ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สาวคลินิกโผล่ให้การตำรวจไม่ใช่คนฆ่าหมอฟัน วอนขอความเป็นธรรมผ่านสื่อ ระบุตำรวจควรหาปมฆ่าใหม่
จากคดีคนร้ายปลอมตัวเป็นคนไข้บุกเข้าไปยิง ทันตแพทย์หญิงพิชญา อัศวสุนทรเนตร อายุ 26 ปี ภายในคลินิกแพทย์ปุรนันท์ (หมอต้น) ซึ่งตั้งอยู่ในย่านชุมชนด่านนอกบ้านไทย-จังโหลน ติดพรมแดนไทย-มาเลเซีย พื้นที่ หมู่ 7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เสียชีวิตอย่างอุกอาจเมื่อคืนวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง ทันตแพทย์หญิงพิชญา กำลังตั้งท้องอ่อนๆ 3 เดือน ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนเจ้าหน้าที่พบประเด็นที่เป็นต้นตอของการสังหารมาจากเรื่องชู้สาวที่เชื่อมโยงกับ นายแพทย์ปุวนันท์ โลหะนวกุล สามีของผู้ตายและเป็นเจ้าของคลินิก และกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อสาวถึงผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลัง
ความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา น.ส.พนัฐนันท์ นุ้ยดี อายุ 24 ปี อดีตพนักงานของคลินิกแพทย์ปุรนันท์ ที่ปรากฏเป็นข่าวออกมาว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับ พ.ต.อ.วีรสิทธิ์ เพ็ชรคล้าย รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา รวมทั้งพนักงานสอบสวนและทีมสืบสวนสอบสวนคดีนี้แล้ว เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ ทันตแพทย์หญิงพิชญา หลังจากที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้พร้อมกับญาติอีกสองคนคือ นายยุทธนา ปานมี อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นหลาน และนายณัฐพงษ์ สโมสร อายุ 21 ลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งถูกระบุว่าเป็นมือปืนและคนดูต้นทาง
โดย น.ส.พณัฐนันท์ ได้ให้ความร่วมมือกับชุดสืบสวนสอบสวนเป็นอย่างดี โดยให้การว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้น แต่ยอมรับว่าเคยทำงานที่คลินิกแพทย์ปุรนันท์ จริงแต่แค่ระยะเวลาสั้นๆ เพียง 3-4 เดือน จากนั้นจึงออกไปหางานทำที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยเป็นการลาออกเองไม่ใช่ถูกไล่ออกตามที่ปรากฏเป็นข่าว และระหว่างที่ทำงานอยู่ที่คลินิกแพทย์ปุรนันท์ ไม่เคยมีปัญหาในเชิงชู้สาวกับ นพ.ปุรนันท์ และทันตแพทย์หญิงพิชญา หรือปัญหาส่วนตัวอื่นๆ เหมือนที่ถูกตั้งข้อสังเกตุ
นอกจากนี้ น.ส.พนัฐนันท์ ยังให้การกับทีมสืบสวนสอบสวนว่า ญาติอีก 2 คน คือ นายยุทธนา ซึ่งเป็นหลาน และ นายณัฐพงษ์ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้อง ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้เช่นเดียวกัน โดยในคืนเกิดเหตุ นายณัฐพงษ์ นอนอยู่ที่บ้านญาติใน ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ส่วนนายยุทธนา ซึ่งทำงานโรงงานอยู่ใน อ.สิงหนคร ได้ออกเวรตอน 4 ทุ่ม ในขณะที่ตนทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งพวกตนทั้งสามมีพยานยืนยันชัดเจน อย่างไรก็ตาม น.ส.พนัฐนันท์ ให้การว่าไม่ทราบว่าสาเหตุของการสังหาร ทันตแพทย์หญิงพิชญา มาจากเรื่องใด
ต่อมาเวลา 11.00 น.วันนี้ (24 มี.ค.) น.ส.พณัฐนันท์ ได้โทรศัพท์ติดต่อกับผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับตัวเองและญาติทั้งสองคน หลังจากที่ปรากฏเป็นข่าวผ่านสื่อ ว่า ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ โดย น.ส.พณัฐนันท์ เปิดเผยว่า ตนและญาติทั้งสองคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ ทันตแพทย์หญิงพิชญา หลังจากที่มีชื่อปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนถึงกับตกใจ เพราะขณะนั้นทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ จึงได้ติดต่อกับตำรวจเพื่อขอเข้าให้ปากคำเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ก่อนที่จะเดินทางกลับจากกรุงเทพฯเข้าให้ปากคำเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา
