชาธิปไตยจริง ๆ ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุที่ต้องมีการเรียกร้องให้มีการแก้ รธน.โดยเร็ว เพื่อสร้าง รธน.ให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

ผู้ดำเนินรายการถามว่า หากสมมติว่ายังไม่มีการแก้ไข รธน.แล้วศาลตัดสินลงโทษ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หากเป็นเช่นนี้จะมีวิธีการแก้ไขอย่างไร นายมานิตย์ กล่าวว่า วิธีแก้ไขก็คือนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่รัฐสภา เพื่อให้สภาไปสอบถามประชาชน ว่า เห็นด้วยกับสิ่งที่ศาลตัดสินหรือไม่ เนื่องจากอย่างไรเสียศาลก็ต้องทำตามความต้องการของประชาชน เพราะประชาชนเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในระบอบประชาธิปไตย

เมื่อถามต่อไปว่าในเมื่อมองว่าสิ่งที่มาจาก รธน.ปี 50 ไม่มีความชอบธรรมและไม่ยอมรับ แล้ว รัฐบาล หรือ ส.ส.ชุดปัจจุบันก็มาจากการเลือกตั้งโดย รธน.ปี 50 เช่นกัน แล้วอย่างนี้จะปล่อยให้รัฐบาลแก้ไข รธน.ได้อย่างไร นายมานิตย์ ตอบว่า การเลือกตั้งรัฐบาลชุดนี้เข้ามาในสภาฯ ไม่ได้มาจาก รธน.แต่มาจากกฤษฎีกาการเลือกตั้ง ส่วนคนที่มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งเขาก็มาเพราะต้องการให้บ้านเมืองเดินหน้า ไม่ได้แปลว่าเขายอมรับ การเลือกตั้งที่มาจาก รธน.ฉบับรัฐประหาร

ด้าน รศ.ดร.ทิวา เงินยวง คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วตนคิดว่าอำนาจตุลาการในปัจจุบัน ไม่ได้มีการใช้อำนาจมากเกินขอบเขต รธน.เลย ซึ่งตนก็เห็นว่ามีแต่คนที่เสียประโยชน์หรือได้รับความเสียหายจากการตัดสินของอำนาจตุลาการเท่านั้น ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์

นอกจากนี้ ตนยังไม่เห็นด้วยกับความคิดที่ว่า รธน.ปี 50 เป็นฉบับรัฐประหารจึงไม่ต้องยอมรับ และไม่ต้องทำตาม เพราะตนมองว่าอย่างไรเสียกฎหมายก็คือกฎหมาย ซึ่งเป็นกฎที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม เมื่อตัดสินออกมาแล้วก็ต้องเป็นข้อยุติได้ เพราะหากมีแต่คนที่ไม่ยอมรับกฎหมายแล้วอ้างนู้นนี่ ไม่ยอมรับกฎเกณฑ์ แล้วบ้านเมืองจะอยู่ได้อย่างไร อีกทั้งตนมองว่า ที่มาของ รธน.ปี 50 ถึงแม้จะมาจากการรัฐประหาร แต่ก็ได้รับประชามติจากคนส่วนใหญ่ของประเทศแล้ว ก็แปลว่าคนส่วนใหญ่ยอมรับในกฎเกณฑ์ดังกล่าวแล้ว จึงไม่ควรมีใครนำมาอ้างได้ว่าไม่ยอมรับกฎเกณฑ์ที่คนส่วนใหญ่เลือก