“พิภพ” ชี้ การต่อสู้เรื่องเขาพระวิหาร ไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างประชาชนสองประเทศ แต่เป็นเรื่องการรักษาอธิปไตยที่ไม่ว่าคนชาติไหนก็ต้องทำ พร้อมแนะแขมร์จับตาผู้นำตัวเอง ร่วมมือ “แม้ว” เข้าฮุบสมบัติชาติ จวก “หมัก” ไร้วุฒิภาวะ เป็นถึงนายกฯ เล่นลิ้นตอบคำซักฟอก ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญของประเทศ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายพิภพ ธงไชย ปราศรัย
วันนี้ (24 มิ.ย.) เมื่อเวลา 20.52 น.นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ ว่า วันนี้เราภูมิใจในสิ่งที่ทำกันมาเกี่ยวกับเรื่องเขาพระวิหาร กลายเป็นประเด็นทางการเมืองที่เข้าไปซักฟอกกันในสภา ฉะนั้น เราต้องภูมิใจที่เราเป็นคนริเริ่มก่อน การต่อสู้ของเราทำให้เกิดแรงกดดันที่รัฐบาลหันรีหันขวาง ในเรื่องที่มีใจไปกับกัมพูชา ทำให้ ส.ว.และฝ่ายค้านได้อภิปราย โดยเฉพาะฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และ นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ แล้วประเด็นในสภาวันนี้ ตั้งแต่หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านก็เป็นประเด็นที่เราพูดกันที่นี่มาตลอด แต่กระบวนการรัฐสภา สามารถเอาข้อมูลเอกสารหลักฐานมาสนับสนุนประเด็นต่างๆ ที่เราพูดกัน
นายพิภพ กล่าวต่อว่า ที่เห็นชัดคือ การไปลงแถลงการณ์ร่วมถือว่าขัดกับรัฐธรรมนูญ มาตรา190 เพราะไปรับรองเกี่ยวกับแผนที่ที่กัมพูชาส่งมาฝ่ายเดียว แล้วจะทำให้เสียดินแดน มีการอภิปรายด้วยว่า การลงนามร่วมจะทำลายการสงวนสิทธิ์โต้แย้งคำพิพากษา ตั้งแต่สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกรัฐมนตรี แล้วคำพิพากษานั้นให้เขมรมีอธิปไตยเฉพาะพื้นที่ในปราสาทพระวิหารเท่านั้น แต่แผนที่ที่เขมรส่งมากลับมีพื้นที่เพิ่มเติม นอกเหนือจากที่จอมพลสฤษดิ์ ไปเอารั้วหนามล้อมไว้
“ถ้าฟังอภิปรายดีๆ จะเห็นว่า เป็นความผิดพลาดของนายนพดลที่รีบร้อนลงนามรับรองเขมรโดยใช้แผนที่ของเขมรเป็นหลัก แล้วเขมรไม่ยอมฟังไทยเลย ไม่ยอมรับแผนที่และข้อเสนอของไทยเลย แล้วถามว่า รมต.ร้อนรนไปมีมติทำไม เมื่อมีมติวันที่ 17 วันรุ่งขึ้นคุณนพดลไปลงนามร่วมอย่างรวดเร็วกับกัมพูชา ไทย และยูเนสโก ด้วย ถ้าการลงนามนี้เกิดความผิดพลาด เสียอำนาจอธิปไตย เสียดินแดนนายกฯ และ นายนพดล รับไหวหรือ ฉะนั้น ความรับผิดชอบนี้ถึงกับนายกฯต้องลาออก คุณนพดล ก็ต้องลาออก แม้แต่บ้านเรามีที่ดินเสียคืบหนึ่งเรายังไม่ยอม แล้วนี่เป็นผืนแผ่นดินไทยไปยอมได้ยังไง” นายพิภพ กล่าว
