“ม็อบไข่แม้ว” รีเทิร์น เตรียมรวมพล สิ้นเดือนนี้ คุยโวคนร่วมกว่าแสน

"ไข่แม้ว"เดินเกมมวลชนช่วยนายใหญ่ นัดม็อบหนุนแก้ รธน.ที่สนามหลวง 26 หรือ 27 ก.ค. ฟุ้งมีคนมาเกิน 100,000 แต่ยังกังวล คนล้นสนามหลวง - ยกหาง “หุ่นเชิด” ชู 6 มาตรการ 6 เดือน อ้างห่วงประชาชนมากกว่าห่วงตัวเอง

วันนี้ (15 ก.ค.) รายการเพื่อนพ้องน้องพี่ พีทีวีภาคพิเศษ ออกอากาศผ่านทางดาวเทียมของช่องเอ็มวีทีวี ดำเนินรายการโดย 4 อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.) คือ นายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย นายจักรภพ เพ็ญแข อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 6 พรรคพลังประชาชน

เนื้อหารายการดังกล่าว ยังคงกล่าวถึงความจำเป็นที่จะต้องเร่งรัดให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยเร็วที่สุด โดยอ้างว่า รธน.ปี 50 เป็น รธน.ที่สร้างปัญหาให้กับการบริหารประเทศในแทบทุกด้าน ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องให้คนที่เห็นความจำเป็นของการแก้ รธน.ออกมาแสดงพลัง โดยให้พวกตนขอเสนอตัวเป็นศูนย์กลางการระดมพล ซึ่งพวกตนคิดว่าเวลาที่เหมาะสมที่จะรวมพล คือ วันที่เสาร์ที่ 26 หรือไม่ก็วันอาทิตย์ที่ 27 ก.ค.นี้ จึงอยากขอให้ประชาชน ร่วมกันส่งความคิดเห็นมาทาง SMS หรือโทรศัพท์เข้ามาแจ้งที่สถานีโทรทัศน์ PTV ว่าอยากให้วันรวมพลเป็นวันใดระหว่าง 2 วันข้างต้น

ทั้งนี้ การรวมตัวกันของกลุ่มผู้สนับสนุนการแก้ไข รธน.ในครั้งนี้ จะมีการรวมตัวกันที่ท้องสนามหลวง เนื่องจากมีพื้นที่กว้างขวางและอยู่ห่างจากสะพานมัฆวานรังสรรค์ ที่กลุ่มพันธมิตรฯ อยู่อีกด้วย ซึ่งพวกตนยืนยันว่า การชุมนุมของพวกตน จะเป็นการชุมนุมของผู้มีวัฒนธรรม เป็นการชุมนุมอย่างสันติอย่างแท้จริง โดยคาดว่า จะมีผู้มาร่วมชุมนุมมากกว่า 100,000 คนแน่นอน เรียกว่า ดีไม่ดี พื้นที่สนามหลวงอาจจะไม่เพียงพอในการรองรับคนที่มาชุมนุมด้วยซ้ำ

เป็นที่น่าสังเกตว่า การนัดชุมนุมใหญ่ของ นปก.ครั้งนี้ เป็นการหวนกลับมาใช้เกมมวลชนของระบอบทักษิณอีกครั้ง หลังจากที่ความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญในรอบที่ 2 นี้ ถูกต่อต้านจากกระแสสังคมอย่างหนัก ทั้งในแง่จังหวะเวลาที่ไม่เหมาะสม และเหตุผลในการแก้ไข โดยเฉพาะกรณีที่นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการรัฐธรรมนูญ ที่ออกมาตั้งคำถามเชิงเปรียบเทียบว่า สมควรจะให้โจรแก้ไขกฎหมายอาญาได้หรือไม่ เป็นคำถามที่สร้างความเดือดแค้นให้กับคนในพรรคพลังประชาชนเป็นอย่างยิ่ง เพราะเห็นได้ชัดเจนว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากปรากฏความผิดของรัฐบาลเกิดขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งกรณีการแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา คดีใบแดงของนายยงยุทธ ติยะไพรัช การซุกหุ้นภรรยาของนายไชยา สะสมทรัพย์ เป็นต้น ดังนั้นเกมมวลชน จึงเป้นทางเลือกเดียวที่เหลืออยู่ที่จะอ้างว่ามีคนจำนวนมากให้การสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ในช่วงท้ายรายการ ผู้ดำเนินรายการได้กล่าวถึงการประกาศ 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤตเพื่อไทยทุกคน ที่รัฐบาลเตรียมนำมาใช้ว่า สิ่งดังกล่าวทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า รัฐบาลคิดถึงประชาชนเป็นอันดับแรก ห่วงประชาชนมากกว่าห่วงตัวเอง เพราะถึงแม้ตอนนี้รัฐบาลจะถูกโจมตีจากฝ่ายพันธมิตรฯ แต่ก็ไม่สนใจ ไม่หยุดทำงาน ยังคงเดินหน้าแก้ปัญหาให้ประชาชนอย่างต่อเนื่องจึงถือเป็นการกระทำที่น่าชื่นชมมาก