“อัญชลี ไพรีรัก” โดดขึ้นเวทีพันธมิตรฯ หน้าทำเนียบรัฐบาล “สวมวิญญาณซ้อเจ็ด” แฉพฤติกรรมขี้ฉ้อ “นายสอนไม่จำ” เผยเพื่อนดารานักร้องร่วมค่ายสุดทนความเห็นแก่ตัว สร้างความเดือดร้อนจนไม่มีผู้อุปถัมภ์ค้ำจุ้น ระบุหาเจ๊ใหญ่ลิ่วล้ออดีตนักการเมืองใหญ่จัดฉากอ้างสถาบันถล่มพันธมิตรฯ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นางสาวอัญชลี ไพรีรัก แฉพฤติกรรมขี้ฉ้อ
นางสาวอัญชลี ไพรีรัก ผู้ดำเนินรายการเอเอสทีวี สวมวิญญาณ “ซ้อเจ็ด” ขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 3 กรกฎาคม เพื่อเปิดปูดพฤติกรรมขี้ฉ้อของดารานักร้องชื่อดังที่ชื่อ “นายสอนไม่จำ” โดยระบุว่า นายสอนไม่จำคนนี้อายุประมาณ 30 เติบโตมาจากครอบครัวที่กระท่อนกระแท่น มีพ่อเป็นสตันท์แมน แม่เป็นหัวหน้าพาร์ตเนอร์ ทำงานอยู่แถวปิ่นเกล้า
ความที่นายสอนไม่จำเกิดมาหน้าตาหล่อ เป็นถึงพระเอกลิเก มีแม่ยกชื่นชม ไปเล่นที่ไหนเป็นฟาดผู้หญิงที่นั่น แถมยังไม่สวมใส่ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกัน จนพ่อแม่ต้องตามแก้ปัญหาอยู่เรื่อยไปไม่หยุดหย่อน จนครั้นวันหนึ่งเกิดอยากเป็นนักร้อง ได้สังกัดค่ายเพลงดัง แต่ด้วยความที่เห็นแก่ตัวสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนร่วมค่ายมาก็มากจนไม่มีผู้อุปถัมภ์ค้ำจุ้น
ความตกต่ำก็มาเยือนนายสอนไม่จำอย่างช่วยไม่ได้ ตกต่ำถึงขนาดไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อ 10 อันดับคนดัง หรือเทปขายดี ครั้นเมื่อตกอับก็เริ่มผันตัวพึ่งพายาเสพติด เริ่มจากรวมหัวกับเพื่อนร่วมค่ายปลูกกัญชาไว้ใช้เสพจนติดกันงอมแงม ครั้งหนึ่งก็หลุดรอดจากจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถีบให้เพื่อนร่วมค่ายถูกตำรวจจับ จนตกอับมาถึงทุกวันนี้
เหตุการณ์ครั้งนั้นแทนที่นายสอนไม่จำจะจำ กลับไม่จำสมชื่อ ผันตัวพัฒนาไปเสพยาเสพติดชนิดอื่น แถมบางวันเสพมากจนเกิดคึก เพื่อนชักชวนให้มาเวทีพันธมิตรฯ คิดว่ามาแล้วสนุก นายสอนไม่จำ จึงมา ผุดๆโผล่ๆ ชูมือพร้อมเปล่งเสียงสู้ๆ จนคนข้างๆ ได้ยิน และจำดารานักร้องคนดังได้ เพราะถึงจะไม่ได้โด่งดังในวันนี้ แต่ในอดีตก็มีชื่อเสียงจนผู้คนจำหน้าตาได้อยู่
การมาชุมนุมกับพันธมิตรฯ เกิดเป็นข่าวใหญ่โต นายสอนไม่จำเกิดอกสั่นขวัญหาย ก็เลยไปหาเจ๊ใหญ่ของวงการ มือเคลียร์สื่อของอดีตนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ สื่อคนไหนดื้อสั่งปิดหมด สื่อคนไหนเชื่องก็ใช้เงินซื้อ โดยเจ๊อาสาเคลียร์ให้ ผนวกกับต้องการสร้างภาพให้ดูเหมือนว่านายใหญ่ยังมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยการจับนายสอนไม่จำมาเป็นพระเอกในละครเฉลิมพระกียรติ พร้อมจัดฉากในงานเปิดตัวละครให้นายสอนไม่จำได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ระบุไม่ได้เดินทางไปชุมนุมกับพันธมิตรฯ พร้อมอ้างอิงถึงสถาบันอันสูงสุด ซึ่งเป็นการพูดเพื่อใช้เป็นข้ออ้าง ไม่มีตรรกะ ขาดความเคารพต่อสถาบันสูงสุดอย่างสิ้นเชิง
