“เชอรี่” ซัดกลับ “แอร์กี่” เปิดใจถึงศึกรักสามเส้าที่แค้นฝังหุ่นกันมานับสิบปี ปฏิเสธไม่เคยทำร้ายแอร์กี่อย่างในหนังสือ ประกาศฟ้องหมิ่นประมาทแอร์กี่ และ “เอ็กแซ็กท์” แฉซ้ำนักเขียนดังปลอมลายเซ็น “กัปตันหนิง” ไปซื้อเบนซ์เตรียมโดนอีกคดี
ยังดำเนินไปอย่างเข้มข้นยิ่งกว่าละครซะอีก สำหรับศึกสาวไส้ระหว่าง “แอร์กี่” เจ้าของบทประพันธ์ “ชีวิตรันทด เรื่องจริงผ่านคอม” ที่ถูกเอ็กแซ็กท์นำมาสร้างเป็นละคร “สงครามนางฟ้า” กับฝ่ายของ “คุณอร” หรือ “พันโททันตแพทย์หญิง อังศิกา กุศลาสัย” , “กัปตันหนิง” และ “เชอรี่” ที่พึ่งจะออกมาแฉกันผ่านสื่อต่างๆ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วบันเทิงผู้จัดการได้นำเสนอบทสัมภาษณ์ “พันโททันตแพทย์หญิง อังศิกา กุศลาสัย” ภรรยาคนแรกของกัปตันหนิง อย่างเจาะลึกไปเรียบร้อยแล้ว รวมถึงบทสัมภาษณ์ของ “แอร์กี่” นักเขียนคนดัง คราวนี้ก็ถึงคิว “เชอรี่” ตัวละครร้ายกาจในสงครามนางฟ้าจะมาเปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวแบบไม่ขอเผยตัวว่า......
“หลังจากที่รายการจับเข่าคุยออกไป เขาก็โทร.หาทุกคนเลย โทร.หากัปตัน โทร.หาน้องหนอน แต่ไม่มีใครรับสาย แล้วก็โทร.ไปหาคุณอรตอนตี 2 คุณอรเขาก็นึกว่าใครมีธุระอะไรก็เลยรับ ได้ยินเสียงเขาบอก สะใจไหมคะคุณหมออังศิกา กำลังจะพูดต่อแต่คุณอรรีบวางสายไปก่อน คือ ไม่มีใครอยากรับหรืออยากคุยกับเขา ไอ้เรื่องหยาบคายนี่เขาพูดเก่ง ไปถามพนักงานเก่าๆ ในสายการบินได้เลยทุกคนรู้หมดว่าคนนี้ร้ายจะตาย”
“ถ้าเรื่องอยู่ในสายการบินเราจะไม่มายด์เลย เพราะคนเก่าๆ ที่นั่นรู้ดีว่าเป็นยังไง แต่มันเสื่อมเสียไปยังคนข้างนอกและพ่อแม่ด้วย ไปเขียนว่าพ่อเราติดเหล้า นี่ด่าถึงบุพการีเลยนะ บอกว่าบ้านเราเป็นสลัม ถ้าบ้านเราเป็นสลัมรถกัปตัน 520 คันเบ้อเร่อไอบีเอ็มจะเข้าไปได้ยังไง คำพูดคนพูดไม่ละอาย”
“ถ้าเขาอยากจะเขียนหนังสืออะไรก็เขียนไปแต่อย่าให้เดือดร้อนใคร ตอนนั้นกำลังท้องก็ได้ยินว่ามีเรื่องของเราอยู่ในเว็บ ก็ไม่ได้สนใจเพราะเขาจะเขียนอะไรก็เขียนไปไม่ใช่ตัวเรา เราอยู่ที่สายการบินก็มีคนมาดูว่าคนนี้นี่ไงอยู่ในเว็บ”
