นายกฯ กระเหี้ยนกระหือรือยืมปากนักวิชาการ ถล่มสถาบันตุลาการ ก้าวก่ายการทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร กรณีปราสาทพระวิหาร จนกระทบความสัมพันธ์ ท่องคาถาไทยไม่เสียอธิปไตยแม้ตารางนิ้วเดียว อ้างรัฐบาลไทย-เขมรต้องเสียรังวัด แถมประชาชนทั้งสองประเทศเกิดความคลางแคลงใจ
วันนี้ (6 ก.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการสนทนาประสาสมัครถึงกรณีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้ยื่นคำร้องขอศาลปกครองกลางกรณีปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จนกระทั่งศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวว่า มติคณะรัฐมนตรีก็ยินดีปฏิบัติตามคำสั่งและสั่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ในฐานะที่ปรึกษากฎหมายฝ่ายบริหารช่วยให้คำแนะนำ อีกทั้งให้กระทรวงการต่างประเทศระงับการแถลงการณ์ร่วมขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารออกไปก่อน ก็มีนักวิชการออกมาแสดงความเห็นว่าศาลปกครองใช้อำนาจเกินหน้าที่ เพราะการใช้คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก้าวก่ายฝ่ายบริหาร กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รัฐบาลไทยและกัมพูชาเสียรังวัดทั้งคู่ รวมทั้งประชาชนทั้งสองประเทศก็ยังสงสัย ทั้งที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากว่า 45 ปี และถือว่าสถาบันตุลาการใช้อำนาจกระทบต่อการทำหน้าที่บริหาร
นายสมัคร กล่าวว่า บ้านเมืองนี้แปลกไปดึงบุคลาการในศาลลงมาทำหน้าที่ในองค์กรอิสระต่างๆ รวมทั้งมานั่งในตำแหน่งรัฐมนตรี หรืออธิบดี ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์และกระทบต่อการทำหน้าที่ศาล บางกรณีก็ตรวจสอบไมได้ อย่างเช่น เลขาธิการ กกต.ถูกดีเอสไอกล่าวหาเรื่องพิมพ์บัตรก็ตรวจสอบไมได้ เพราะเลขา กกต.มาจากศาล ที่ต้องพูดอย่างนี้ไม่กลัวและตกเป็นจำเลยแล้วทั้ง 5 ศาล แต่ว่าหลังจากนี้ รัฐบาลจะไปตกลงอะไรกับต่างประเทศ หากมีกลุ่มบุคคลใดไปยื่นฟ้องร้องต่อศาล อาจทำให้คำสั่งหรือมติ ครม.ที่ออกมาอาจต้องตกไป ซึ่งตรงนี้ถือว่าน่าเป็นห่วงในการบริหาร และไม่ถือว่าทั้ง 3 สถาบันไม่มีระบบคานอำนาจซึ่งกันและกันแต่เป็นการก้าวก่ายแทรกแซงการบริหาร
นายสมัคร กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า พันธมิตรปลุกปั่นสร้างกระแสรักชาติสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองทั้งที่ไม่ได้เสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว ขอบอกเลยว่าที่มาของปัญหาเพราะเกลียดนายกทักษิณ และจะมาดึงนายสมัครจะเอาฆ่าด้วย พร้อมอ้างว่าเป็นนายกมาจากการเลือกตั้ง หาเสียงด้วยตัวเองเอง พรรคก็พรรคใหม่ ชื่อก็ใหม่ คนละความคิดด้วยซ้ำ แม้จะไม่เก่งเท่า แต่ก็รวบรวมคนมา ถูกกัก 111 คน ก็เอาที่เหลือมาจัดรัฐบาล แล้วมี 6 พรรค ไม่ใช่พรรคเดียว อย่าง รมต.ท่องเที่ยวก็เก่ง รมว.เกษตรฯ รมต.ช่วยคลังก็ช่วยงานเยอะ แต่ละพรรคก็ทีมเดียวกัน ทำงานได้ แต่ฝ่ายค้านอดรนทนไมได้ พอมีเรื่องกุข่าวจับตัวนายกฯ ประชาธิปัตย์ก็ออกมาเลย ให้ 5 พรรคถอนตัว
นอกจากนี้ นายสมัครยังได้ตำหนิสื่อมวลชนที่เสนอข่าวว่า เขากุข่าวเรื่องจะถูกจับตัวที่สนามบิน โดยอ้างว่าเรื่องนี้เพราะมีนักข่าวไปถามก็ได้บอกไปว่ามันเป็นข่าวลือ ถ้าจะลือก็ให้มันแนบเนียนหน่อย เพราะคดีของเขานั้นยังอยู่ที่ศาลอุทธรณ์ ศาลต้องบอกก่อนที่จะอ่านคำพิพากษา แล้วก็จะไปนั่งฟัง ถ้าไม่ไป ศาลก็จะออกหมายจับ เว้นแต่ว่าศาลจะอ่านลับหลัง แต่ก็ยังไปเขียนกันว่ากุข่าว เลยเถิดไปถึงว่าต้องเปลี่ยนสนามบินจากสุวรรณภูมิไปลงที่ บน.6 ทั้งที่ความจริงแล้ว เขาเดินทางด้วยเครื่องบินทหารอากาศ อย่างนี้ถ้ามีคำว่ากุข่าวแล้วก็มีเต้าข่าว คือไม่มีอะไรก็เขียนขึ้นมาเอง
นายสมัครยังได้ตำหนิการเสนอข่าวการหาสถานที่สร้างรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งหนังสือพิมพ์บางฉบับพาดหัวว่า “ชัยหักหมัก” เพราะนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาต้องการได้สถานที่ที่คลองเตย แต่นายสมัครต้องการได้ที่นนบุรี พอวันต่อมาได้ไปดูที่คลองเตยก็พาดหัวอีกว่า “หมักกินรวบ” ซึ่งความจริงแล้วยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเลือกที่ไหน เพียงแค่ไปดูที่เท่านั้น จะไปกินรวบได้ยังไง คนที่เขียนมันต้องมีความคิดด้วย อย่าสักแต่เขียนๆ พอต่อว่าก็ทำฮึดฮัด พอไม่ว่าก็เขียนตามใจชอบ
คำต่อคำ"หมัก"แจงเยือนจีน-บรูไน ด่าสื่อเต้าข่าว โวยตุลาการแทรกแซงบริหาร