xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตรยื่นค้านร.ร.ราชวินิตฟ้อง แฉแผน 3ขั้น รบ.รักษาอำนาจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน- แกนนำพันธมิตรฯ ลงมติยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลแพ่ง กรณีผู้ปกครองและอาจารย์โรงเรียนราชวินิตมัธยม ยื่นฟ้องเพื่อให้กลุ่มพันธมิตรฯ ยุติการชุมนุม สุริยะใส" มั่นใจศาลแพ่งยกคำร้อง แฉรัฐบาลเตรียมแผน 3 ขั้นรักษาอำนาจ 1.ปรับ ครม.ชุดเล็ก 2.ใช้สื่อรัฐบิดเบือนการชุมนุม 3.ใช้ “เจ๊หน่อย” ประสาน “ประวิตร” สร้างสัมพันธ์กองทัพ

วานนี้ (29 มิ.ย.) นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวก่อนขึ้นเวทีพันธมิตรฯ เพื่อปราศรัยว่า แกนนำพันธมิตรฯ ได้มีการประชุมหารือเพื่อประเมินสถานการณ์ แต่ยังไม่มีมติว่าจะเคลื่อนไหวในช่วงนี้ เพราะต้องรอดูสถานการณ์ก่อน

ส่วนกรณีที่ผู้ปกครอง นักเรียน และอาจารย์โรงเรียนราชวินิตมัธยม ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง มีคำสั่งให้กลุ่มพันธมิตรฯ ยุติการชุมนุม ซึ่งศาลจะมีคำสั่งในวันนี้ (30มิ.ย.) ซึ่งทางทนายความของกลุ่มพันธมิตรฯ ก็เตรียมยื่นคำร้องคัดค้านในวันนี้ด้วยเช่นกัน

นายพิภพ กล่าวด้วยว่า หลังจากถูกร้องเรียน ทางพันธมิตรฯ ได้แก้ปัญหาเบื้องต้น โดยลดระดับเสียงรบกวน แก้ปัญหาให้กับพ่อค้าแม่ค้า และเจรจาให้รถประจำทางเปลี่ยนเส้นทางให้นักเรียนเดินทางสะดวกขึ้นแล้ว

**สุริยะใสมั่นใจศาลแพ่งยกคำร้อง
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่ศาลแพ่งจะพิจารณากรณีที่กลุ่ม ครู - ผู้ปกครองและนักเรียนโรงเรียนราชวินิตมัธยม ไปยื่นฟ้องการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรว่า ในวันนี้(30มิ.ย.) ศาลแพ่งได้มีคำสั่งเรียกผู้ร้องและผู้ถูกร้องโดยกลุ่มได้มอบหมายให้นายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ และทีมทนายไปยื่นเอกสารเพื่อเติม โดยยก 3 ประเด็น เพิ่มเติมเพื่อยื่นคำร้องต่อศาล

ประกอบด้วย 1. กลุ่มพันธมิตรฯขอยืนยันสิทธิการชุมนุม โดยสันติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 63 2.นำเรียนต่อศาลว่าที่ผ่านมากลุ่มพันธมิตรฯ ได้เจรจากับทางโรงเรียนด้วยดี และเป็นไปด้วยความอะลุ่มอล่วยระหว่างกัน และ 3. กลุ่มพันธมิตรฯจะนำคำสั่งคุ้มครองของศาลปกครองกรณีเขาพระวิหารไปนำเสนอต่อศาลแพ่ง เพื่อแสดงให้เห็นว่าการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร สามารถรักษาผลประโยชน์ของคนไทย และรักษาอธิปไตยของชาติไว้ได้ อย่างไรก็ตาม กลุ่ม

"พันธมิตรฯมีความมั่นใจว่าการพิจารณาของศาลในวันนี้ ศาลแพ่งน่าจะยกคำร้อง เนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรชุมนุมด้วยความสงบ ปราศจากอาวุธ และเป็นไปตามสิทธิของรัฐธรรมนูญที่ต้องได้รับการคุ้มครองจากทุกฝ่าย ส่วนเรื่องผลกระทบต่อการใช้การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร อาจจะต้องมีการเยียวยาไปตามความเหมาะสม แต่จะห้ามการชุมนุม อาจจะไปขัดแย้งกับรัฐธรรมนูญได้" นายสุริยะใส กล่าวและว่า