“หลังจากนั้น เขาก็ออกเป็นหนังสือ ก็เลยไปอ่าน ซึ่งพออ่านแล้วก็รู้ว่าเขาพยายามหมายถึงใคร ถ้าเขาไม่เปิดเผยตัวจริงก็ยังพอรับได้ แต่นี่เขามาเปิดเผยตัวจริงตอนงานหนังสือ ซึ่งนักเขียนที่ใช้นามปากกาแล้วมาเปิดเผยตัวจริง ตรงนี้สามารถจับได้เลย เพราะเขาบอกว่าเรื่องนี้เรื่องจริง เป็นการบอกให้ทุกคนรู้ว่าสิ่งที่เขาเขียนหมายถึงใคร เขาเคยเป็นครอบครัวกับใครมาก่อนที่สายการบินก็รู้ทั้งนั้น BASED ON STORY เขาใช้คำนี้ เราเก็บหลักฐานไว้แล้วทุกอย่าง แต่หลังๆ ค่อยๆ จริง 90, 80 เรื่องที่เชอรี่เลวๆ ยังจริงอยู่ แต่เรื่องที่ตัวเองไปมีอะไรกับคนโน้นคนนี้บอกว่าไม่จริง”
“เขาเขียนว่ากัปตันเป็นพ่อหม้าย มาจีบเขา อันนี้ไม่จริง เรื่องนี้คุณอรก็ลงรูปให้เห็นแล้วว่า เขาเข้ามาพัวพันตั้งแต่ยังไม่เลิกกัน แอร์กี่เขามีความสัมพันธ์แบบไปตีบ้านเขาแตก แต่พอหย่ากับคุณอร กัปตันก็ไม่ได้แต่งกับแอร์กี่ เขาก็คบกับคนโน้นคนนี้เพราะเขาโสดแล้ว”
“ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างเรากับกัปตัน เกิดขึ้นหลังจากที่กัปตันหย่ากับคุณอรแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะศึกษากับแค่คนๆ นี้ แต่ระหว่างนั้นกัปตันเขาก็โทร.หาตลอดและมีความสม่ำเสมอ ส่วนแอร์กี่พอกัปตันไปจีบใครก็จะตามไปด่าตลอด ตอนนี้มีกิ๊กกัปตันคนหนึ่งติดต่อมาทางคุณอร ว่า ตอนที่เขาเป็นกิ๊กแอร์กี่ก็โทร.ด่าเขาฉีกของในบ็อกซ์เขา สิ่งที่บอกว่าเราทำ ก็คือ สิ่งที่เขาไปทำกับคนนี้ ตรงนี้กิ๊กกัปตันเขามีหลักฐาน เพราะเขายังเก็บกระดาษที่แอร์กี่เขียนด่าไว้”
“ถ้าคิดจะจับกัปตันน่ะเหรอ ก็คงจะมี AFFAIR กับเขา และก็คงปล่อยให้ท้องเทิ้งไปกับเขา แต่เราก็ไม่ได้มี AFFAIR กับกัปตันอย่างนั้น แต่คงเป็นเพราะเราเป็นคนตรงนิสัยใจคอไปกันได้ ตอนนั้นยังเด็กอายุแค่ 21 ไม่ได้คิดเรื่องพวกนี้ ไม่ได้คิดว่าจะต้องมีครอบครัว พึ่งจะเป็นแอร์ใหม่ๆ ก็สนุกกับการทำงานมากกว่าไม่ได้คิดลึกซึ้งเรื่องอยากมีครอบครัว หรือไปเอาใครมา ใครมาจีบก็คบๆ กันเป็นเพื่อนไปไม่ได้คิดว่าจะต้องจับใครมาแต่งงาน ตอนนั้นไม่รู้เลยว่ากัปตันมีความสัมพันธ์กับแอร์กี่”
