xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.นับถอยหลัง “หุ่นเชิด” เย้ยปรับ ครม.สายเกินแก้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

องอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคปชป.
“องอาจ” ชี้ หมดเวลาปรับ ครม.ลูกกรอก แม้นายกฯพลิกลิ้นยอมปรับใหญ่ เย้ยมีอำนาจ แต่ไร้ปัญญาปกครอง รมต.ถูกต่อต้านรอบทิศ เตือนอย่าริแก้ รธน.เพื่อให้พรรคพวกพ้นผิด มั่นใจ ปชช.ไม่งอมืองอเท้าให้โอกาสอีกต่อไป

วันนี้ (13 ก.ค.) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกฯกล่าวในรายการสนทนาประสาสมัคร ว่า จะปรับใหญ่ ครม.เอาคนใหม่ๆ เก่งๆ เข้ามา ว่า ตนไม่แน่ใจว่า ตัดสินใจล่าช้าไปหรือไม่ เพราะขณะนี้เวลาในการทำงานของรัฐบาลใกล้หมดแล้ว เพราะที่ผ่านมาไม่ได้ทำงานเพื่อหวังแก้ไขปัญหาให้ประชาชน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ แต่รัฐบาลกำลังเดินหน้าแก้ไขปัญหาตัวเอง โดยบอกว่าจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ แทนที่จะแก้ไขปัญหาของชาวบ้าน

“ผมไม่แน่ใจว่า ที่บอกว่าจะปรับใหญ่ จะสายเกินไปหรือไม่ เพราะตอนนี้รัฐบาลอยู่ในสภาพมีอำนาจปกครองไม่ได้ เห็นได้จากรัฐมนตรีแพ้ภัยจากการกระทำของตัวเอง ทั้ง นายจักรภพ เพ็ญแข นายนพดล ปัทมะ นายไชยา สะสมทรัพย์ และ นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รวมถึงตัวนายกฯเอง ที่มีคดีอยู่ที่ กกต.-ศาล เวลาของรัฐบาลใกล้หมดลงไปเรื่อยๆ นอกจากนี้ การลงไปปฏิบัติภารกิจนอกทำเนียบ ยังถูกต้องต่อต้าน เช่น กรณีของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ขณะเดียวกัน ข้าราชการเริ่มแสดงจุดยืนเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะข้าราชการทหาร เช่น พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ หรือนายทหารยศ ร.ต.ที่ออกมาเคลื่อนไหวไม่พอใจรัฐบาล ที่พยายามทำทุกวิถีทาง ใช้อำนาจเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด ไม่ติดคุก ไม่ยุบสภา นี่คือเหตุผลในการแก้รัฐธรรมนูญ” นายองอาจ กล่าว

นายองอาจ กล่าวด้วยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นการเอาตัวรอด โดยไม่คิดแก้ไขปัญหาของประชาชน ดังนั้น อยากให้รัฐบาลคิดให้ดี มิฉะนั้น จะไม่สามารถหลุดพ้นกับดักของตัวเอง เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะทำเกิดวิกฤต ถูกประชาชนต่อต้านอย่างแน่นอน ว่า ทำเพื่อประชาชนหรือตัวเอง วันนี้ นายกฯประเทศชัดเจนว่ารัฐธรรมนูญ คือ ปัญหาในการทำงาน และจะแก้ไข ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ขอเรียนว่ารัฐธรรมนูญมิใช่ปัญหาของรัฐบาล ปัญหาของรัฐบาลคือ ทำผิด จงใจบริหารราชการแผ่นดินขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งก่อนลงสมัครรับเลือกตั้งรัฐบาลก็รู้อยู่แล้วว่ารัฐธรรมนูญมีกี่มาตรา และรู้ว่าต้องไม่ทำอะไรที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่รัฐบาลก็พยายามเดินหน้าท่าที่ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทั้งก่อนการเลือกตั้ง เลือกตั้ง และหลังเลือกตั้ง และมาวันนี้บอกว่ารัฐธรรมนูญมีปัญหา จะมาแก้ไข มาตรา 237 และมาตรา 309 โดย ส.ส.ในพรรคพลังประชาชน บอกว่า จะงอมืองอเท้าต่อไปไม่ได้ ต้องเร่งแก้อำนาจตุลาการด้วย ดังนั้นขอเตือนให้รัฐบาลระมัดระวังว่าจะเกิดวิกฤตการเมืองตามมา เหมือนเอาน้ำมันไปราดบนกองไฟ

นายองอาจ กล่าวด้วยว่า หากประชาชนคิดเหมือนกับ ส.ส.พรรคพลังประชาชน คือ งอมืองอเท้าปล่อยให้รัฐบาลนี้เอาอำนาจมาแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อประโยชน์ตัวเอง โดยเฉพาะจะแก้มาตรา 237 ไม่ให้พรรคถูกยุบ และแก้มาตรา 309 เพื่อนายใหญ่ไม่ให้ถูกเอาผิดขอให้ระวังให้ดี เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญมิใช่วิธีการแก้ไขปัญหา ขอให้ย้อนดูสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล เราไม่เคยมีปัญหาเรื่องรัฐธรรมนูญ และไม่ดำเนินการอะไรที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ส่วนที่คนในรัฐบาลบอกว่าต้องแก้ไขอำนาจตุลาการที่ล้ำเส้น ขอเรียนว่า อำนาจตุลาการถูกออกแบบอำนาจตุลาการให้มาคานอำนาจฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ให้มีการทุจริตเชิงนโยบาย ใช้อำนาจเกินขอบเขต มีผลประประโยชน์ทับซ้อน มิใช่ล้ำเส้นแต่อย่างใด

นายองอาจ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายกฯ บอกว่า เร็วๆ นี้ พรรคประชาธิปัตย์จะรู้สึก เพราะอาจโดนใบแดงที่ จ.อุบลราชธานี นั้น ถือว่า ผิดสังเกต เพราะที่ จ.อุบลราชธานี เคยมีการร้องเรียนการเลือกตั้งต่อ กกต.อุบลราชธานี และมีการสรุปผลว่าไม่มีความผิด แต่ผ่านมา 3-4 เดือน มีความพยายามจากฝ่ายสืบสวนสอบสวน ส่วนกลาง จะหยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณา และมีความพยายามที่จะร้องเรียนเรื่องนี้ขึ้นมาอีก พยายามที่จะควานหาว่า ผู้สมัครของพรรคคนใดที่เป็นกรรมการบริหารพรรค และเข้าข่ายที่จะร้องเรียนการทุจริตการเลือกตั้ง เพื่อสอบสวนเอาผิดให้ได้

“ที่นายกฯบอกว่า เดี๋ยวพรรคประชาธิปัตย์จะรู้สึก ขอเรียนว่า เราไม่มีประสงค์จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อมิให้ถูกยุบพรรค หรือหนีความผิด ถ้าเราถูกตัดสิน เราก็พร้อมยอมรับ จะไม่ร้องแรกแหกกระเชิงได้ และจะไม่ประพฤติเหมือนกับที่รัฐบาลทำ อย่างไรก็ตาม พรรคไม่วิตกกังวลเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่า ไม่ได้ทำผิดอไร” นายองอาจ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เชื่อมั่น ครม.ชุดใหม่ที่ นายสมัคร บอกว่า จะปรับใหญ่ หรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า หากปรับเอาคนเก่ง มีความรู้ ความสามารถ มาทำงานแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนได้ก็เป็นเรื่องดี แต่ต้องดูด้วยว่า นายกฯคนนี้จะมีคนอยากมาทำงานด้วยหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น