ครม.แขมร์ห่วงความสัมพันธ์มากกว่าเสียอธิปไตยเขาพระวิหาร

ที่ประชุม ครม.ยังแคลงใจสั่งเลขาธิการนำสั่งศาลปกครองสั่งคุ้มครองชั่วคราวปราสาทพระวิหารมาศึกษา ยังตะแบงอ้างเกรงกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมากกว่าเสียอธิปไตย

วันนี้ (1 ก.ค.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งเป็นประธานการประชุม ครม. แทนนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 30 มิ.ย. - 3 ก.ค. กล่าวก่อนการประชุม ครม. ถึงกรณีที่ศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามดำเนินการใดๆ ตามแถลงการณ์ร่วมรัฐบาลไทย และรัฐบาลกัมพูชา กรณีสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนประสาทเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2551 ว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องหารือกับหลายๆ ฝ่าย รวมทั้งคณะกรรมการกฤษฎีกาที่สามารถให้ความเห็นในข้อกฎหมายได้

ส่วนกรณีที่ นายปองพล อดิเรกสาร ประธานคณะกรรมการแห่งชาติ ว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก เสนอให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งกัมพูชาว่าไทยขอทบทวนเรื่องแถลงการณ์ร่วมฯ นั้น นายสมชาย กล่าวว่า วันนี้จะให้เลขาธิการ ครม.นำคำสั่งศาลปกครองมาให้ดูในที่ประชุม ครม. เพื่อจะได้พิจารณาร่วมกัน เราพยายามที่จะดำเนินการให้รวดเร็ว ถูกต้อง โปร่งใส ไม่ให้มีข้อสงสัย เรื่องนี้ก็จะทำแบบกระมิดกระเมี้ยนไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องใหญ่และละเอียดอ่อน แต่ก็ไม่ควรพูดมากไป เพราะเป็นเรื่องระหว่างประเทศที่ต้องระวัง

“กระทรวงการต่างประเทศ และ ครม.จะมาคุยกันว่าจะดำเนินการกันอย่างไร ปกติคงต้องแจ้งไปว่าเรามีคำสั่งศาลออกมาอย่างไร คิดว่าคงไม่มีปัญหา เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่เราก็จะพยายามดำเนินการไปตามคำสั่ง และข้อปฏิบัติให้ถูกต้อง การประชุม ครม.วันนี้ หากนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ถ้าไม่ได้เดินทางไปไหนก็คงมาร่วมประชุมด้วย แต่ท่านไม่อยู่ ครม.ประชุมได้ผลอย่างไร จะให้ท่านทำอย่างไร ก็จะติดต่อไป” นายสมชาย กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนพดลได้เดินทางมาร่วมประชุม ครม.วันนี้ แต่ทันทีที่เดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาลก็นำรถเจ้าไปจอดบริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดินของอาคารสำนักเลขาธิการ ครม.ซึ่งเป็นสถานที่ประชุม ครม.ทันที โดยไม่ยอมออกมาให้สัมภาษณ์ ทั้งๆ ที่ปกตินายนพดลมักจะให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุม ครม.ทุกครั้ง