“แต่จู่ๆ วันดีคืนดีทางแอร์กี่ก็โทร.มาแนะนำตัวว่าเขาชื่อนี้ๆ บอกว่าพ่อเป็นหมอ อยู่สายการบินนี้ ตอนเขาอยู่มหาวิทยาลัยเขาก็ดัง ซึ่งสิ่งที่เขาเป็นก็ไม่เห็นแปลก อยู่มหาวิทยาลัยใครก็รู้จักเราเหมือนกัน เพราะเราก็เป็นเชียร์ลีดเดอร์ เขาก็บอกว่าเขาท้อง คือเขาคงไปมีความสัมพันธ์อะไรกัน และเมื่อก่อนมันไม่มีการรับรองบุตร ถ้าไม่มีใครมาเซ็นเป็นพ่อต้องโดนออก เราก็เลยบอกกัปตันว่า ถ้าจะแต่งกับเขาก็แต่งเราไม่ว่าอะไร เพราะจะให้เราไปอะไรด้วยทางบ้านเราก็ไม่ยอมอยู่แล้วมันไม่ถูกไม่ควร”
“กัปตันเองเขาก็ให้เหตุผลว่า เขาไปมี AFFAIR แล้วท้อง มันเป็นสิ่งที่เขาจะต้องรับผิดชอบ มันเป็นช่วงเวลาหนึ่งที่ต้องไปดูแลเรื่องลูกเรื่องเต้า ความรับผิดชอบเขาสูงมากทุกวันนี้ก็ส่งเสียลูกเต้าไม่เคยขาดส่ง ถ้าเขาไม่รับผิดชอบแอร์กี่ไม่ทำงานมาเป็น 10 ปีแล้วจะเอาที่ไหนใช้”
“แต่เขาก็ไม่เคยหายไปก็ยังติดต่อโทร.มาสม่ำเสมอ พอทางแอร์กี่รู้ว่ากัปตันยังติดต่อกับเราหรือใครเขาก็ไปลุยทุกคน สิ่งที่เขาเขียนว่า เราทำเขา คือสิ่งที่เขาทำกับเรา อย่างเช่นเรื่องฉีกของในบ็อกซ์เขาเป็นคนทำตลอด เขาทำจนมีคนเห็นและไปบอกกับทางข้างบน ไม่ใช่ว่าเชอรี่ทำจนโดนเรียกขึ้นไปสอบสวน มีการเปรียบเทียบลายมือแล้วหักเงินเดือน 25 เปอร์เซ็นต์เหมือนที่เขาเขียน”
“แต่ว่าทั้งสองคนโดนเรียกขึ้นไปหมดเพราะมันเหมือนการวิวาทกัน และไม่มีการเปรียบเทียบลายมือ สุดท้ายก็โดนหักเงินเดือน 25 เปอร์เซ็นต์ทั้งคู่ ไม่ได้โดนฝ่ายเดียว”
“เรื่องรถที่เขาเขียนในหนังสือว่า รถเขาโดนกรีดเป็นรอย จริงๆ แล้วน้องหนอนเห็นว่า เขาเองนั่นแหละที่ถือหินมาทุ่มกระจกรถเรา และเขาก็เขียนในหนังสืออีกว่ามีการแจ้งความแจ้งประกัน คือ ถ้าเขาไปแจ้งจริงก็เอาหลักฐานมา ส่วนเรามีหลักฐานเป็นพยานบุคคล ตอนนั้นแม่กัปตันเป็นคนไปแจ้งความ กัปตันก็เอารถไปติดกระจก เก็บเศษกระจกอะไรให้หมด เราเห็นแล้วก็สงสารกัปตันจะต้องมาคอยเคลียร์ตลอด
“ช่วงนั้นเราเองก็ไม่ใช่จะไม่มีคนมาจีบ เราเองก็ศึกษาคนอื่นเหมือนกัน เราไม่อยากไปยุ่งเพราะเห็นเขามีปัญหาเยอะ แต่ความดีของเขาก็เยอะ แต่เราก็ไม่ได้ไปมุ่งมั่นอะไรกับเขาเราก็ดูคนอื่นด้วย เราปิดสัญญาณกับกัปตันและบอกให้เขาอยู่กับแอร์กี่ไปก็แล้วกัน แต่เขาก็ยังโทรมา คือคนเราเขาก็ไม่ได้มีความไม่ดีอย่างอื่น เรื่องนิสัยใจคอหรืออะไรเขาดีหมด จะมีก็แค่ปัญหานี้เท่านั้นเอง พอโทรมาเราก็คุยแต่ก็ไม่ได้อะไร”
“เชอรี่” สรุปความสัมพันธ์ที่มีกับ “กัปตันหนิง” ว่า “ไม่ใช่เมียน้อย”
