“หมัก” ท่าจะเพี้ยนหนัก ถามเรื่องเขมรดันตอบเรื่องพม่า อ้างดึง “หม่องออกจากด้านมืด” ส่วนเขาพระวิหารก็แค่ใช้สำนวนโวหารกลบเกลื่อน อ้างยังสงวนสิทธิ์ แต่ไม่ยอมชี้แจงเอกสารที่ถูกแฉว่าไปสนับสนุนให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียว ย้ำ 4 เดือนไม่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย ไม่ตอบแทนใคร
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายสมัคร สุนทรเวช ชี้แจง
วันนี้ (24 มิ.ย.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นชี้แจงญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และ 7 รัฐมนตรี โดยเริ่มต้นได้กล่าวตอบโต้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยกล่าวทำนองเย้ยหยันผู้นำฝ่ายค้านในทำนองอายุยังน้อยแค่ 40 กว่าปี แต่มาดูถูกดูแคลนคนอายุ 73 ปี อย่างตนเอง
นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า กรณีปราสาทเขาพระวิหาร ที่ผ่านมา เมื่อปี 2505 เราแพ้คดีในศาลโลก แต่ยังสงวนสิทธิ์ แต่กลายเป็นว่าจะเอาประเทศไปขาย ทำลายความสัมพันธ์ เวลานี้คนไทยที่โน่น (ในกัมพูชา) ถามว่า ซี-130 พร้อมหรือไม่ ทำไมถึงจุดชนวนกันอย่างนี้
“แค่ 4 เดือนจะเป็นจะตาย บางคนอยากเป็นนายกฯ บอกว่า ผมเป็นมือสมัครเล่น ผมนี่แหละสมัครตัวจริง” นายสมัคร ระบุ พร้อมเหน็บแนมว่า เวลานี้เป็นช่วงเปิดสภาวิสามัญเพื่อพิจารณางบประมาณ แต่แค่ 4เดือน มันทรมานเหลือเกิน การประชุมคณะรัฐมนตรีต้องยกเลิกหมด ต้องมาประชุมที่นี่ (สภา)
นายสมัคร ย้ำว่า ไม่มีใครมาบีบบังคับตนเองได้ ผมไม่ได้กลัวพวกข้างนอกแม้แต่น้อย และย้ำว่า ไม่ได้เป็นคนเนรคุณคนอย่างที่ผู้นำฝ่ายค้านที่เพิ่งอายุ 40 กว่าปี มากระแทกแดกดันกล่าวหา
จากนั้น นายสมัคร ได้กล่าวถึงปัญหาน้ำมันแพง ว่า เป็นอย่างนี้ทั่วโลก และวกมากล่าวถึงเรื่องความสัมพันธ์กับพม่าว่า สามารถยกระดับความเข้าใจทั้งกับไทยและทั่วโลก โดยเปรียบเทียบว่าสามารถ “ดึงพม่าออกมาจากเงามืด” เลยทีเดียว
นายกรัฐมนตรี ยังยืนยันอีกว่า จะต้องเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยอ้างว่าเมื่อคนเป็นคนร่างก็ต้องแก้ไขได้ และการแก้ไขก็ไม่ได้ช่วยใคร เพราะช่วยอะไรไม่ได้ เพราะต้องขึ้นศาลอยู่ดี ทำไมต้องมาปลุกระดมกัน
นายสมัคร ยังปกป้อง นายจักรภพ เพ็ญแข กรณีที่พูดจาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน เพราะมีการพูดมาตั้งแต่ปี 2550 แต่กลายเป็นว่าพอมาเป็นรัฐมนตรี และไปกระทบสื่อ จึงถูกเล่นงาน
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี ยังอ้างอีกว่า กรณีปราสาทเขาพระวิหาร รัฐบาลนี้ยังสงวนสิทธิ์ และโทษรัฐบาลชุดที่แล้วว่าไปเขียนแผนที่กับรัฐบาลกัมพูชา และในการขอขึ้นทะเบียนทางกัมพูชาขึ้นทะเบียนเฉพาะปราสาทไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน
“แต่เวลานี้มีการปลุกระดม จะทำให้มีการเผาสถานทูตอีกครั้ง มีผู้หญิงคนหนึ่งฟังข่าวบอกว่าจะยอมตายเพื่อเขาพระวิหาร จะเอากันอย่างนี้เลยเหรอ” นายสมัคร ระบุและว่า อย่าเอาอดีตนายกฯ มาพัวพันเรื่องธุรกิจ พร้อมทั้งระบุอีกว่า 4 เดือนที่ผ่านมา ไม่ต้องตอบแทนใคร เพราะไม่มีใครที่ต้องเป็นบุญคุณ มีแต่อดีตนายกฯ ต่างหากที่ตนทำคุณให้ ส่วนญัตติอภิปรายของฝ่ายค้านเป็นญัตติที่กล่าวหารุนแรงเกินเหตุ เป็นเรื่องของคนอยากเป็นนายกรัฐมนตรี แล้วรอไม่ไหว เพราะ 4 เดือนที่ผ่านมา ไม่ได้ทำให้เสียหาย ซึ่งตนเองเป็นคนมีสกุล ไม่เนรคุณใคร