ที่ประชุม ครม.โยนเผือกร้อนเขาพระวิหารให้ “กฤษฎีกา” หาช่อง กม.ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลาง สั่งบัวแก้วทำหนังสือแจ้ง “เขมร-ยูเนสโก-กก.มรดกโลก” ขอระงับข้อตกลงชั่วคราว คาดสัปดาห์หน้าได้ข้อสรุป
วันนี้ (1 ก.ค.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ศึกษาธิการ รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงผลการประชุม ครม.ว่า กระทรวงการต่างประเทศรายงานต่อที่ประชุมให้รับทราบว่า ได้มีคำสั่งศาลปกครองกลางห้ามมิให้ใช้มติ ครม.17มิ.ย.2551ไปดำเนินการใดๆ จนกว่าจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด และระหว่างการพิจารณาคดียังไม่สิ้นสุดนั้น จึงมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวไม่ให้นำมติ ครม.ดังกล่าวที่กระทรวงการต่างประเทศไปดำเนินการแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาในการจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ฉะนั้น ครม.ก็รับทราบคำสั่งศาลปกครองกลางและมีมติให้ปฏิบัติตามคำสั่งศาล
นายสมชาย กล่าวว่า ส่วนจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างไรนั้น ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาและดำเนินการเพื่อให้คำแนะนำในการปฏิบัติที่ถูกต้อง นอกจากนี้ยังให้กระทรวงการต่างประเทศส่งหนังสือชี้แจงไปยังกัมพูชา ยูเนสโก และตัวแทนคณะกรรมการมรดกโลก 21 ประเทศให้ทราบถึงคำสั่งดังกล่าว หมายความว่า ให้ระงับข้อตกลงตามแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำสั่งถึงที่สุด
เมื่อถามว่า กฤษฎีกาให้ความเห็นอย่างไรบ้าง นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ได้ให้ความเห็นใดๆ เพราะ ครม.ส่งเรื่องให้กฤษฎีกาไปพิจารณาก่อน หากจะแถลงข่าววันนี้ก็คงจะเร็วไปและกฤษฎีกาก็ขอเวลาเพื่อไปพิจารณาเอกสารต่างๆ ที่มีจำนวนมาก และไม่จำเป็นต้องเร่งรัดในวันนี้ เพราะเรื่องเร่งด่วนได้แจ้งไปแล้วในวันนี้ เมื่อถามว่า แสดงว่ารัฐบาลไม่มีแนวคิดในการยื่นอุทธรณ์ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ใช่ รอฟังกฤษฎีกาก่อนว่าจะเอาอย่างไร เพราะเป็นเรื่องกฎหมาย ซึ่ง ครม.มิใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องกฎหมาย เมื่อถามว่า แสดงว่ายังพยายามจะอุทธรณ์ นายสมชาย กล่าวว่า ยังไม่มีความเห็นใดๆ ทั้งนั้น รอให้ฟังความเห็นจากกฤษฎีกาก่อน
เมื่อถามว่าจะให้เวลากฤษฎีกานานเท่าใด นายสมชาย กล่าวว่า คิดว่าการประชุม ครม.ครั้งหน้าน่าจะมีผลออกมา แต่ตนไม่ยืนยันว่าจะใช้เวลากี่วัน ต้องให้เวลากฤษฎีกาพิจารณาในฐานะผู้เชี่ยวชาญ และไม่ได้ตั้งประเด็นใดๆ ให้กฤษฎีกาไปพิจารณา เพียงแต่บอกว่าการที่มีคำสั่งศาลออกมาเช่นนี้ก็ควรนำไปพิจารณาว่าจะให้คำแนะนำกับรัฐบาลในการดำเนินการขั้นต่อไปอย่างไรบ้าง
เมื่อถามว่า ถ้อยคำในมติ ครม.17 มิ.ย.2551 มีอะไรบ้าง เพราะไม่เคยชี้แจง นายสมชาย กล่าวว่า ขอให้โฆษกประจำสำนักนายกฯ นำมาให้ดู เพราะตนคงจำไม่ได้หมด แต่มติ ครม.นั้นเปิดเผยอยู่แล้ว เมื่อถามว่าวันนี้นำมติ ครม.ครั้งดังกล่าวมาหารืออีกหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ครม.ทุกคนคงทราบว่ามติ ครม.ครั้งนั้นเป็นเช่นใด กระทรวงต่างประเทศได้เสนอเรื่องนี้ตามคำสั่งศาลที่ออกมาให้ทราบว่าไม่ให้ใช้มติ ครม.ดังกล่าว แต่คร่าวๆ นั้นคือว่ากระทรวงต่างประเทศนำเรื่องแถลงการณ์ร่วมฯ เข้ามาเพื่อขออนุมัติจาก ครม.มันก็ประมาณนี้แหละ เมื่อถามว่าจะส่งตัวแทนไปประชุมในวันที่ 2 ก.ค. เมืองควิเบก แคนาดา หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ได้ส่งใครไป แต่เข้าใจว่าเอกอัคราชทูตไทยประจำแคนาดาจะเข้าร่วมประชุมอยู่แล้ว และคงถือว่าเป็นตัวแทนของไทย แต่กระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้น ต้องสอบถามนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ
เมื่อถามว่า กระทรวงการต่างประเทศไปเจรจากับกัมพูชาหรือไม่ และมีท่าทีเช่นใด นายสมชาย กล่าวว่า เดี๋ยวจะเสียหาย แต่เรื่องนี้ รมว.ต่างประเทศไม่ได้พูดอะไร วันนี้ ครม.มีมติแล้วว่าให้แจ้งไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้รับทราบแล้ว
เมื่อถามต่อทันทีว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ชี้แจงกับกัมพูชาไปแล้วตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.ได้มีการรายงานเรื่องนี้กับ ครม.หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ได้รายงาน เมื่อถามว่า ท่าทีของไทยที่จะขึ้นทะเบียนร่วมกับกัมพูชา นายสมชาย กล่าวว่า วันนี้พิจารณาเพียงคำสั่งศาลปกครองกลาง เมื่อถามว่า ประเมินผลที่จะตามมาหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่มีการประเมิน เพราะวันนี้เอาเฉพาะปัญหาเฉพาะหน้าที่เราต้องปฏิบัติตามคำสั่งศาล เมื่อถามว่า กัมพูชายืนยันท่าทีเดิมในการนำแถลงการณ์ร่วมฯไปมอบให้ยูเนสโกพิจารณา นายสมชาย กล่าวว่า รอฟังก่อนว่าจะเอาอย่างไร
เมื่อถามว่า ทำไมนายนพดลไม่แถลงข่าวนี้เอง นายสมชาย กล่าวว่า นายนพดลจะต้องนำ รมว.ต่างประเทศ มาเลเซีย เข้าเฝ้าฯ เมื่อถามว่า เรื่องนี้มีความสำคัญ เพราะมันคืออธิปไตยของชาติ รัฐบาลชุดนี้ภายใต้การนำของพรรคพลังประชาชนจะไม่มีท่าทีใดๆ ในเรื่องนี้เลย นายสมชายกล่าวว่า วันนี้พิจารณาเท่านี้ก่อน เรื่องท่าทีนั้นจะต้องพิจารณาแต่ขอให้ใจเย็นๆ มันไม่ได้เสียหายในขณะนี้และมันต้องเร่งด่วนที่จะต้องทำให้เสร็จภายในวันนี้วันเดียว
เมื่อถามว่า มีการพูดคุยเรื่องปรับ ครม.หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ต้องไปถามนายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