นายพิภพ กล่าวต่อว่า เราเคลื่อนไหวไม่ใช่ต้องการเสียมิตรภาพกับประชาชนกัมพูชา แต่เพื่อบอกว่า รัฐบาลทำไม่ถูกที่ยอมสูญเสียอธิปไตย แม้แต่รัฐบาลกัมพูชาถ้าทำให้สูญเสียอธิปไตยคนกัมพูขาก็ไม่ยอมเหมือนกันใช่ไหม คนไทยก็ยิ่งไม่ยอมใหญ่เลย เรื่องอธิปไตยของชาติคนไทยหรือกัมพูชาก็มีสิทธิ์สู้ แต่คนกัมพูชาต้องรู้ว่า การสู้ครั้งนี้มีผลประโยชน์ของนายกฯตัวเองอยู่เบื้องหลัง ในการเปิดโอกาสให้อดีตนายกฯของไทยไปร่วมลงทุนที่นั่น ผลประโยชน์อ้นนั้นกัมพูชาถึงบอกว่าไม่แคร์ไทย เพราะรัฐบาลกัมพูชาไม่ได้ลงทุนผลประโยชน์ในไทยเลย แต่เขารู้ว่ากลุ่มทุนไทยต้องง้อรัฐบาลเขมร
นายพิภพ กล่าวว่า ฟัง คุณสมัคร อภิปรายวันนี้ เหมือนกับว่าขอให้เชื่อผมเถอะ ผมฉลาดไม่ขายชาติหรอก แต่ไม่ตอบรายละเอียดอื่นๆ เลย แต่ประชาชนในวันนี้ เมื่อมีกรณีเขตแดนเรื่องอธิปไตย แถวเขาพนมดงรัก และเขาพระวิหาร เรายอมรับไว้ใจคุณสมัครได้หรือ
“ถามหน่อยว่าคนเป็นนายกฯจะมาตอบเล่นลิ้นอย่างนี้ในเรื่องที่สำคัญของประเทศได้หรือ ประเด็นนี้เป็นประเด็นใหญ่ แล้วจะทำให้เราเสียสิทธิ์ในการร้องเรียนข้อโต้แย้งของศาลโลกในอนาคต ที่เราไม่รู้ว่าจะได้หลักฐานเพิ่มเติมหรือไม่ เรื่องสันปันน้ำที่ถูกศาลโลกปฏิเสธ อาจจะถูกนำมาพิจารณาใหม่ในอนาคตก็ได้ ถ้าเอาสันปันน้ำ ปราสาทเขาพระวิหาร อยู่เป็นของไทย ฉะนั้น การที่รัฐบาลไปทำอย่างนี้ถือเป็นการทำลายสิทธิ์ที่จะโต้แย้ง ที่จะไม่สามารถทำได้ในอนาคต” นายพิภพ ระบุ
นอกจากนั้น นายพิภพ ยังเปิดเผยด้วยว่า ในวันนี้ ได้มีการยื่นศาลปกครอง ให้ไต่สวนฉุกเฉินและคุ้มครองชั่วคราวกรณีดังกล่าว ซึ่งศาลปกครองได้มีคำสั่งไต่สวนฉุกเฉินในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ ซึ่งต้องปรบมือให้ศาล ที่รีบเข้ามาแก้ไขปัญหาของประเทศ ไม่ให้นำไปสู่การเสียดินแดน โดยศาลได้ระบุถึงผู้ถูกฟ้องว่า ให้ส่งสำเนามติ ครม.และแถลงการณ์ร่วมพร้อมคำแปล แผนที่ และเอกสารทั้งหมด รวมทั้งเอกสารลับมาได้แล้ว อย่างไรก็ตาม เราหวังว่า ศาลจะมีคำสั่งในวันศุกร์ที่ 27 มิ.ย.2551 พิทักษ์ผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชน และสถาบันกษัตริย์ ไม่ให้ในหลวงรัชกาลนี้ เสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว
