xs
xsm
sm
md
lg

“หุ่นเชิด” เลิกป้อง 3 รมต.หวย จี้สำนึกรีบเคลียร์ตัวเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชูศักดิ์ ศิรินิล
“ชูศักดิ์” ชี้ 3 รมต.หวยบนดิน “เลี้ยบ- ป้าอุ-อนุรักษ์” ต้องตัดสินใจเคลียร์ตัวเองเพื่อความชัดเจนจะอยู่หรือไป “สมชาย” เชื่อฝีมือ “หมัก” ชั่วโมงบินการเมืองสูง ปรับ ครม.เองได้ไม่โดนชักใย

วันนี้ (2 ก.ค.) นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคุณสมบัติของ 3 รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับคดีหวยบนดิน ที่ล่าสุด คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เห็นแย้งว่า น่าจะพ้นจากตำแหน่ง ว่า ความจริงไม่ใช่เฉพาะตอนนี้ เรื่องนี้โต้แย้งกันมาตั้งแต่คณะกรรมาตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) มีมติโดยโต้แย้งว่า จริงๆ แล้วที่เขาถูกฟ้อง และดำรงตำแหน่งหน้าที่อยู่ในปัจจุบันมันไม่เกี่ยวกับกรณีที่ถูกฟ้อง ก็มีปัญหาว่าจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ซึ่งเป็นปัญหาข้อกฎหมาย แต่ท้ายที่สุดทั้ง 3 ท่าน ประกอบด้วย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี, นางอุไรวรรณ เทียนทอง และ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ ก็ไม่ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่เรื่องแบบนี้จะส่งให้ตีความได้หรือไม่ ก็ต้องเป็นดุลยพินิจของรัฐมนตรีทั้ง 3 ท่าน ต้องไปคิด

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีปัญหาเรื่องการเซ็นต์เอกสารการทำงานหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า อันนี้เป็นหลักทั่วไป ไม่มีผลย้อนถึงในอดีตที่ทำไปแต่ทั้ง 3 รมต.อ้างว่า กรณีที่ถูกฟ้องไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ที่มีอยู่ในขณะนี้ และในขณะนั้นเป็นมติ ครม.ท่านก็ไม่ดูแล ปัจจุบันแม้จะกำกับดูแลกระทรวงการคลังก็เข้าทางอย่างที่ตนว่า ในอดีตกับปัจจุบันซึ่งสุดแต่ศาลจะพิจารณาว่าจะเป็นอย่างไร จะให้ตีความ หรือจะอย่างไรก็ลองดู

ด้าน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ตอนนี้มีความเห็นแตกกัน 2 ฝ่าย คือ ส่วนหนึ่งเห็นว่า 3 รมต.ต้องพักตามกฎหมาย อีกส่วนหนึ่งเป็นนักกฎหมายหลายท่านพูดทำนองว่า เมื่อ รมต.ถูกตรวจสอบและถูกชี้มูลโดยป.ป.ช.จะต้องพักงานระหว่างที่มีการดำเนินคดี และมีความเห็นอีกว่าควรจะเป็น รมต.ในขณะนั้น ขณะนี้ไม่รู้ว่าใครผิดใครถูก เราคิดว่าเมื่อเรื่องนี้คดีเข้าสู่ศาล ถ้าไม่ชัดเจนอาจจะต้องให้มีการตีความโดยกฤษฎีกา หรือพนักงานอัยการ หรือใคร ตนไม่รู้จะเป็นใครที่ดีที่สุด แต่ต้องทำให้ชัดเจน ตอนนี้ตนไม่สามารถฟันธงลงไปได้ว่าพัก หรือไม่ เพราะฟังแล้วมีเหตุผลทั้ง 2 ฝ่าย

เมื่อถามว่า เรื่องเกิดตั้งนานรัฐบาลไม่เตรียมรับสถานการณ์ นายสมชาย กล่าวว่า เตรียมรับ ตอนนั้นยังไม่ถึงจุดเด็ดขาดของบางอย่าง ถ้าเราไปตั้งไว้ก่อนล่วงหน้าเหมือนกับว่าชี้แล้วผิด ไม่ดี ตนคิดว่าควรรอบคอบ แต่มั่นใจว่าทุกอย่างต้องทำให้ประชาชนได้รับทราบชัดเจนและเป็นที่พึงพอใจของสาธารณชน เราเป็นรัฐบาลที่ต้องทำตัวให้เห็นว่าไม่ได้ฝ่าฝืนอะไร

เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรคพลังประชาชน ที่รัฐมนตรีมีปัญหา รวมทั้งตัวนายกฯเอง นายสมชาย กล่าวว่า ที่ถูกยื่นไปแล้วหากศาลตัดสินอย่างไรทุกท่านก็ต้องปฏิบัติตาม ถือเป็นเรื่องธรรมดา ปัญหาเกิดขึ้นก็ต้องจัดการ ถ้าศาลชี้ว่าหมดสภาพก็หมดไป ต้องมีการปรับ ครม.ใหม่ ถือเป็นเรื่องปกติที่ต้องปรับ ส่วนความเชื่อมั่นในตัวรัฐบาล คิดว่าอยู่ที่นโยบาย และเรายังได้รับการสนับสนุนจากประชาชนส่วนใหญ่ และคนที่มาใหม่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงนโยบาย

