นับถอยหลัง รบ.หุ่นเชิด “ทาสแม้ว” เรียงคิวโดนสอยเกลื่อน

“สมเกียรติ-เจิมศักดิ์” ขึ้นเวทีพันธมิตรฯ ร่วมจัดรายการ “รู้ทันประเทศไทย ภาคพิเศษ” ชี้จุดจบรัฐบาลหุ่นเชิด เผยเดือน 7 เป็นเดือนแห่งการสังหาร คดีจ่อคิวเช็กบิลทาส “แม้ว” เพียบ ระบุ “หมัก” อาการหนัก คดีหมิ่นประมาท-สินบนญี่ปุ่น 125 ล้าน สร้างอุโมงค์ส่งน้ำแสนแสบ รอเขี่ยพ้นเก้าอี้นายกฯ

วานนี้ (9 ก.ค.) เวลาประมาณ 22.30 น.ที่เวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ได้จัดรายการ “รู้ทันประเทศไทย ภาคพิเศษ” โดยมีวิทยากร คือ นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นมาชี้ให้เห็นถึงจุดจบของรัฐบาลหุ่นเชิด และระบอบทักษิณ โดยนายสมเกียรติ ระบุว่า จุดจบของรัฐบาลหุ่นเชิดก็เนื่องมาจากกลไกของตุลาการทำงานอย่างเต็มที่ เดือน ก.ค.จึงเป็นเดือนแห่งการสังหาร โดยเฉพาะวันที่ 31 ก.ค.ศาลอาญานัดนัดอ่านคำพิพากษาคดีคุณหญิงพจมาน ชินวัตรและพวกเลี่ยงภาษีหุ้น บ.ชินวัตร คอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นถุงเงินใหญ่ของรัฐบาลหุ่นเชิด

ทั้งนี้ นายสมเกียรติ ยังเชื่อว่า ในวันที่ 10 ก.ค.นี้ รัฐบาลหุ่นเชิดจะตัดตอนด้วยการประกาศลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ของนายนพดล ปัทมะ รัฐบาลพยายามตัดตอนให้นายนภดล ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว โดยที่รัฐบาลยังคงอยู่ แต่กระนั้นใช่ว่ารัฐบาลหุ่นเชิดจะพ้นผิด ยังมีคดีที่เกี่ยวกับ ส.ส.และรัฐมนตรีจ่อคิวสังหารอีกจำนวนมาก

โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เช่น คดีที่นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นโจทก์ยื่นฟ้องในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา หากศาลอุธรณยืนตามที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้จำคุกจำเลยโดยไม่รอลงอาญา นายสมัครจะพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทันที นอกจากนี้ยังมีคดีรับค่าตอบแทนในการเป็นพิธีกรรายการชิมไปบ่นไป ล่าสุดสินบนญี่ปุ่น 125 ล้าน สร้างอุโมงค์ส่งน้ำคลองแสนแสบ ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนเลื่อยขาเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอยู่ในขณะนี้

ขณะที่ นายเจิมศักดิ์แนะให้จับตาดูความคืบหน้าในการยื่นเรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษคณะรัฐมนตรี (ครม.) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ต่อประธานวุฒิสภาเพื่อให้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 275 ของแกนนำ 77 ส.ว.กรณีปราสาทพระวิหารโดยร่างคำร้องชี้ชัดว่ารัฐมนตรีไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 และทำผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

นอกจากนี้ ข้อกล่าวหายังอาจรวมไปถึงประมวลกฎหมายอาญามาตรา 119 ว่าด้วยเรื่อง การกระทำการใดๆ เพื่อราชอาณาจักรหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักรตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ หรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไป ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต และมาตรา 120 ผู้ใดคบคิดกับบุคคลซึ่งกระทำการเพื่อประโยชน์รัฐต่างประเทศ ด้วยความประสงค์ที่จะก่อให้เกิดการดำเนินการรบต่อรัฐ หรือในทางอื่นที่เป็นปรปักษ์ต่อรัฐ ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 10-20 ปี

นายเจิมศักดิ์ ยังเปิดเผยอีกว่า น่าสังเกตว่าทำไมรัฐบาลไทยถึงยอมให้ 7 ประเทศมาบริหารบริเวณพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหาร จะมีประเทศอื่นๆ อีก 6 ประเทศมาตั้งอาณานิคมในเขตแดนไทย ซึ่งจะกลายเป็นความวุ่นวายในประเทศไทย และเป็นการยอมรับแผนที่ของกัมพูชาไปโดยปริยาย หรือจะเป็นการเสียค่าโง่ครั้งที่สามของประเทศไทยหรือไม่