“คือ ดูหน้าสิ....เราก็ไม่ได้ขี้เหร่นะ มันจะไม่มีใครเข้ามาเลยเหรอ ที่บ้านเราก็ไม่ได้มีประวัติแบบนี้ ทุกคนแต่งงานอย่างถูกต้อง เราเองก็เป็นลูกคนสุดท้องจะไปแย่งชิงผู้ชาย ไปอยู่บ้านผู้ชายเหรอ ไม่ได้อยู่ในฐานะแบบนั้นแน่นอน”
“ตอนที่คบกันโทร.คุยกัน เขาจดหรือหย่าอะไรกันกี่ครั้ง เราก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย เพราะเราคบกันแบบเพื่อน ก็อย่างที่บอกว่าเขาก็ไม่ได้เลวร้าย เราก็เองก็ศึกษาคนอื่น และการที่ไม่ได้แต่งกับคนอื่นก็ไม่ได้หมายความว่ารอเขานะ เรามีคนที่ดูนิสัยใจคออยู่ แต่ด้วยความที่เป็นแอร์ไปบินแล้วคนที่เขาอยู่ที่นี่ก็ไปอีกแบบหนึ่ง มันมีประสบการณ์ตรงนี้มาแล้วก็เลยไม่ตัดสินใจเลือกใคร”
“จนครั้งสุดท้ายที่เขาหย่ากันไม่รู้มีเรื่องมีราวอะไร และกัปตันก็ไม่ได้กลับไปอีก เขาโสดมาแล้วก็เข้านอกออกในบ้านเราในฐานะเพื่อนกัน เราก็ยังบอกเขาเลยว่า จะกลับไปคืนดีกันก็ได้นะ ไม่ใช่ว่าเลิกปุ๊บไปตะครุบเขาเลย ก็ให้โอกาสเขาไปคิด ถ้าอยากจะเป็นครอบครัวกับทางโน้นก็ไป คือ มันอยู่ที่วัย ในวัยแบบหนึ่งเราก็ต้องการผู้ชายอีกแบบหนึ่ง พออายุอีกแบบหนึ่งเราก็จะมองโลกอีกแบบหนึ่ง พอเราอยู่ในวันหนึ่งที่มีครบทุกอย่างเราก็มีความสุขแล้ว”
“เขาก็บอกว่าเขาพร้อมที่จะแต่ง แต่เราเป็นฝ่ายไม่พร้อมที่จะแต่ง เพราะมันเลยเวลาที่อยากจะแต่ง และเราก็กลัวเรื่องภาระลูกเต้าของเขา อยากอยู่อย่างสงบสุข ประกอบกับช่วงนั้นคุณแม่ก็เป็นมะเร็ง มันไม่มีเวลามาคิดเรื่องนี้ ตอนหลังคุณแม่เสียชีวิตจะลุกขึ้นมาแต่งงานก็ไม่ใช่ ก็บอกเขาตลอดว่า จะกลับไปทางโน้นก็ไม่ว่าอะไรนะ เราไม่ชอบไปฟาดฟันถ้าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด แต่เขาก็ไม่กลับไปแล้วเพราะแอร์กี่เคยยิงเขา ทุกวันนี้ประตูที่ห้องก็ยังเป็นรูอยู่ขึ้นไปดูได้เลย เรื่องนี้ทำให้แม่ของกัปตันโกรธและให้แอร์กี่ออกจากบ้าน มีสิทธิ์อะไรจะมาฆ่าลูกเขา ตรงจุดนี้เป็นจุดที่ทำให้เขาไม่ไหวแล้ว เขาก็บอกว่า ถ้าเราไม่แต่ง และถ้าเขาคิดจะมีครอบครัวอีกก็คงไม่ใช่คนนี้”
“เขาหย่าไปได้ 10 ปี เราถึงได้ตัดสินใจแต่ง บอกตรงๆ นะว่า รู้สึกเฉยๆ แต่พี่ชายบอกว่า เราก็อายุมากแล้วน่าจะมีเพื่อนมาคอยดูแลซึ่งกันและกัน พอไม่มีคุณแม่เหมือนชีวิตมันหายไปเลย เมื่อก่อนมีหลานไม่รู้สึกเหงา แต่ตอนหลังไปเรียนเมืองนอกกันหมดมันรู้สึกเหงา ก็เลยตัดสินใจแต่งด้วยเหตุด้วยผลว่า อยากจะมีเพื่อนไว้ดูแลกัน ไม่ใช่ว่าอินเลิฟเหมือนสมัยสาวๆ หรือว่ารอมานานแสนนาน”
