xs
xsm
sm
md
lg

เย้ย"หมัก"ปรับครม.เมื่อสาย ระบุประชาชนไม่ยอมให้ปกครองแล้ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะปรับใหญ่ ครม. เอาคนใหม่ๆ เก่งๆ เข้ามาว่า ตนไม่แน่ใจว่า ตัดสินใจล่าข้าไปหรือไม่ เพราะขณะนี้เวลาในการทำงานของรัฐบาลใกล้หมดแล้ว เพราะที่ผ่านมาไม่ได้ทำงานเพื่อหวังแก้ไขปัญหาให้ประชาชน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจ แต่รัฐบาลกำลังเดินหน้าแก้ไขปัญหาตัวเอง โดยบอกว่าจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ แทนที่จะแก้ไขปัญหาของชาวบ้าน
"ตอนนี้ รัฐบาลอยู่ในสภาพมีอำนาจ แต่ปกครองไม่ได้ เห็นได้จากรัฐมนตรีแพ้ภัยจากการกระทำของตัวเอง ทั้งนายจักรภพ เพ็ญแข นายนพดล ปัทมะ นายไชยา สะสมทรัพย์ และนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รวมถึงตัวนายกฯ เอง ที่มีคดีอยู่ที่ กกต. ศาล เวลาของรัฐบาลใกล้หมดลงไปเรื่อยๆ นอกจากนี้การลงไปปฏิบัติภารกิจนอกทำเนียบฯ ยังถูกต่อต้าน เช่น กรณีของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน ขณะเดียวกันข้าราชการเริ่มแสดงจุดยืนเป็นของตังเอง โดยเฉพาะข้าราชการทหาร เช่น พล.อ.ปฐมพร เกสรศุกร์ หรือนายทหารยศ ร.ต. ที่ออกมาเคลื่อนไหวไม่พอใจรัฐบาล ที่พยายามทำทุกวิถีทาง ใช้อำนาจเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด ไม่ติดคุก ไม่ยุบสภา นี่คือเหตุผลในการแก้รัฐธรรมนูญ" นายองอาจกล่าว
นายองอาจ กล่าวด้วยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นการเอาตัวรอด โดยไม่คิดแก้ไขปัญหาของประชาชน ดังนั้น อยากให้รัฐบาลคิดให้ดี มิฉะนั้นจะไม่สามารถหลุดพ้นกับดักของตัวเอง เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะทำเกิดวิกฤต ถูกประชาชนต่อต้านอย่างแน่นอน ว่าทำเพื่อประชาชนหรือตัวเอง วันนี้นายกฯประกาศชัดเจนว่า รัฐธรรมนูญคือปัญหาในการทำงาน และจะแก้ไข ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ ขอเรียนว่า รัฐธรรมนูญมิใช่ปัญหาของรัฐบาล ปัญหาของรัฐบาลคือ ทำผิด จงใจบริหารราชการแผ่นดินขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งก่อนลงสมัครรับเลือกตั้ง รัฐบาลก็รู้อยู่แล้วว่ารัฐธรรมนูญมีกี่มาตรา และรู้ว่าต้องไม่ทำอะไรที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ แต่รัฐบาลก็พยายามเดินหน้าท่าที่ที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ทั้งก่อนการเลือกตั้ง เลือกตั้ง และหลังเลือกตั้ง และมาวันนี้บอกว่า รัฐธรรมนูญมีปัญหา จะมาแก้ไข มาตรา 237 และมาตรา 309 โดย ส.ส.ในพรรคพลังประชาชน บอกว่าจะงอมืองอเท้าต่อไปไม่ได้ ต้องเร่งแก้อำนาจตุลาการด้วย ดังนั้นขอเตือนให้รัฐบาลระมัดระวังว่า จะเกิดวิกฤตการเมืองตามมา เหมือนเอาน้ำมันไปราดบนกองไฟ
นายองอาจ กล่าวด้วยว่า หากประชาชนคิดเหมือนกับ ส.ส.พรรคพลังประชาชน คือ งอมืองอเท้าปล่อยให้รัฐบาลนี้เอาอำนาจมาแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อประโยชน์ตัวเอง โดยเฉพาะจะแก้มาตรา 237 ไม่ให้พรรคถูกยุบ และแก้มาตรา 309 เพื่อนายใหญ่ไม่ให้ถูกเอาผิด ขอให้ระวังให้ดี เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญมิใช่วิธีการแก้ไขปัญหา ขอให้ย้อนดูสมัยพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล เราไม่เคยมีปัญหาเรื่องรัฐธรรมนูญ และไม่ดำเนินการอะไรที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ส่วนที่คนในรัฐบาลบอกว่าต้องแก้ไขอำนาจตุลาการที่ล้ำเส้น ขอเรียนว่า อำนาจตุลาการ ถูกออกแบบให้มาคานอำนาจฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ให้มีการทุจริตเชิงนโยบาย ใช้อำนาจเกินขอบเขต มีผลประประโยชน์ทับซ้อน มิใช่ล้ำเส้นแต่อย่างใด
นายองอาจ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายกฯ บอกว่า เร็ว ๆ นี้พรรคประชาธิปัตย์จะรู้สึก เพราะอาจโดนใบแดงที่ จ.อุบลราชธานีนั้น ถือว่าผิดสังเกต เพราะที่ จ.อุบลราชธานี เคยมีการร้องเรียนการเลือกตั้งต่อ กกต. อุบลราชธานี และมีการสรุปผลว่าไม่มีความผิด แต่ผ่านมา 3-4 เดือน มีความพยายามจากฝ่ายสืบสวนสอบสวน ส่วนกลาง จะหยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณา และมีความพยายามที่จะร้องเรียนเรื่องนี้ขึ้นมาอีก พยายามที่จะควานหาว่า ผู้สมัครของพรรคคนใดที่เป็นกรรมการบริหารพรรค และเข้าข่ายที่จะร้องเรียนการทุจริตการเลือกตั้ง เพื่อสอบสวนเอาผิดให้ได้
"ที่นายกฯบอกว่า เดี๋ยวพรรคประชาธิปัตย์จะรู้สึก ขอเรียนว่า เราไม่มีประสงค์จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อมิให้ถูกยุบพรรคหรือหนีความผิด ถ้าเราถูกตัดสิน เราก็พร้อมยอมรับ จะไม่ร้องแรกแหกกระเฌอได้ และจะไม่ประพฤติเหมือนกับที่รัฐบาลทำ อย่างไรก็ตาม พรรคไม่วิตกกังวลเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่า ไม่ได้ทำผิดอไร" นายองอาจกล่าว

