ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - พันธมิตรฯ ศรีสะเกษร่วมสมัชชาฯ และองค์กรเครือข่ายภาคอีสานระดมพลชุมนุมประท้วงใหญ่กลางเมืองศรีสะเกษ 12 ก.ค.ค้านมติรับประสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของยูเนสโก และร่วมทวงคืนแผ่นดินไทย ก่อนเคลื่อนพลบุกเชิงเขาพระวิหาร 13 ก.ค.เพื่อประกาศเจตนารมณ์และขับไล่ชาวกัมพูชา พ้นเขตแดนไทย “หมอศุภผล” เผย โคราชระดมทุนบริจาคตั้งทีมทนายเตรียมยื่นฟ้องศาลจังหวัด ลากคอรัฐบาล “หมัก หุ่นเชิด” รับโทษประหารชีวิต หรือติดคุกตลอดชีวิต สังเวยแถลงการณ์ร่วมขายชาติหนุนเขมรฮุบปราสาทพระวิหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากคณะกรรมการมรดกโลก องค์การยูเนสโก ได้มีมติเห็นชอบให้ประสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ตามข้อเสนอของประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด วันนี้ (9 ก.ค.) ที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นเส้นทางผ่านขึ้นสู่ประสาทพระวิหาร ปรากฏว่า บรรยากาศเต็มไปด้วยเงียบเหงา ไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเที่ยวชมบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารแต่อย่างใด
ขณะที่ประตูเหล็กทางขึ้นเขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงปิดสนิทล็อกด้วยกุญแจอยู่เช่นเดิมตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา และมีทหารกัมพูชามาเฝ้ารักษาการณ์อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการรุกล้ำเข้าไปในชุมชน ร้านค้า ชาวกัมพูชา ที่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร ได้
นายอรุณศักดิ์ โอชารส ประธานสมัชชาประชาชนจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดศรีสะเกษ และสมัชชาประชาชนจังหวัดศรีสะเกษร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรทุกองค์กรในภาคอีสาน กำหนดจัดชุมนุมใหญ่ ที่ จ.ศรีสะเกษ ในวันที่ 12 ก.ค.นี้ เพื่อประท้วงคัดค้านมติคณะกรรมการมรดกโลก องค์การยูเนสโก ที่เห็นชอบให้ปราสาทพระวิหารขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ตามคำเสนอของประเทศกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว และร่วมกันเรียกร้องทวงคืนแผ่นดินเชิงเขาพระวิหาร
โดยในช่วงบ่ายวันที่ 12 ก.ค.กลุ่มเครือข่ายองค์กรต่างๆ และประชาชนชาวอีสานจากหลายจังหวัด จะมารวมตัวกันแล้วเดินขบวนประท้วงไปตามถนนสายหลักในเขตตัวเมืองศรีสะเกษพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงและรณรงค์ให้ประชาชนชาวศรีสะเกษออกมาร่วมกันคัดค้านมติของคณะกรรมการมรดกโลกที่ไม่ชอบธรรมดังกล่าว ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนมาชุมนุมพร้อมเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ทวงคืนเขาพระวิหาร อยู่ที่บริเวณ หน้าสถานีรถไฟศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ในค่ำวันเดียวกัน (12 ก.ค.)
นายอรุณศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นวันที่ 13 ก.ค.ผู้ชุมนุมทั้งหมดจะเดินทางไปชุมนุมร่วมกับกลุ่มธรรมยาตรากอบกู้รักษาแผ่นดินไทย กรณีเขาพระวิหาร-มณฑลบูรพา และสมัชชาเกษตรรายย่อยจังหวัดศรีสะเกษ ที่ปักหลักชุมนุมอยู่บริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ ตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป
ก่อนที่จะทำการเคลื่อนขบวนผู้ชุมนุมทั้งหมดไปร่วมกันประกาศเจตนารณ์ของประชาชนชาวไทย พร้อมนำศาลาไทยไปตั้งไว้ที่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร ประชิดชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อเป็นสัญญาลักษณ์แสดงให้เห็นว่าเขตแดนไทยอยู่ที่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร
“การระดมพลชุมนุมประท้วงใหญ่ 12-23 ก.ค.นี้ จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะมีประชาชนชาวอีสานและสมาชิกเครือข่ายองค์กรต่างๆ เข้าร่วมจำนวนมากระดับหลายพันคน และมีแกนนำคนสำคัญเข้าร่วม เช่น นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ เลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย, ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด และ กลุ่มศิลปินกู้ชาติ นำโดย วสันต์ สิทธิเขตต์, ประทีป ขจัดมาร เป็นต้น” นายอรุณศักดิ์ กล่าว
ด้าน ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด เปิดเผยว่า การชุมนุมประท้วงใหญ่ที่กลางเมือง จ.ศรีสะเกษ และที่เชิงเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ 12-13 ก.ค.นี้ จะระดมสมาชิกในภาคอีสานเข้าร่วมเกือบทุกจังหวัดๆ ละ 300-500 คน โดยจุดเป้าหมายหลัก คือ คัดค้านมติคณะกรรมการมรกดกโลกที่รับประสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก
พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลและทหารออกมารับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประเทศชาติ กรณีเขาพระวิหาร ให้ผลักดันชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเขตแดนไทยเข้ามาตั้งชุมชนร้านค้าที่บริเวณเชิงเขาพระวิหารออกไปโดยเร็ว และดำเนินการปักปันเขตแดนระหว่างไทยบริเวณดังกล่าวตามหลักสากลโดยยึดแนวสันปันน้ำเป็นหลัก จากนั้นให้รัฐบาลทบทวนหาช่องทางยื่นต่อศาลโลกให้พิจารณาคดีข้อพิพาทกรณีประสาทพระวิหารใหม่อีกครั้ง
นอกจากนี้ ประชาชนชาวไทยในนามสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย จะร่วมกันตั้งทีมทนายความ ขึ้นมาเพื่อดำเนินการยื่นฟ้องรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี กับพวก ต่อศาลจังหวัดนครราชสีมา กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า แถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา วันที่ 18 มิ.ย.2551 สนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก นั้น ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ซึ่งเข้าข่ายความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 119 และ 120 ที่มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต
“สมัชชาประชาชนฯ จะตั้งทีมทนายเข้ายื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดนครราชสีมา ในเร็วๆ นี้ ส่วนค่าดำเนินการในชั้นศาลทั้งหมดจะขอรับบริจาคจากประชาชนคนไทยที่รักชาติรักแผ่นดินทุกคน ตั้งแต่เย็นนี้ (9 ก.ค.) เป็นต้นไป ที่เวทีรวมพลังชาวโคราช ทวงคืนเขาพระวิหาร ลานข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ซึ่งมีศิลปินกู้ชาติชุดใหญ่เดินทางมาร่วมเวทีด้วย เช่น หรั่ง ร็อคเคสตร้า, ศรัณยู วงษ์กระจ่าง, สุกัญญา มิเกล, ไก่ แมลงสาบ เป็นต้น” ทพ.ศุภผล กล่าว