ซึ่งตนขอยืนยันว่า ระหว่างที่ทำงานอยู่ที่คลินิกแพทย์ปุรนันท์ ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางเป็นการส่วนตัวกับ ทันตแพทย์หญิงพิชญา หรือเรื่องชู้สาวกับ นพ.ปุรนันท์ โดยในคืนเกิดเหตุได้ทราบข่าวจากโทรทัศน์ ว่า ทันตแพทย์หญิงพิชญา ถูกยิงตายตนถึงกับร้องไห้ เพราะขณะที่ทำงานอยู่ด้วยกันมีความสนิทสนมกันพอสมควร โดยทันตแพทย์หญิงพิชญา จะเรียกตนว่า พี่ แม้ว่าบางครั้งตนจะถูกตำหนิบ้างแต่ก็เป็นเรื่องงานเท่านั้น
น.ส.พนัฐนันท์ กล่าวว่า หลังจากที่ตนและญาติอีกสองคนปรากฏเป็นข่าวทางครอบครัวรู้สึกไม่สบายใจ เพราะเกรงว่าจะได้รับผลกระทบที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ซึ่งสังคมทั่วไปไม่ได้รับรู้ข้อเท็จจริง โดยเฉพาะ นายยุทธนา ซึ่งถูกระบุว่า เป็นมือปืน ส่วน นายณัฐพงษ์ ที่ระบุเป็นคนดูต้นทาง ได้รับผลกระทบทางจิตใจที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีความทั้งที่ไม่เคยเกี่ยวข้องใดๆ ตนและญาติเป็นเพียงคนหาเช้ากินค่ำที่ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพต้องอาศัยบ้านเช่าไม่มีปัญญาที่จะไปจ้างมือปืนมาฆ่าใคร จึงต้องการเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับตัวเอง แต่หากเจ้าหน้าที่ต้องการข้อมูลอะไรตนและญาติทั้งสองคนก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ น.ส.พณัฐนันท์ เข้าให้ปากคำกับตำรวจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน โดยทาง พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ ได้สั่งการให้ทีมสืบสวนสอบสวน ซึ่งมี พ.ต.อ.วีรสิทธิ์ เพ็ชรคล้าย รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา หาเบาะแสในประเด็นแวดล้อมอื่นๆ ต่อไปทั้งที่เกี่ยวกับ ทันตแพทย์หญิงพิชญา และนพ.ปุรนันท์ สามี ซึ่งต้องรอสอบ นพ.ปุรนันท์ และญาติอีกครั้งหนึ่งซึ่งเป็นผู้ที่น่าจะรู้เบื้องหน้าเบื้องหลังของเรื่องนี้ดี
จากคดีคนร้ายปลอมตัวเป็นคนไข้บุกเข้าไปยิง ทันตแพทย์หญิงพิชญา อัศวสุนทรเนตร อายุ 26 ปี ภายในคลินิกแพทย์ปุรนันท์ (หมอต้น) ซึ่งตั้งอยู่ในย่านชุมชนด่านนอกบ้านไทย-จังโหลน ติดพรมแดนไทย-มาเลเซีย พื้นที่ หมู่ 7 ต.สำนักขาม อ.สะเดา จ.สงขลา เสียชีวิตอย่างอุกอาจเมื่อคืนวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง ทันตแพทย์หญิงพิชญา กำลังตั้งท้องอ่อนๆ 3 เดือน ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนเจ้าหน้าที่พบประเด็นที่เป็นต้นตอของการสังหารมาจากเรื่องชู้สาวที่เชื่อมโยงกับ นายแพทย์ปุวนันท์ โลหะนวกุล สามีของผู้ตายและเป็นเจ้าของคลินิก และกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อสาวถึงผู้ที่บงการอยู่เบื้องหลัง
ความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา น.ส.พนัฐนันท์ นุ้ยดี อายุ 24 ปี อดีตพนักงานของคลินิกแพทย์ปุรนันท์ ที่ปรากฏเป็นข่าวออกมาว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ได้เดินทางเข้าให้ปากคำกับ พ.ต.อ.วีรสิทธิ์ เพ็ชรคล้าย รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา รวมทั้งพนักงานสอบสวนและทีมสืบสวนสอบสวนคดีนี้แล้ว เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ ทันตแพทย์หญิงพิชญา หลังจากที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้พร้อมกับญาติอีกสองคนคือ นายยุทธนา ปานมี อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นหลาน และนายณัฐพงษ์ สโมสร อายุ 21 ลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งถูกระบุว่าเป็นมือปืนและคนดูต้นทาง
