xs
xsm
sm
md
lg

“สุริยะใส” มั่นใจ ศาลยกคำร้องคดีครูราชวินิตฟ้องพันธมิตรฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
พันธมิตรฯ มั่นใจศาลแพ่งยกคำร้อง คดีถูกผู้ปกครอง รร.ราชวินิตฟ้องหยุดชุมนุม แฉรัฐบาลเตรียมแผน 3 ขั้น 1.ปรับ ครม.ชุดเล็ก 2.ใช้สื่อรัฐบิดเบือนการชุมนุม 3.ใช้ “เจ๊หน่อย” ประสาน “ประวิตร” สร้างสัมพันธ์กองทัพ เรียกร้องทหารแสดงจุดยืนชัดเจนรักษาผลประโยชน์ชาติและประชาชน

เมื่อเวลา 18.30 น.วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่บริเวณหลังเวทีการชุมนุมพันธมิตร นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานของกลุ่มพันธมิตรเพื่อประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงว่า ในวันพรุ่งนี้ (30 มิ.ย.) ศาลแพ่งจะมีคำสั่ง หลังจากที่ผู้ปกครอง ร.ร.ราชิวินิตบางส่วนได้ไปยื่นคำร้องให้พันธมิตรฯ ยุติการชุมนุม โดยทางกลุ่มพันธมิตรฯ ได้มอบหมายให้นายสุวัตร อภัยภักดิ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ ทีมทนายความไปยื่นเอกสารเพิ่มเติม เพื่อยืนยันสิทธิการชุมนุมโดยสันติ โดยปราศจากอาวุธ ตามมาตรา 63 ของรัฐธรรมนูญ

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาได้มีการเจรจากับ ร.ร.ราชวินิต และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตพณิชยการพระนคร ซึ่งมีข้อสรุปเป็นไปด้วยดี และมีการอะลุ้มอล่วยระหว่างกัน แต่ก็มีผู้ปกครองบางส่วนไปยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุด

นายสุริยะใส กล่าวว่า กรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งกรณีปราสาทพระวิหาร ซึ่งชี้ให้เห็นถึงคุณูปการของการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ในการรักษาอธิปไตยของชาติ และรักษาผลประโยชน์ของคนไทยส่วนรวมไว้ได้ กิจกรรมทางการเมืองของพันธมิตรฯ จึงสร้างประโยชน์ให้กับสังคม และไม่เป็นผลประโยชน์ของคนใดคนหนึ่ง

นายสุริยะใส กล่าวอีกว่า ศาลแพ่งคงต้องชั่งน้ำหนัก และเชื่อว่าในวันพรุ่งนี้ศาลจะมีคำสั่งบนพื้นฐานของดุลยพินิจที่เหมาะสม และเชื่อว่าศาลจะมีคำสั่งยกคำร้อง

ผู้ประสานงานของกลุ่มพันธมิตรฯ กล่าวว่า ในขณะนี้ต้องถือว่ารัฐบาลหุ่นเชิดขาดความชอบธรรมในการบริหารราชการทั้งโดยพฤตินัย และนิตินัย โดยในทางพฤตินัย รัฐบาลได้มีการสร้างวิกฤติความน่าเชื่อถือ และไม่ไว้วางใจให้เกิดขึ้นในสังคม มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย แตกแยก และรัฐบาลไม่สามารถปกครองได้อีกต่อไป เพราะว่ารัฐบาลเป็นผู้สร้างเงื่อนไขแตกแยกทั้งหมด

นายสุริยะใส กล่าวว่า คำสั่งศาลปกครองถือว่าได้สวนทางกับการลงมติไว้วางใจในสภาที่ให้รัฐบาลทำงานต่อไป และยังสร้างความไม่ชอบธรรมในการบริหารงานต่อไป ต่อจากนี้ไป จะมีหลักประกันใดๆ หรือไม่ว่ารัฐบาลจะดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย คำสั่งศาลปกครองดังกล่าวได้ตอกย้ำให้เห็นว่ารัฐบาลหุ่นเชิดหมดความชอบธรรมทั้งโดยพฤตินัยและนิตินัยไปแล้ว

จากนี้ต่อไป รัฐบาลจะทำทุกวิถีทาง เพื่อต่ออายุตัวเองไปให้นานที่สุด อย่างน้อยจนกว่ากระบวนการยุติธรรมจะดำเนินการถึงที่สุดในคดีความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยทางรัฐบาลจะดำรงอยู่เพียงเพื่อเอื้ออำนวยช่วยเหลือ เชื่อว่าขณะนี้มีแผน 3 ขั้น เพื่อต่ออายุรัฐบาลหุ่นเชิด แผนขั้นแรก สกัดกั้นการชุมนุม และทำลายความชอบธรรมของการชุมนุม ซึ่งพบว่าจนถึงวันนี้ ยังมีรายงานการสกัดกั้นการการเดินทางการมาร่วมชุมนุมอยู่ทุกวัน อีกทั้งยังมีการจัดตั้งมวลชนในต่างจังหวัด เพื่อคุกคามแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ในต่างจังหวัด ซึ่งในขณะนี้ตัวจังหวัดใหญ่ จะมีการจัดเวทีใหญ่คู่ขนานกับการชุมนุมกับกรุงเทพ และที่อุดรธานี มีการปิดล้อมที่พักอาศัยของแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ และมีพฤติกรรมรุนแรง ที่ชี้ให้เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ภาครัฐบางส่วนหนุนหลัง