**ชี้"หมัก"ลาออกก็ไม่พ้นผิดไปได้
นายสาธิต ปิตุเตชะ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย เสนอให้นายสมัคร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อให้โหวตกลับมาใหม่ ว่า ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นข้อเสนอของคนจบดอกเตอร์ เป็นข้อเสนอที่ไร้สาระ ถ้านายกฯ ลาออกแล้ว การเลือกคนกลับเข้ามาใหม่ก็ไม่ควรเป็นคนเดิม เพราะถ้ายังเป็นคนเดิม ก็ไม่มีเหตุที่นายสมัครจะต้องลาออก หากร.ต.อ.เฉลิม ต้องการให้รัฐมนตรี และครม.พ้นผิด การลาออกของนายกฯ ก็ไม่ทำให้พ้นความผิดไปได้ จึงไม่ใช่สักแต่คิดและพูด แต่ควรนึกถึงผลระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนและประชาชนที่มีต่อ ครม. การพูดอะไรควรไตร่ตรองให้ดี
ส่วนกรณีปราสาทพระวิหาร ที่ร.ต.อ.เฉลิม ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศ เสนอมาอย่างไร ครม.ก็ทำอย่างนั้น แต่ถ้า ครม.และรัฐมนตรีจะผิด ก็ต้องเป็นเรื่องที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอมาอย่างแล้วรัฐมนตรีทำอีกอย่าง จึงจะเรียกว่าผิด ถ้าเป็นอย่างนั้นให้อธิบดี หรือปลัดกระทรวง เป็นรัฐมนตรีก็ได้ ดังนั้นประเทศนี้ก็ไม่ต้องมีรัฐมนตรี แต่คนที่เป็นรัฐมนตรี เมื่อข้าราชกาประจำเสนออะไรมาก็ต้องอาศัยข้อมูลรอบด้าน และใช้เป็นเหตุผลในการตัดสินใจบนพื้นฐานของประโยชน์ของประเทศ และประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด
อย่างไรก็ตาม ที่มีข่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิมจะหลุดจากตำแหน่งในการปรับ ครม.ครั้งนี้ ตนคิดว่าสมควร และเหมาะสมแล้ว ที่พรรคพลังประชาชนจะตัดสินแล้วให้ ร.ต.อ.เฉลิม ไปเลี้ยงหลานที่บ้านหรือเลี้ยงลูกที่ฝั่งธนฯ
นายสาธิต กล่าวอีกว่า ขอฝากให้ ร.ต.อ.เฉลิมไปดูกรณีที่ดิน จ.ภูเก็ต ที่ถูกโยกย้ายนอกฤดูกาลภายหลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์อภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องที่ดินเกาะราชาใหญ่ และออกที่ดินทับที่สาธารณะ ว่าเป็นการใช้อำนาจรัฐไปกลั่นแกล้งข้าราชการหรือไม่

**อ้างปชป.ต้องได้ใบแดงที่จ.อุบลฯ
นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ตนในฐานะผู้ร่วมยื่นคำร้องต่อ กกต.กลางสอบสวนกรณี นายวิทูรย์ นามบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อาจทำผิดกฎหมายเลือกตั้งด้วยการจัดมหรสพ และแจกคูปองให้หัวคะแนนไปแจกให้ประชาชนในช่วงเลือกตั้ง 23 ธ.ค.50 ซึ่งพรรคได้ติดตามความเคลื่อนไหวมาตลอดแต่ไม่เข้าใจว่า เหตุใดกกต.กลางจึงยังไม่นำเข้าที่ประชุมพิจารณาเสียที
นายศุภชัยกล่าวด้วยว่า ที่นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการสนทนาประสาสมัคร แสดงความมั่นใจว่ากรณีดังกล่าว พรรคประชาธิปัตย์จะถูกยุบพรรคแน่นอนนั้น เข้าใจว่านายสมัคร คงมองในมุมมองที่เป็นนักกฎหมายเหมือนกัน จากความชัดเจนทั้งพยานหลักฐาน จึงมั่นใจว่าหากเป็นมุมมองท่านคดีนี้
ก็ต้องให้ใบแดง ตามหลักของวิญญูชน
กำลังโหลดความคิดเห็น