โดย น.ส.พณัฐนันท์ ได้ให้ความร่วมมือกับชุดสืบสวนสอบสวนเป็นอย่างดี โดยให้การว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้น แต่ยอมรับว่าเคยทำงานที่คลินิกแพทย์ปุรนันท์ จริงแต่แค่ระยะเวลาสั้นๆ เพียง 3-4 เดือน จากนั้นจึงออกไปหางานทำที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยเป็นการลาออกเองไม่ใช่ถูกไล่ออกตามที่ปรากฏเป็นข่าว และระหว่างที่ทำงานอยู่ที่คลินิกแพทย์ปุรนันท์ ไม่เคยมีปัญหาในเชิงชู้สาวกับ นพ.ปุรนันท์ และทันตแพทย์หญิงพิชญา หรือปัญหาส่วนตัวอื่นๆ เหมือนที่ถูกตั้งข้อสังเกตุ
นอกจากนี้ น.ส.พนัฐนันท์ ยังให้การกับทีมสืบสวนสอบสวนว่า ญาติอีก 2 คน คือ นายยุทธนา ซึ่งเป็นหลาน และ นายณัฐพงษ์ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้อง ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้เช่นเดียวกัน โดยในคืนเกิดเหตุ นายณัฐพงษ์ นอนอยู่ที่บ้านญาติใน ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ส่วนนายยุทธนา ซึ่งทำงานโรงงานอยู่ใน อ.สิงหนคร ได้ออกเวรตอน 4 ทุ่ม ในขณะที่ตนทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ซึ่งพวกตนทั้งสามมีพยานยืนยันชัดเจน อย่างไรก็ตาม น.ส.พนัฐนันท์ ให้การว่าไม่ทราบว่าสาเหตุของการสังหาร ทันตแพทย์หญิงพิชญา มาจากเรื่องใด
ต่อมาเวลา 11.00 น.วันนี้ (24 มี.ค.) น.ส.พณัฐนันท์ ได้โทรศัพท์ติดต่อกับผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับตัวเองและญาติทั้งสองคน หลังจากที่ปรากฏเป็นข่าวผ่านสื่อ ว่า ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ โดย น.ส.พณัฐนันท์ เปิดเผยว่า ตนและญาติทั้งสองคนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ ทันตแพทย์หญิงพิชญา หลังจากที่มีชื่อปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนถึงกับตกใจ เพราะขณะนั้นทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ จึงได้ติดต่อกับตำรวจเพื่อขอเข้าให้ปากคำเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ก่อนที่จะเดินทางกลับจากกรุงเทพฯเข้าให้ปากคำเมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา
ซึ่งตนขอยืนยันว่า ระหว่างที่ทำงานอยู่ที่คลินิกแพทย์ปุรนันท์ ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางเป็นการส่วนตัวกับ ทันตแพทย์หญิงพิชญา หรือเรื่องชู้สาวกับ นพ.ปุรนันท์ โดยในคืนเกิดเหตุได้ทราบข่าวจากโทรทัศน์ ว่า ทันตแพทย์หญิงพิชญา ถูกยิงตายตนถึงกับร้องไห้ เพราะขณะที่ทำงานอยู่ด้วยกันมีความสนิทสนมกันพอสมควร โดยทันตแพทย์หญิงพิชญา จะเรียกตนว่า พี่ แม้ว่าบางครั้งตนจะถูกตำหนิบ้างแต่ก็เป็นเรื่องงานเท่านั้น
น.ส.พนัฐนันท์ กล่าวว่า หลังจากที่ตนและญาติอีกสองคนปรากฏเป็นข่าวทางครอบครัวรู้สึกไม่สบายใจ เพราะเกรงว่าจะได้รับผลกระทบที่ถูกตั้งข้อสงสัยว่าเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ ซึ่งสังคมทั่วไปไม่ได้รับรู้ข้อเท็จจริง โดยเฉพาะ นายยุทธนา ซึ่งถูกระบุว่า เป็นมือปืน ส่วน นายณัฐพงษ์ ที่ระบุเป็นคนดูต้นทาง ได้รับผลกระทบทางจิตใจที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีความทั้งที่ไม่เคยเกี่ยวข้องใดๆ ตนและญาติเป็นเพียงคนหาเช้ากินค่ำที่ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงชีพต้องอาศัยบ้านเช่าไม่มีปัญญาที่จะไปจ้างมือปืนมาฆ่าใคร จึงต้องการเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับตัวเอง แต่หากเจ้าหน้าที่ต้องการข้อมูลอะไรตนและญาติทั้งสองคนก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ น.ส.พณัฐนันท์ เข้าให้ปากคำกับตำรวจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน โดยทาง พล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร์ ได้สั่งการให้ทีมสืบสวนสอบสวน ซึ่งมี พ.ต.อ.วีรสิทธิ์ เพ็ชรคล้าย รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา หาเบาะแสในประเด็นแวดล้อมอื่นๆ ต่อไปทั้งที่เกี่ยวกับ ทันตแพทย์หญิงพิชญา และนพ.ปุรนันท์ สามี ซึ่งต้องรอสอบ นพ.ปุรนันท์ และญาติอีกครั้งหนึ่งซึ่งเป็นผู้ที่น่าจะรู้เบื้องหน้าเบื้องหลังของเรื่องนี้ดี