สำหรับรัฐบาลภายใต้การนำของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ถือว่าหมดความชอบธรรมทั้งทางพฤตินัย นิตินัย ในการบริหารประเทศแล้ว เพราะที่ผ่านมารัฐบาลชุดนี้สร้างวิกฤติความน่าเชื่อถือให้เกิดขึ้นในสังคม มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ให้เกิดความแตกแยก ดังนั้น รัฐบาลชุดนี้ ไม่สามารถปกครองประเทศได้อีกต่อไป เพราะยิ่งอยู่อำนาจ ยิ่งจะสร้างเงื่อนไขการแตกแยกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ในทางนิตินัย คำสั่งศาลปกครองที่ออกมาถือว่าสวนทางกับมติการไว้วางใจรัฐบาล ทำให้เสียงไว้วางใจการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ผ่านมาจึงขาดความชอบธรรม

**เผยแผน 3 ขั้นรบ.หุ่นเชิด
นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ตนเห็นว่ารัฐบาลพยายามจะต่ออายุในการบริหารประเทศให้นานที่สุด เพื่อ รักษาผลประโยชน์ และช่วยเหลือทางคดีให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ด้วยแผน 3 ขั้นคือ

1.อาจมีการปรับคณะรัฐมนตรีในบางตำแหน่ง โดยที่ทราบมาจะมีการดยกย้ายสลับกัน 3-4 ตำแหน่ง และอาจจะมีการเพิ่มโควตาให้กับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อต้องการซื้อใจ 2. สกัดกั้นการชุมนุม และทำลายความชอบธรรมของการชุมนุม ซึ่งพบว่าจนถึงวันนี้ยังมีรายงานการสกัดกั้นการการเดินทางการมาร่วมชุมนุมอยู่ทุกวัน อีกทั้งยังมีการจัดตั้งมวลชนในต่างจังหวัด เพื่อคุกคามแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ ในต่างจังหวัด ซึ่งในขณะนี้ตัวจังหวัดใหญ่ จะมีการจัดเวทีใหญ่คูขนานกับการชุมนุมกับกรุงเทพ และที่อุดรธานี มีการปิดล้อมที่พักอาศัยของแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ และมีพฤติกรรมรุนแรงที่ชี้ให้เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ภาครัฐบางส่วนหนุนหลัง3. หาแนวร่วมกับกองทัพ โดยใช้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ บุคคลที่อยู่ใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณ ไปสร้างความใกล้ชิดกับ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ. รวมทั้งรัฐบาลยังกุมอำนาจในการแต่งตั้งโยกย้ายทหารในเดือน ก.ย. นี้ ซึ่งการกระทำแบบนี้สามารถต่อรองและซื้อใจ และความภักดีต่อผู้นำเหล่าทัพได้

“ขณะนี้มีนายทหารบางกลุ่มเดินเกมเคลื่อนไหวฉวยโอกาสจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อสร้างโอกาสในการยึดอำนาจ และสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นใหญ่ ซึ่งกลุ่มพันธมิตรฯ ได้มีการติดตามความเคลื่อนไหวมาโดตลอด เราจะยืดหยัดโดยใช้พื้นฐานทางมวลชนเป็นหลัก และไม่ได้ต้องการให้มีการยึดอำนาจ ดังนั้น เราจึงขอเรียกร้องไปยังผู้นำเหล่าทัพในปัจจุบัน ควรสร้างความชัดเจนต่อสถานการณ์ทางการเมืองให้ชัดเจนมากกว่านี้ แต่ทั้งนี้ การเรียกร้องของกลุ่มพันธมิตรฯไม่ได้หมายความว่า ทหารจะต้องออกมาประกาศยืนเคียงข้างใคร แต่ขอให้ทหารแสดงจุดยืนของตนเองให้อยู่ในกรอบหน้าที่ที่ตนเองมีอยู่ โดยยึดชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์”

