“เจิมศักดิ์” ชี้ ศาลฟันใบแดง “ยุทธ ตู้เย็น” เป็นแค่เพียงจุดเริ่มต้น เพราะรูปแบบพฤติกรรมทุจริต หวังผลเลือก ส.ส.สัดส่วนภาคเหนือ ดังนั้น อีก 4 พระหน่อพลังแม้ว “สมชาย-สมพงษ์” เตรียมตัวนับถอยหลังโดนสอยตามติดๆ แน่นอน ขณะเดียวกัน ระบุ หาก ป.ป.ช.ชี้มูลลงนามเขาพระวิหาร ผิดจริง “นพดล” เจอโทษหนักคุกตลอดชีวิต หรือประหารแน่ ส่วน ครม.ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทั้งคณะ
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "รู้ทันประเทศไทย"
วันนี้ (8 ก.ค.) เมื่อเวลา 18.53 น.นายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง อดีต ส.ว.กทม.กล่าวในช่วงรู้ทันประเทศไทย บนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถึงกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำตัดสินให้ใบแดง นายยงยุทธ ติยะไพรัช ว่า เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น การที่ นายยงยุทธ กระทำการทุจริตเลือกตั้ง เป็นการเชื้อชวนให้คนไปลงคะแนนเลือก ส.ส.ระบบสัดส่วนของภาคเหนือ เพราะฉะนั้นคนที่ไปลงเลือกพรรคพลังประชาชน มีคนได้ผลประโยชน์จากการทุจริตถึง 5 คน คือ ส.ส.สัดส่วนภาคเหนือทั้งหมด ดังนั้น คนที่จะต้องมีปัญหาต่อไป คือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว และ นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์
นายเจิมศักดิ์ กล่าวต่อว่า การตัดสินในวันนี้เป็นเพียงเบื้องต้น เพราะ กกต.ไปพบว่า นายยงยุทธ เป็นผู้กระทำความผิด จึงต้องดำเนินการ นายยงยุทธ ก่อน แต่ในรูปการณ์ เนื่องจาก นายยงยุทธ อยู่ในระบบสัดส่วน การทุจริตจึงไม่ได้เลือกเพียงนายยงยุทธเพียงคนเดียว แต่เลือกอีก 5 คนนั้นด้วย ขณะนี้จับหัวหน้าปล้นได้ ในทีมยังจะต้องโดนตามมา พวกเรายังจะต้องเดินหน้าต่อ อย่างไรก็ตาม ในรัฐธรรมนูญ 50 มาตรา 237 วรรค 2 ระบุชัดว่า ถ้ากรรมการบริหารพรรคดำเนินการผิดกฎหมายเลือกตั้ง พรรคการเมืองดังกล่าวจะต้องถูกตัดสินยุบพรรค ดังนั้นเชื่อว่า อีกไม่นานศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินให้ยุบพรรคพลังประชาชน
ส่วนกรณีที่ พรรคพลังประชาชน ออกมาประกาศชัดว่า เตรียมตั้งพรรคใหม่แล้วนั้น นายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้จะต้องวิพากษ์วิจารณ์ กกต.ที่รู้ว่า พรรคพลังประชาชน เป็นพรรคเดียวกับพรรคไทยรักไทย แต่ดันไปบอกว่ากฎหมายไม่มีคำว่านอมินี ฉะนั้น เราจะต้องกดดัน กกต.ต่อไป
“แต่เครดิตทั้งหมดนี้ อย่ามาให้กับคนร่างรัฐธรรมนูญ เพราะผมไม่รู้ว่าที่ทำไป คุณสมัคร ชอบบอกว่าพวกนี้ชอบวางกับดัก ผมไม่เคยรู้เลยว่าจะมีคนชั่วๆ เดินมาติดกับดัก เราร่างรัฐธรรมนูญก่อน จะรู้ได้ยังไงว่าจะมีหนูสกปรกมาติดกับดัก เราประกาศแล้วว่ารัฐธรรมนูญเป็นอย่างนี้ มันยังเข้ามา และเมื่อเข้ามาแล้ว เครดิตทั้งหมดต้องให้พี่น้องที่ร่วมชุมนุม ไม่อย่างนั้นเหตุการณ์อย่างนี้เกิดไม่ได้” นายเจิมศักดิ์ กล่าว
นอกจากนั้น นายเจิมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณี พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกรัฐบาล ออกมาพูดถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่า การลงนามร่วมของ นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ กับกัมพูชา ผิดรัฐธรรมนูญ แสดงว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหาจริงๆ นั้น เขากำลังบอกว่ากฎหมายออกมาไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมของโจร
นายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า มาตรา 190 ที่เราได้ไปเพิ่มเติม คือ กรณีนั้นคือสัญญาที่มีผลกระทบต่อเขตแดน หรืออธิปไตยของรัฐ หรือต่อเศรษฐกิจ ก่อนรัฐบาลจะไปเจรจากับต่างประเทศ จะต้องรับฟังความคิดเห็นประชาชน และขออนุมัติกรอบการเจรจาจากรัฐสภาเสียก่อน ถึงจะไปเจรจาได้ ซึ่งรัฐบาลสมัครไม่ได้กระทำการตามนี้เลย ตรงนี้เป็นเหตุให้มีการถอดถอนและเอาผิดทางอาญาได้ ถ้า ส.ส.จำนวนหนึ่งในสี่ ซึ่งได้ยินมาว่าตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์ เตรียมล่ารายชื่อ แล้วกำลังจะเสนอถอดถอน ครม.ทั้งคณะแล้ว
นายเจิมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ความรับผิดชอบของเขาอันหนึ่ง คือ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ยื่นถอดถอน ถ้า ป.ป.ช.ตรวจมูลความผิด สามารถส่งศาลฎีกาฯ อาจจะถูกตัดสินจำคุก หรือประหารชีวิตได้ ขณะเดียวกัน ถ้า ป.ป.ช.รับเรื่องแล้ววินิจฉัยว่าเรื่องนี้เสียงส่วนมากมีมูลความผิด ครม.ทั้งคณะจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยทันที
“รัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจนในมาตรา 190 ฉะนั้น หนีไม่รอด อย่าไปโทษเลยครับว่ารัฐธรรมนูญเขียนมาไม่สอดคล้องพฤติกรรมของโจร ต้องบอกว่า โจรไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือ แล้วไปติดกับรัฐธรรมนูญเข้าช่วยไม่ได้” นายเจิมศักดิ์ กล่าว
