เลขาธิการ สหภาพแรงงานฯ จวกยับ 6 มาตรการประชานิยมรัฐบาล “ป๋าหมัก” ทำเพื่อตนเอง ดิ้นเฮือกสุดท้ายเพื่อความอยู่รอด และหาเสียงปูทางสู่การเมืองในอนาคต หากถูกยุบพรรค ระบุ เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกจุด ประชาชนไม่ได้ผลประโยชน์อย่างเต็มที่ หวั่นสร้างหนี้ผูกพัน แต่ไม่เคยรับผิดชอบเช่นเดียวกับรัฐบาล “แม้ว” ในอดีต พร้อมเตรียมเดินหน้ายึดคืน ปตท.เพื่อเอาสมบัติชาติกลับมาเป็นของประชาชนไม่ใช่นายทุน
วันนี้ (16 ก.ค.) เวลาประมาณ 20.00 น.นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ กล่าวว่า การที่รัฐบาลประกาศ 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤตเพื่อไทยทุกคน ความจริงแล้วมันมีนัยทางการเมืองเป็นหลัก ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ต้องการยื้อเวลาของตนเองออกไป โดยนโยบายประชานิยมดังกล่าว
“เรามีการประชุมกันของสหภาพแรงงานฯ ว่า สิ่งที่รัฐบาลทำออกมาเพื่ออะไร และมีผลสรุปออกมาว่า สิ่งที่รัฐบาลทำเพียงเพื่อซื้อเวลา ในการดิ้นเฮือกสุดท้าย เพื่อที่จะเป็นรัฐบาลต่อไป โดยเหมือนเป็นความคิดตื้นๆ ที่เด็กอนุบาลยังรู้ แล้วแบบนี้ยังจะมาเป็นรัฐบาลได้อย่างไร” นายสาวิทย์ กล่าว
ทั้งนี้ การที่รัฐบาลออกมาบอกว่า จะให้ประชาชนสามารถขึ้นรถโดยสารประจำทางฟรี ตนเองตั้งขอสังเกตว่า ทำไมไม่ทำให้หมดไปเลย ซึ่งรถเมล์ร้อนขณะนี้มีทั้งหมด 1,600 คัน แต่ทำเพียง 800 คัน แล้วประชาชนจะทราบได้อย่างไรว่าจะต้องขึ้นคันไหน ส่วนที่จะให้ขึ้นรถไฟฟรีนั้น ทุกวันนี้ต้องบอกว่ารถไฟเป็นของประชาชนทำไมจะขึ้นฟรีไม่ได้ การชุมนุมของพันธมิตรฯ ในต่างจังหวัด ซึ่งอยากใช้พื้นที่ของการรถไฟฯก็สามารถทำได้เช่นกัน
นายสาวิทย์ กล่าวว่า การที่ค่าครองชีพ และราคาสินค้าแพงขึ้นนั้น สาเหตุมาจากการที่ราคาน้ำมันมีการปรับตัวสูงขึ้น และการแก้ปัญหาแบบนี้ไม่ถูกจุด โดยสิ่งที่รัฐบาลควรทำ คือ การนำปตท.กลับมาเป็นของประชาชน ซึ่งกำไรของ ปตท.ปีหนึ่งมีกำไรเป็นแสนๆ ล้าน และหากนำมาเพียงแสนล้าน สิ่งที่รัฐบาลต้องการให้ฟรีก็ทำได้หลายอย่างกว่าในปัจจุบัน
“รัฐบาลแก้ปัญหาไม่ถูกจุด ลดค่าน้ำค่าไฟ ประชาชนยังไม่ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ เพราะคนส่วนใหญ่เช่าบ้านอยู่ ทำให้ผู้ประกอบการนั้นแหละได้ประโยชน์ ข้าวของที่แพงขึ้นมันมาจากน้ำมัน แล้วทำไมไม่เอา ปตท.คืนมา แปรรูปทำไม ซึ่งเหมือนกับว่าเป็นสิ่งที่ทำได้แต่ไม่ทำ” นายสาวิทย์ กล่าว
นายสาวิทย์ กล่าวอีกว่า ไม่อยากให้พี่น้องสนใจกับนโยบายประชานิยมของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งที่ผ่านมาสิ่งที่รัฐบาลทำไม่เคยรับผิดชอบแม้แต่ครั้งเดียว ในการดำเนินนโยบายประเภทนี้ เริ่มตั้งแต่การพยุงราคารถไฟตั้งแต่ปี 2547-2551 จนปัจจุบันนี้ยังไม่มีการชำระเงินให้กับการรถไฟฯแต่อย่างใด รวมถึงกรณี บ้านเอื้ออาทร กล้ายาง และหนี้สินเกษตรกร ถึงตอนนี้การเคหะแห่งชาติ ธนาคารเพื่อการเกษตรฯ ยังไม่ได้รับเงินชดเชยที่ทางรัฐบาลเคยให้ออกไปก่อนเลย และการเบิกจ่ายต้องใช้เวลา โดยรัฐบาลพวกนี้บิดเบื้อน และไม่ยอมรับผิดชอบมาโดยตลอด
ทั้งนี้ สิ่งที่อยากย้ำมากที่สุด คือ ไม่อยากให้ประชาชนหลงเชื่อกับมาตรการเหล่านี้ ซึ่งการที่รัฐบาลชุดนี้ออกมาตรการชุดนี้ มาเพื่อต้องการหวังผลทางการเมือง ในการซื้อเสียงประชาชนที่ไม่เข้าใจ หากเกิดการยุบพรรคพลังประชาชนขึ้นมา และเป็นการปูทางเข้าสู่อำนาจทางการเมืองของพวกพ้องของตนอีกครั้ง
โดยหลังจากนี้ อยากให้ประชาชนจดจำเรื่องราวความผิดในอดีตของคนพวกนี้เอาไว้ และต้องดำเนินการให้คนเหล่านี้ติดคุกจากความผิดที่กระทำ และต่อจากนี้สิ่งที่เราจะดำเนินการต่อไปคือการยึด ปตท.กลับคืนมาเป็นของประชาชน ซึ่งทางสหภาพฯ จะมอบหมายหน้าที่ให้ คุณสมศักดิ์ โกศัยสุข แถลงต่อไปในคืนนี้