นายสุริยะใส กล่าวด้วยว่าหลังจากนี้เป็นต้นไป เวทีจะมีการปรับเปลี่ยนกำหนดการเล็กน้อย โดยแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ จะขึ้นปราศรัยเร็วกว่าเดิมเล็กน้อยในเวลา 19.30 น. แต่จะไม่ปราศรัยติดต่อกันเหมือนที่ผ่านมา แต่จะแยกกันปราศรัยในแต่ละช่วง สลับกับงานเวทีวัฒนธรรมและผู้ปราศรัยคนอื่นๆ

**ปฐมพงษ์" ยื่น หนังสือต่อปธ.องคมนตรี
เมื่อเวลา 18.40น. พลตรี จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขึ้นเวที ให้กำลังใจแก่กลุ่มประชาชนที่มาชุมนุมและบอกด้วยว่า ในการชุมนุมหลายวันที่ผ่านมา มีทั้งทหารและตำรวจทุกชั้นยศเข้ามาร่วมชุมนุมด้วยแต่ไม่ได้มาชุมนุมในชุดเครื่องแบบ โดยแฝงตัวเข้ามาเป็นพลเรือนปกติ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนไม่ได้ถูกทอดทิ้งตามลำพัง

พลตรี จำลอง ยังกล่าวถึง พลเอก ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า พลเอก ปฐมพงษ์ ได้ไปยื่นหนังสื่อต่อประธานองค์มนตรี เพื่อคัดค้านกรญีที่รัฐบาลได้ยกปราสาทพระวิหารให้แก่ประเทศกัมพูชา ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่น่ายกย่องมาก ซึ่งเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าทหารไม่ได้ทอดทิ้งประชาชน

** “สาธิตมัฆวาน” ปลุกวัยรุ่นสยาม” ตื่นตัวการเมือง
วันเดียวกัน เวลา 14.00 น. นายกิตตินันท์ นาคทอง อายุ 21 ปี จากโรงเรียนสาธิตมัฆวาน แห่งมหาวิทยาลัยราชดำเนิน พร้อมกลุ่มเยาวชนกว่า 30 คน สวมเสื้อเหลือร่วมกันแสดงพลังในการพิทักษ์ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรัฐธรรมนูญ เดินรณรงค์เชิญชวนให้เยาวชนตื่นตัวต่อปัญหาบ้านเมือง ที่ สยามสแควร์ บริเวณหน้าโรงภาพยนตร์สยาม

นายกิตตินันท์ กล่าวว่า การรณรงค์ครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดจากการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ โดยได้นำเอกสารความรู้ทางการเมืองมาแจกจ่ายแก่ประชาชน โดยเฉพาะเรื่องปราสาทเขาพระวิหาร ได้เตรียมจัดพิมพ์มาทั้งสิ้น 1 หมื่นฉบับ ปรากฏว่า ได้รับความสนใจมาก พร้อมกับจัดกิจกรรมนันทนาการต่างๆ เช่น ร้องเพลง เหมือนการออกค่ายอาสา และมีการอธิบายบายให้สังคมมีความเข้าใจการชุมนุม และปัญหาทางการเมืองมากยิ่งขึ้น ซึ่งในทุกวันอาทิตย์จะจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้ต่อเนื่องทุกสัปดาห์

“บรรยากาศในการทำกิจกรรมถือว่าได้รับเสียงตอบรับดีมากมีวัยรุ่น ประชาชนที่อยู่ละแวกนั้น ให้ความสนใจรับเอกสารรณรงค์ บางคนเพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรกก็อาสาช่วยนำเอกสารไปเผยแพร่ต่อ ขณะที่บางคนก็เคยไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรที่สะพานมัฆวานและที่หน้าทำเนียบมาแล้ว บางคนบอกว่าไม่เคยมาร่วมกับเวทีพันธมิตรฯ เพราะรู้สึกกล้าๆ กลัวๆ ได้มาเจอที่นี่ก็ดีใจ ส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับเราก็มีบ้าง ไม่พอใจก็ฉีกเอกสารทิ้ง แต่ก็ไม่เป็นไร”นายกิตตินันท์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น