“สมมติว่า ถ้ามีการปรับ ครม.นายกฯคงต้องเสาะหาบุคลากรที่มีความสามารถและได้รับความเชื่อมั่น ผมมั่นใจอย่างนั้น คิดว่าไม่น่าจะกระทบกระเทือนอะไรถึงเสถียรภาพรัฐบาล เพราะรัฐบาลมีหลายพรรค” นายสมชาย กล่าวและว่า ส่วนที่ฝ่ายค้าน มองว่า การปรับไม่ได้อยู่ที่นายกฯแต่อยู่ที่คนที่อยู่ข้างหลังนายกฯนั้น ก็ว่ากันไป แต่ข้อเท็จจริงต้องยอมรับว่าอยู่ที่นายกฯ และท่านทั้งหลายก็เห็นว่าต้องอยู่ที่นายกฯใครจะรับผิดชอบได้ ตนมั่นใจว่า นายกฯมีประสบการณ์ทางการเมืองสูง และเชื่อว่า พวกเราทุกคนรู้จักนายกฯเป็นอย่างดี เพราะอยู่ทำเนียบกันมานาน นายกฯเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์อาวุโสทางการเมืองสูงมากไม่มีทางที่ใครจะอยู่เบื้องหลัง หรือชี้นำท่านได้ ตนว่ายาก

เมื่อถามว่า ตั้ง ครม.ครั้งแรกนายกฯยังบ่นว่า ขี้เหร่ นายสมชาย กล่าวว่า ขี้เหร่ก็ไม่ได้บ่นว่าใครเป็นคนเอาให้ท่าน ท่านบ่นของท่านเอง เป็นการพูดปกติบางครั้งการเมืองต้องมีการทรงตัว ซึ่งคำพูดตอนนั้นนายกฯก็พูดเป็นคนตั้งเอง

“ผมจำได้นายกฯเริ่มเข้าการเมืองบอก อายุ 32 ผมยังไปฟังท่านปราศรัยที่สนามหลวง ตอนนั้นผมยังเป็นนักศึกษาปี 2-3 30 กว่าปีลองคิดดูแล้วกันท่านมีประสบการณ์สูง ผมมั่นใจว่าท่านนำพา เป็นผู้นำประเทศได้ดีไม่มีทางที่ใครจะอยู่เบื้องหลังได้” นายสมชาย กล่าว

เมื่อถามว่า นายกฯ บอกจะอยู่ให้ครบ 4 ปี แต่ถ้า ครม.ยังมีรอยด่างไม่ได้คนที่ดีเข้ามาจะอยู่ได้อย่างไร นายสมชาย กล่าวว่า คงต้องดูกันต่อไป ตนไม่สามารถบอกได้ตอนนี้ว่าจะอยู่อย่างไร แต่มั่นใจอย่างหนึ่งว่า เราทำงานที่นายกฯบอกว่าอยู่ 4 ปี นั่นคือ กติกาตามกฎหมาย ถ้าไม่มีการยุบสภา ไม่มีนายกฯลาออกก็ต้องอยู่ 4 ปี รัฐธรรมนูญว่าอย่างนั้น และต้องไม่มีปัญหาความแตกแยกของพรรคร่วมรัฐบาล ตนคิดว่าเรื่องการเมือง มันถามได้ทุกวัน ตอบได้ทุกวันก็ปรับกันไป แต่ตนมั่นใจอย่างหนึ่งว่า นโยบายของพรรคร่วมรัฐบาลตอนนี้มั่นคงชัดเจน ผลงานที่ทำมาโอเค เรายอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ แต่ไม่ใช่ว่าไม่ทำอะไรเลยหรือไร้ผลงานทุกอย่าง รัฐบาลจะไปจะอยู่ไม่สำคัญแต่นโยบายที่ทำให้ตกได้ประชาชนให้มองประชาชนเป็นหลักศูนย์กลาง รัฐบาลถือเป็นเรื่องปกติ ดีชั่วประการใดขอให้มุ่งมั่นทำงาน ให้ประชาชน

เมื่อถามว่า รัฐบาลจะทำอย่างไรให้เกิดความสมานฉันท์ในบ้านเมือง นายสมชาย กล่าวว่า ช่วยๆ กันตนก็พยายามอยากให้เกิดความสมานฉันท์ ซึ่งสมานฉันท์เกิดได้ต้องเคาระกฎเกณฑ์ กติกา กฎหมายและต้องมีไมตรีจิตร ซึ่งกันและกัน สิ่งดีว่าดี สิ่งไม่ดีว่าไม่ดี ไม่มีอคติ ซึ่งกันและกัน ไม่มองกันในแง่ร้าย ถ้าใครไม่ดีก็ว่าไปดีก็ว่าไปและให้มีเมตตาธรรมซึ่งกันและกัน ส่วนใหญ่ก็เป็นพุทธศาสนาอยากให้เอาสิ่งนั้นมาช่วยประคับประคอง เพราะการแก้ปัญหาไม่ได้แก้ที่รัฐบาลหรือคนใดคนหนึ่ง ปัญหาบ้านเมืองต้องแก้ด้วยคนไทยทุกคนจึงจะสำเร็จ ถ้าเขย่งกันอยู่ก็ยาก แต่รัฐบาลไม่พ้นความรับผิดชอบในการแก้ปัญหาทุกอย่าง บ้านเมืองนี้

เมื่อถามว่า รัฐบาลจะยึดหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัดหรือไม่ และทำอะไรไม่สวนกระแสสังคมอย่างที่ผ่านมา เช่นเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ ที่ถูกวิจารณ์ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่สวน วิจารณ์ได้แต่ต้องด้วยหลักการและเหตุผล เราก็รับฟังอยู่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น