“เราเข้ามาบ้านนี้ไม่ใช่จู่ๆ ก็วอล์กอินเข้ามาหรือเข้ามาโดยที่ใครไม่เต็มใจ และก็ไม่ได้ท้องก่อนใดๆ ทั้งสิ้น แม่กัปตันเขาไปสู่ขอตามประเพณี คิดว่าทางนั้นเขาคงโมโหที่กัปตันแต่งงานกับเรา แต่กับเขาไม่มีงานแต่งงาน พอแต่งกันได้ไม่นานชีวิตสงบอยู่ดีๆ ก็มีข่าวว่า เขาเอาเรื่องไปเขียนในเว็ป ต่อมาก็เอามาเขียนในหนังสือและเอามาทำเป็นละคร และก็ยังเอารูปไปโพสต์ในเว็บเป็นการชี้เป้า ถ้าปล่อยไปมันก็จะเสื่อมเสียก็เลยเข้าไปแจ้งความ ตำรวจก็ได้เข้าไปค้นบ้านแอร์กี่และก็เจอรูปในคอมพิวเตอร์ แอร์กี่ก็ร้องห่มร้องไห้ไม่ได้ทำจะทำไปทำไม ขนาดชี้เป้าเขียนเรื่องแบบนี้แล้วคุณทำไปทำไมล่ะคะขอเหตุผลหน่อย”
“มันมีหลายๆ อย่างที่เขาพูดขึ้นมาเอง อย่างเรื่องที่เขาบอกว่า เราเอาเท้าไปถีบหน้าลูกเขา บอกได้เลยว่า ไม่ได้ทำ เขาสร้างเรื่องขึ้นมา เขาบอกว่าคนเลี้ยงลูกเห็น งั้นก็ให้เอามายันได้ แต่ถ้าจะให้เราเอาพยานมาไม่มี เพราะมันไม่มีเหตุการณ์นี้แล้วจะเอาพยานที่ไหน”
“ส่วนเรื่องที่เขาแท้งและบอกว่าเกิดจากเรา คือ ถ้าเป็นพุทธจะสาบานแต่เราไม่ใช่พุทธ จริงก็ว่าจริงไม่ใช่ก็ว่าไม่ ถ้าพูดไม่จริงก็แช่งได้ บอกได้เลยว่าเขาท้องเมื่อไหร่เรารู้เป็นคนสุดท้าย เขาอยู่โรงพยาบาลวันไหน ออกวันไหนก็ไม่รู้ เขาบอกว่า เราโทร.ไปหาเขาว่า เดี๋ยวจะส่งสามีให้ไปเยี่ยม ซึ่งเราไม่ได้โทรและกัปตันก็ไปเยี่ยมเขาพร้อมน้องหนอน และน้องหนอนเองก็จำได้แม่นและได้พูดในรายการจับเข่าคุยไปแล้วว่า กัปตันไม่ได้เข้าไปตบจนล้มแล้วแท้ง อันนี้โกหกบาปกรรมพูดอะไรอย่างนั้น”
“ทุกครั้งที่เขาพูดหรือให้สัมภาษณ์ทุกเล่มจะพูดเหมือนกันว่า โดนกัปตันตบสลบ เขาเขียนว่าคุณอรโดนเอาขวดน้ำปลาฟาดหัว ไปถามคุณอรสิว่าเคยโดนหรือเปล่า คือถ้าเขาเป็นอย่างนั้นจริงคุณอรจะยังเป็นเพื่อนกับเขาจนถึงทุกวันนี้เหรอ เขาก็เขียนไปได้ เราเองก็ไม่เคยโดนอะไร คุณอรก็ไม่เคยโดน แล้วทำไมตรงกลางโดนตบสลบตลอดเวลา”