นอกจากพฤติกรรมที่เกินจะอธิบายได้ในครั้งนี้แล้ว นายสอนไม่จำยังเคยสร้างวีรรรม ด้วยการขับขี่รถยนต์ไปชนคนตาย แต่ก็ด้วยความช่วยเหลือของ “เจ๊ จ.” ก็หลุดจากข้อหาขับรถชนคนตายจากสาเหตุเพราะการเสพยาเสพติด แต่ถึงอย่างไรก็ตาม นายสอนไม่จำก็ดันไปมีชื่อโผล่ในลำดับต้นของบัญชีผู้เสพยาเสพติดที่ตำรวจตรวจพบจากผู้ค้าเสพติดรายใหญ่
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่นายสอนไม่จำอาจจะเบลอหลงมาที่เวทีพันธมิตรฯ มายืนยกมือสู้ๆ สุดท้ายก็ออกมาปฏิเสธ จะด้วยฤทธิ์ยาหรือเพราะเจ๊สั่งมาก็แล้วแต่ แต่การกระทำของนายสอนไม่จำ กำลังละเมิดสิทธิของดารานักร้องส่วนหนึ่งที่มาขึ้นแสดงจุดยืนบนเวทีพันธมิตรฯ วันนี้ นักร้องหลายคนสนับสนุนพันธมิตรฯ ทั้งเปิดเผยและไม่เปิดเผย พยายามส่งข้อมูลในทางลบของนายสอนไม่จำ มายังเวทีพันะมิตรฯ จนเจ้าหน้าที่รับกันไม่ไหวแล้วตอนนี้
“สิทธิมันเป็นของทุกคน แต่สิทธิในการเป็นพลเมืองไทย ผู้รักชาติ ถ้าดารามีสติปัญญา มีความรู้ จะรู้ดีว่า บัดนี้ประเทศของเรา ขวานทองของไทย ถูกนักการเมืองมันทารุณกรรม การทารุณกรรมครั้งนี้ มันหมายถึงการสูญเสียงบประมาณจำนวนมากไปกับนักการเมืองขี้ฉ้อ ที่ทุจรติคอรัปชั่นอย่างมูมมาม การทุจริตครั้งนี้มันจะกระทบถึงตัวและลูกหลานของเรา ลูกหลานของเราแทนที่จะได้รับการบำรุงบำเรอทางด้านสุขลักษณะ อนามัย การศึกษา และอยู่ในสังคมดีมีศีลธรรม กลายเป็นว่างบประมาณ 1.8 ล้านล้านบาทที่เราเก็บได้จากภาษีพี่น้องประชาชน และจากที่เก็บไม่ได้อีกหลายหมื่นล้านจากสามพี่น้อง บัดนี้ถูกนักการเมืองโกงกินไปแล้ว 30 เปอร์เซ็นต์ แล้วเราจะยอมให้เกิดเรื่องเหล้านี้ขึ้นอีกหรือไม่”
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นางสาวอัญชลี ไพรีรัก แฉพฤติกรรมขี้ฉ้อ
นางสาวอัญชลี ไพรีรัก ผู้ดำเนินรายการเอเอสทีวี สวมวิญญาณ “ซ้อเจ็ด” ขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 3 กรกฎาคม เพื่อเปิดปูดพฤติกรรมขี้ฉ้อของดารานักร้องชื่อดังที่ชื่อ “นายสอนไม่จำ” โดยระบุว่า นายสอนไม่จำคนนี้อายุประมาณ 30 เติบโตมาจากครอบครัวที่กระท่อนกระแท่น มีพ่อเป็นสตันท์แมน แม่เป็นหัวหน้าพาร์ตเนอร์ ทำงานอยู่แถวปิ่นเกล้า
ความที่นายสอนไม่จำเกิดมาหน้าตาหล่อ เป็นถึงพระเอกลิเก มีแม่ยกชื่นชม ไปเล่นที่ไหนเป็นฟาดผู้หญิงที่นั่น แถมยังไม่สวมใส่ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกัน จนพ่อแม่ต้องตามแก้ปัญหาอยู่เรื่อยไปไม่หยุดหย่อน จนครั้นวันหนึ่งเกิดอยากเป็นนักร้อง ได้สังกัดค่ายเพลงดัง แต่ด้วยความที่เห็นแก่ตัวสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนร่วมค่ายมาก็มากจนไม่มีผู้อุปถัมภ์ค้ำจุ้น
ความตกต่ำก็มาเยือนนายสอนไม่จำอย่างช่วยไม่ได้ ตกต่ำถึงขนาดไม่ได้อยู่ในบัญชีรายชื่อ 10 อันดับคนดัง หรือเทปขายดี ครั้นเมื่อตกอับก็เริ่มผันตัวพึ่งพายาเสพติด เริ่มจากรวมหัวกับเพื่อนร่วมค่ายปลูกกัญชาไว้ใช้เสพจนติดกันงอมแงม ครั้งหนึ่งก็หลุดรอดจากจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถีบให้เพื่อนร่วมค่ายถูกตำรวจจับ จนตกอับมาถึงทุกวันนี้