ขั้นที่ 2 มีการปรับคณะรัฐมนตรีบางตำแหน่ง ที่ทราบมาจะมีการโยกย้ายสลับกัน 3-4 ตำแหน่ง และอาจจะมีการเพิ่มโควตาให้กับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อต้องการซื้อใจ

ขั้นที่ 3 ดำเนินการกับกองทัพ ซึ่งกุญแจที่สำคัญคือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ โดยจะเชื่อมความสัมพันธ์ไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ. พี่ชายของ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผบ.ตร. เพื่อไต่ระดับไปยังผู้นำในกองทัพ และเชื่อมไปยังผู้นำเหล่าทัพ จะมีการพบปะกันในไม่ช้า ซึ่งมีข่าวว่าในวันที่ 2 ก.ค.นี้ จะมีการรวมรุ่น ตท.6 และมีผู้นำเหล่าทัพเข้าร่วม มีการระบุว่าคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นแขกพิเศษในครั้งนี้ด้วย การต่อเชื่อมกองทัพในครั้งนี้ อาจใช้การโยกย้ายตำแหน่งในเดือน ต.ค.นี้เป็นอาวุธสำคัญในการต่อรอง จึงอยากบอกว่า ถ้าผู้นำกองทัพยึดแต่ตำแหน่ง โดยไม่คิดถึงประโยชน์ของชาติ อาจจะต้องเป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมืองได้

นายสุริยะใส กล่าวว่า ตนขอชี้แจงความเข้าใจที่ว่ากลุ่มพันธมิตรฯ พยายามดึงทหารมายึดอำนาจ ยืนยันว่าไม่ได้มีการกระทำเช่นนั้น และการเมืองในอดีต กองทัพจะเป็นพลังชี้ขาด และส่วนใหญ่มีบทบาทในการยึดอำนาจ และที่ผ่านมาก็เป็นที่ชัดเจนว่า หลังจากยึดอำนาจแล้วก็ไม่สามารถนำพาให้ชาติพ้นวิกฤติได้ ในปีที่ผ่านมาก็เป็นเช่นเดียวกัน

ตัวแปรอยู่ที่กองทัพ การแสดงบทบาทใดๆ เป็นที่ละเอียดอ่อน แต่ที่ผ่านมาความเงียบของทหารในกรณีเขาพระวิหาร ทำให้เราแคลงใจว่า เหตุใดนายทหารจึงไม่รู้ร้อนรู้หนาว และปล่อยให้มีการใช้อำนาจอย่างเหิมเกริมและก้าวร้าว ถึงเวลาแล้วที่กองทัพจะคิดใหม่กับบทบาททางการเมืองว่าจะจัดความสัมพันธ์อย่างไร ระหว่างฝ่ายการเมืองกับกองทัพ ตนอยากสอบถามถึงสามัญสำนึกของผู้นำเหล่าทัพว่าสถานการณ์ในทุกวันนี้ เพียงพอหรือไม่ที่จะต้องแสดงบทบาททางการเมือง

นายสุริยะใส กล่าวว่า เท่าที่ทราบในขณะนี้มีนายทหารซึ่งเดินเกมเคลื่อนไหวฉวยโอกาสจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อสร้างโอกาสในการยึดอำนาจ และสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นใหญ่ ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯ ได้มีการติดตามความเคลื่อนไหวมาโดตลอด เราจะยืดหยัดโดยใช้พื้นฐานทางมวลชนเป็นหลัก และไม่ได้ต้องการให้มีการยึดอำนาจเหมือนในอดีต

หลังจากนี้เป็นต้นไป เวทีจะมีการปรับเปลี่ยนกำหนดการเล็กน้อย โดยแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ จะขึ้นปราศรัยเร็วกว่าเดิมเล็กน้อยในเวลา 19.30 น. แต่จะไม่ปราศรัยติดต่อกันเหมือนที่ผ่านมา แต่จะแยกกันปราศรัยในแต่ละช่วง สลับกับงานเวทีวัฒนธรรม และผู้ปราศรัยคนอื่นๆ

นายสุริยะใส กล่าวถึงการให้ความเห็นของ ดร.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ไม่เห็นด้วยกับอำนาจของศาลปกครองในการวินิจฉัยกรณีเขาพระวิหารว่า แม้ตนจะยอมรับในสิทธิและเสรีภาพทางวิชาการ แต่การมาระบุหลังจากที่ศาลมีคำสั่งเช่นนี้ ก็ต้องตั้งคำถามไปยังอาจารย์วรเจตน์ด้วยว่า เหตุใดถึงไม่ได้ให้ความเห็นก่อนหน้านี้ แต่มาแสดงความเห็นในช่วงนี้ ก็เท่ากับเห็นด้วยกับระบอบทักษิณเหมือนๆ กับหลายคดีที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น