“ปัญหาเรื่องเงินก็เหมือนกัน เขามีปัญหาเรื่องเงินเยอะ ล่าสุด ก็เรื่องรถเบนซ์ กัปตันเขาเอาซองรับรองเงินเดือนให้กับแอร์กี่เอาไปขอวีซ่าให้ลูกไปเที่ยวตอนปิดเทอม แต่แอร์กี่เอาใบนี้ไปปลอมลายเซ็นซื้อเบนซ์ ผ่อนไปได้ไม่กี่งวด ก็ไม่ผ่อนแล้ว ทางเบนซ์ก็เลยตามมาที่กัปตันบอกว่าเป็นผู้ค้ำประกัน ทางกัปตันก็งง เพราะไม่เคยไปค้ำประกัน พอกัปตันถามไปทางแอร์กี่เขาก็บอก เอาไว้ให้ลูกใช้แล้วกัน ตอนนี้ก็ผ่อนไปเยอะแล้วเหมือนกัน แต่ว่าจะหยุดจ่ายแล้ว และให้ทางเบนซ์ไปดำเนินคดีเอาเอง”
“เขาจะมีปัญหาเรื่องเงินตลอดไปขับรถชนคนตายขอ 2 แสนไปปิดคดี เดี๋ยวลูกไม่มีคนเลี้ยง จะเอาลูกมาอ้างตลอด ที่ผ่านมากัปตันดูแลเขาอย่างดีมาโดยตลอด ส่งเสียทุกอย่างก็เอาไปเขียนว่าไม่เคยส่งเสีย แม้กระทั่งคอนโดที่เขาอยู่ก็เขียนบอกว่า ผ่อนเองซื้อเอง ถ้าคอนโดเป็นของเขาก็เอาโฉนดมาดูหน่อย แต่สำหรับเรามีโฉนดและก็มีใบเสร็จการผ่อนอยู่ทุกเดือน”
“สำหรับคอนโดตอนนี้ทางกัปตันกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะยังไง คือ ลูกเขาได้อยู่แน่นอน แต่กับคนที่อาศัยแล้วทำความเสียหายโดยการแพร่ภาพคงต้องพิจารณากันอีกที กัปตันอาจจะไม่ได้เชิญเองอาจจะให้ทางทนายจัดการ ตรงนี้เราก็เข้าใจไม่อยากจะไปเจาะลึกให้เขาตัดสินใจเอง เรามีลูกเราเข้าใจ”
ออกมาฟาดฟันกันขนาดนี้ งานนี้ก็เลยไม่แคล้วจบลงที่การฟ้องร้อง แม้แต่ “เอ็กแซ็กท์” ค่ายละครดังก็อาจจะโดนฟ้องหมิ่นประมาท
“ถ้าใครที่ลงหรือทำหมิ่นประมาทไป ถ้าอยากจะจบตรงนี้ก็ทำให้มันถูกต้อง เราไม่ได้อยากเอาเรื่องเอาราวได้เงินได้ทอง ถ้าใครรู้ตัวว่าผิดก็อภัยให้ได้ แต่ที่ผ่านมาทางเอ็กแซ็กท์เขาขอโทษสหภาพที่ทำให้ภาพพจน์การบินเสีย แต่กับเรายังไม่เห็นว่าเขาจะทำอะไร”
“ที่ข่าวมันโด่งดังมากเพราะออกอากาศทางโทรทัศน์ ก็อยากจะให้เขาออกมารับผิดชอบตรงนี้ นี่ก็ได้ยินว่าเขาจะเอาเรื่องไปขายให้ต่างประเทศอีก ก็อยากจะให้เขาหยุดตรงนี้”
“ส่วนแอร์กี่ต้องฟ้องอยู่แล้ว เพราะเขาทำให้เสียหาย และไม่มีการสำนึกอะไรทั้งสิ้น แล้วจะให้เราทำยังไง ถ้าเขาไม่หยุดครอบครัวเราก็ต้องเสื่อมเสียไปอย่างนี้ เป็นใครจะให้อภัยไหม ถ้าเขาจะเข้ามาขอโทษก็ไม่รู้จะมาขอโทษจริงใจหรือเปล่า ปากพูดออกทีวีว่าอยากให้มานั่งคุยกันแต่กลับโทร.มาที่บ้าน ถ้าเขาจะมานั่งขอโทษแบบนี้ไม่ได้ เขาต้องขอโทษในสิ่งที่ตัวเองได้ประจานออกไป ทั้งทางทีวี หนังสือพิมพ์ก็ตาม”