เหตุการณ์ครั้งนั้นแทนที่นายสอนไม่จำจะจำ กลับไม่จำสมชื่อ ผันตัวพัฒนาไปเสพยาเสพติดชนิดอื่น แถมบางวันเสพมากจนเกิดคึก เพื่อนชักชวนให้มาเวทีพันธมิตรฯ คิดว่ามาแล้วสนุก นายสอนไม่จำ จึงมา ผุดๆโผล่ๆ ชูมือพร้อมเปล่งเสียงสู้ๆ จนคนข้างๆ ได้ยิน และจำดารานักร้องคนดังได้ เพราะถึงจะไม่ได้โด่งดังในวันนี้ แต่ในอดีตก็มีชื่อเสียงจนผู้คนจำหน้าตาได้อยู่
การมาชุมนุมกับพันธมิตรฯ เกิดเป็นข่าวใหญ่โต นายสอนไม่จำเกิดอกสั่นขวัญหาย ก็เลยไปหาเจ๊ใหญ่ของวงการ มือเคลียร์สื่อของอดีตนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ สื่อคนไหนดื้อสั่งปิดหมด สื่อคนไหนเชื่องก็ใช้เงินซื้อ โดยเจ๊อาสาเคลียร์ให้ ผนวกกับต้องการสร้างภาพให้ดูเหมือนว่านายใหญ่ยังมีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยการจับนายสอนไม่จำมาเป็นพระเอกในละครเฉลิมพระกียรติ พร้อมจัดฉากในงานเปิดตัวละครให้นายสอนไม่จำได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ระบุไม่ได้เดินทางไปชุมนุมกับพันธมิตรฯ พร้อมอ้างอิงถึงสถาบันอันสูงสุด ซึ่งเป็นการพูดเพื่อใช้เป็นข้ออ้าง ไม่มีตรรกะ ขาดความเคารพต่อสถาบันสูงสุดอย่างสิ้นเชิง
นอกจากพฤติกรรมที่เกินจะอธิบายได้ในครั้งนี้แล้ว นายสอนไม่จำยังเคยสร้างวีรรรม ด้วยการขับขี่รถยนต์ไปชนคนตาย แต่ก็ด้วยความช่วยเหลือของ “เจ๊ จ.” ก็หลุดจากข้อหาขับรถชนคนตายจากสาเหตุเพราะการเสพยาเสพติด แต่ถึงอย่างไรก็ตาม นายสอนไม่จำก็ดันไปมีชื่อโผล่ในลำดับต้นของบัญชีผู้เสพยาเสพติดที่ตำรวจตรวจพบจากผู้ค้าเสพติดรายใหญ่
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่นายสอนไม่จำอาจจะเบลอหลงมาที่เวทีพันธมิตรฯ มายืนยกมือสู้ๆ สุดท้ายก็ออกมาปฏิเสธ จะด้วยฤทธิ์ยาหรือเพราะเจ๊สั่งมาก็แล้วแต่ แต่การกระทำของนายสอนไม่จำ กำลังละเมิดสิทธิของดารานักร้องส่วนหนึ่งที่มาขึ้นแสดงจุดยืนบนเวทีพันธมิตรฯ วันนี้ นักร้องหลายคนสนับสนุนพันธมิตรฯ ทั้งเปิดเผยและไม่เปิดเผย พยายามส่งข้อมูลในทางลบของนายสอนไม่จำ มายังเวทีพันะมิตรฯ จนเจ้าหน้าที่รับกันไม่ไหวแล้วตอนนี้
“สิทธิมันเป็นของทุกคน แต่สิทธิในการเป็นพลเมืองไทย ผู้รักชาติ ถ้าดารามีสติปัญญา มีความรู้ จะรู้ดีว่า บัดนี้ประเทศของเรา ขวานทองของไทย ถูกนักการเมืองมันทารุณกรรม การทารุณกรรมครั้งนี้ มันหมายถึงการสูญเสียงบประมาณจำนวนมากไปกับนักการเมืองขี้ฉ้อ ที่ทุจรติคอรัปชั่นอย่างมูมมาม การทุจริตครั้งนี้มันจะกระทบถึงตัวและลูกหลานของเรา ลูกหลานของเราแทนที่จะได้รับการบำรุงบำเรอทางด้านสุขลักษณะ อนามัย การศึกษา และอยู่ในสังคมดีมีศีลธรรม กลายเป็นว่างบประมาณ 1.8 ล้านล้านบาทที่เราเก็บได้จากภาษีพี่น้องประชาชน และจากที่เก็บไม่ได้อีกหลายหมื่นล้านจากสามพี่น้อง บัดนี้ถูกนักการเมืองโกงกินไปแล้ว 30 เปอร์เซ็นต์ แล้วเราจะยอมให้เกิดเรื่องเหล้านี้ขึ้นอีกหรือไม่”
