“กษิต” จี้ “หุ่นเชิด” ทบทวนยุติการดำเนินการกรณีเขาพระวิหาร แนะส่ง จนท.เจรจาเขมรใช้ผลประโยชน์ร่วมกัน อัด “นพเหล่” ตะแบงทุกเรื่อง ถามใช้อะไรคิด ไล่คืนปริญญาออกซฟอร์ด ยันสภาฯ ต้องเห็นชอบ พร้อมวอน ส.ส.ยืนข้าง ปชช.ก่อนสูญเสียอธิปไตย
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ "สภาท่าพระอาทิตย์"
วันนี้ (25 มิ.ย.) นายกษิต ภิรมย์ อดีตเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ในรายการสภาท่าพระอาทิตย์ กรณีปัญหาปราสาทพระวิหารว่า หลายฝ่ายรวมถึงฝ่ายค้านมีข้อคิดเห็นตรงกันเรื่องหนึ่ง คือ การขอขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งเกี่ยวโยงกับอธิปไตยที่ส่อบ่งบอกถึงการเสียดินแดนของไทยให้กับกัมพูชา แม้ว่านายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และนายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ บอกว่าไทยยังไม่เสียดินแดน ซึ่งตนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไปทำอะไรที่ส่อว่าจะเสียดินแดน ทั้งๆ ที่เรื่องที่เกี่ยวกับอธิปไตยและบูรณภาพการเสียดินแดน
นายกษิต กล่าวต่อว่า บูรณภาพเหนือดินแดนอธิปไตยของไทยที่เกี่ยวกับดินแดน การออกแถลงการณ์ร่วมเป็นสัญญาผูกมัด มีการลนามโดยรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ และมีรองผู้อำนวยการยูเนสโกในสหประชาชาติเป็นพยาน รวมถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศร่วมกัน ทั้งหมดนี้จะต้องนำเข้ารัฐสภา ให้รัฐสภาให้ความเห็นชอบร่วมกัน รัฐบาลจะไปดำเนินการอย่างนี้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด นายนพดลจบกฎหมายมาจากออกซฟอร์ด ไม่น่าเชื่อว่าจะไม่เข้าใจกฎหมาย อย่างนี้ต้องเอาปริญญาไปคืน ไม่รู้ใช้อะไรคิด ไม่ยอมรับความจริง
ส่วนการที่รัฐบาลอ้างว่า ให้กรมแผนที่ทหารดูแล้วกองทัพไม่ขัดข้อง ผ่านสภาความมั่นคงแห่งชาติ (กอ.รมน.) ผ่านคณะรัฐมนตรีสมบูรณ์แล้ว แต่ไม่ได้สอบถามหรือผ่านผู้เชี่ยวชาญกฎหมายระหว่างประเทศ นักวิชการที่มีความรู้ อย่างท่านสมปอง สุจริตกุล ที่เคยเป็นคณะทนายไปเจรจาเมื่อปี 2505 ท่านก็ยังมีชีวิตอยู่ทำไมไม่ไปสอบถามท่าน ในอดีตนายถนัด ดร.ถนัด คอมันตร์ อดีต รมว.ต่างประเทศ เขียนจดหมายถึงสหประชาชาติ บูรภาพเหนือดินแดนไทยที่ไทยยังเป็นเจ้าของอยู่ ดังนั้น เรื่องนี้ต้องมีการทบทวนใหม่และหยุดดำเนินการทั้งหมด เรื่องอายุความ 10 ปี นายนพดลจะเอามาอ้างไม่ได้
“การที่รัฐบาลพยายามโยนความรับผิดชอบไปที่กรมแผนที่ทหารนั้น กรมแผนที่ทหารทำเป็นเรื่องของเทคนิค อย่าโยนความรับผิดชอบให้กรมแผนที่ทหาร กอ.รมน. กรมสนธิสัญญา เพราะเป็นความรับผิดชอบของฝ่ายการเมือง ไปสังฆกรรมและซูเอี๋ยกับเขมรหรือไม่ และเรื่องที่จะขอจด สระตราว เป็นมรดกโลกด้วยนั้น นายนพดลใช้สมองคิดหรือเปล่า แท้จริงแค่แก้เกี้ยวขาดสามันสำนึก น่าละอายเสียศักดิ์ศรีความเป็นคนไทย เมื่อมีทักท้วงยังตะแบงกันต่อไป หรือมีนายใครเป็นมือที่มองไม่เห็น มีอำนาจเหนือสมาชิกบูรณภาพ อย่างนั้นหรือจนถึงขนาดต้องขายชาติกันเลย” นายกษิตกล่าว
อดีตเอกอัครราชทูตไทย ย้ำว่า ประเทศไทยมีสิทธิยับยั้ง เพราะเราเป็นสมาชิกยูเนสโกอย่างสมบูรณ์ กัมพูชาเป็นสมาชิกสมทบเท่านั้น วันนี้เรื่องเขาพระวิหารเป็นจุดบ่งบอกว่า ส.ส.ท่านยืนข้างประชาชนหรือไม่ หรือจะให้ประเทศสูญเสียชาติ ระบบรัฐสภาวายวอดแน่ เพราะถ้าไม่ออกมาช่วยก็เท่ากับเป็นการทำลายอนาคตของตัวท่านเอง
นายกษิต ยังเรียกร้องให้ รัฐบาลฟังเสียงประชาชนทั้งประเทศ ต้องยุติเรื่องนี้โดยส่งคนไปเจรจากับกัมพูชา เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน รวมทั้งเรียกร้องผู้นำท้องถิ่นอีสานตระหนักเรื่องนี้ให้ดี อย่านอนหลับทับสิทธิเห็นแก่อามิสสินจ้างหรือเงินเล็กๆ น้อยๆ ต้องออกมาช่วยกันรักชาติ หวงแหนอธิปไตยของชาติไทย
