“ปานเทพ” เรียกร้องทหารปกป้องอธิปไตยชาติ หวั่นเสียดินแดนให้กัมพูชาแลกผลประโยชน์ให้ “แม้ว” แฉ “นพดล” ไม่กล้าเปิดแผนที่ เหตุไม่ตรงกันแผนที่กรมทหาร ด้าน “ประพันธ์-พิเชฐ” ชี้มีนัยแอบแฝง วอน ขรก.บัวแก้วต่อต้าน “ระบอบทักษิณ” ชี้ทำผิด รธน.ถอดถอนออกจากตำแหน่งได้
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ "สภาท่าพระอาทิตย์"
วันนี้ (17 มิ.ย.) ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ผู้ดำเนินรายการยามเฝ้าแผ่นดิน กล่าวบนเวทีพันธมิตรฯ ในรายการสภาท่าพระอาทิตย์ว่า การเดินทางไปยังกระทรวงการต่างประเทศวันนี้ พันธมิตรฯ จะยื่นหนังสือข้อเรียกร้อง 6 ข้อ โดยให้เปิดแผนที่ตกลงกันรอบเขาพระวิหารที่นายนพดล ไม่ยอมเปิดเผย เพราะแม้แต่ทางขึ้นปราสาทเขาพระวิหารที่อยู่กับชายแดนจังหวัดศรีสะเกษ ก็ยังตกเป็นของกัมพูชา และยังมีชาวกัมพูชา ไปตั้งรกรากรุกล้ำเข้ามาในเขตไทย ทั้งนี้สมัย พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มีการทักท้วงเรื่องนี้ ผ่านทางทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย แต่ทางกัมพูชาไม่ยอมรับว่ามีการรุกล้ำเข้ามาในเขตไทย ขณะเดียวกัน รัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช และนายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ได้สนใจที่จะทักท้วงแต่อย่างใด
ขณะเดียวกันยังมีการโยกย้ายนายทหาร พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา ซึ่งเป็นเพื่อนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มาเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เมื่อมีการจัดทำแผนที่ข้อตกลงเขตแดนระหว่างไทยกัมกัมพูชา เรื่องปราสาทเขาพระวิหารขึ้นมาใหม่ โดยกัมพูชา จะยื่นขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ขณะที่ไทยไม่ได้สนใจที่จะยื่นไปพร้อมๆด้วยหรือคัดค้านแต่อย่างใด และเมื่อมีการประชุม สมช.เมื่อวัน 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา แผนที่ฉบับใหม่ที่กัมพูชาทำขึ้น ก็ผ่านสมช.โดยที่ไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารชน ทำกันอย่างมุบมิบ มีนัยแอบแฝง
นายปานเทพ กล่าวต่อว่า รมต.พาณิชย์ของประเทศกัมพูชา ยังพูดเองว่า อย่าเอาเรื่องน่านน้ำมาปะปนกับเรื่องปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งด้านหนึ่งของเขาพระวิหารติดแหล่งท่องเที่ยว อีกด้านหนึ่งติดน่านน้ำซึ่งมีแหล่งก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน จำนวนมหาศาล มากที่สุดในอ่าวไทยก็ว่าได้ บังเอิญเมื่อขีดเส้นแหล่งก๊าซธรรมชาติบริเวณนี้จะต้องพาดผ่านเกาะกูดของไทย กัมพูชาจึงอ้างอีกว่าเกาะกูดเป็นของกัมพูชา แต่สุดท้ายมีการขีดเส้นใหม่ไม่ให้ผ่านเกาะกูด อ้อมออกมา เพราะกลัวคนไทย ที่เกาะกูดจะรู้ทัน เราจึงต้องรู้ให้ได้ว่าเป็นไปตามแผนที่ฉบับใหม่หรือไม่อย่างไร
“เรื่องนี้เป็นที่น่าสงสัยมากว่าไทยอาจจะเสียดินแดน โดยเฉพาะเขตแหล่งก๊าซธรรมชาติจะตกไปเป็นของกัมพูชา ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าไปลงทุนในเกาะกง ประเทศกัมพูชาหรือไม่ เราขอเรียกร้องให้เปิดเผยแผนที่ หรือที่นายนพดล ไม่ยอมเปิดเผยเพราะแผนที่เขมรที่ยื่นมาไม่ตรงกับแผนที่ของกรมทหารใช่หรือไม่ และขอเรียกร้องให้ทหารทุกคนออกมาปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติอย่างสุดชีวิต เพราะประชาชนคนไทยยอมไม่ได้” นายปานเทพ กล่าว
ด้าน นายประพันธ์ คูณมี อดีตสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กล่าวว่า นายนพดลไม่มีสิทธิ์ปกปิดแผนที่ เพราะผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ไม่ว่าก่อนหรือหลังทำสัญญาจะต้องเปิดเผยและให้รัฐสภาเห็นชอบ ไม่ใช่มาอ้างว่าแผนที่เปิดเผยไม่ได้ เป็นความลับทางราชการ ซึ่งเป็นข้ออ้างที่ไร้สาระ และไม่มีหน้าที่จะไปปกป้องการเมืองในประเทศกัมพูชา จะต้องปกป้องอธิปไตยผืนแผ่นดินไทย
นายประพันธ์ ยังมอกว่า สาเหตุที่กัมพูชาต้องจดทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก ก็เพื่อปิดปากคนไทยให้นานาชาติรับรู้ว่า ปราสาทเขาพระวิหารเป็นของเขาฝ่ายเดียว ตามที่ศาลโลกชี้เมื่อปี 2505 ทั้งที่เรื่องนี้ไทยสามารถคัดค้านได้ เพราะแนวเขตสันปันน้ำของปราสาทเขาพระวิหาร ก็ไม่ได้อยู่ในแนวเขตของกัมพูชา สามารถใช้สิทธิร่วมกันได้ ไม่ใช่กัมพูชาอ้างฝ่ายเดียว แต่ไม่เห็นรัฐบาลนี้จะคัดค้านแต่อย่างใด และไม่มีเหตุผลที่จะต้องปกปิด และไม่สามารถตกลงกับกัมพูชาได้ทั้งในเรื่องความชอบธรรมและกฎหมายรัฐธรรมนูญ
“ผมเชื่อว่าเรื่องนี้มีอะไรแอบแฝง ขอเรียกร้องให้ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ มีจุดยืนของตัวเองช่วยกันตรวจสอบรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงที่เป็นคนของระบอบทักษิณ เพราะข้าราชการกระทรวงต่างประเทศรักความถูกต้อง รักชาติ มีคุณธรรมจริยธรรมสูง” นายประพันธ์ กล่าว
ขณะที่ นายพิเชฐ พัฒนโชติ กล่าวว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญ มตรา 190 บัญญัติไว้ว่า การจะทำทำสนธิสัญญากับต่างประเทศ หรือการจะเปลี่ยนแปลงอาณาเขตดินแดนเกี่ยวกันอธิปไตย จะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน แต่รัฐบาลนี้ไม่เคยสนใจ ไม่ปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะนำไปสู่มาตรา 170 ของกฎหมายรัฐธรรมนูญในการยื่นถอดถอน รวมถึงรัฐบาลที่มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี จนเป็นที่มาของการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรีหรือเอฟทีเอ ที่ทำให้เกษตรกรไทยเสียเปรียบ มีปัญหาเกิดขึ้นมากมายมาจนถึงทุกวันนี้
นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า แม้ศาลโลกจะตัดสินว่าปราสาทเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชาตามเส้นสีเหลือง แต่กฎหมายก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ โดยในสมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก็มีการคัดค้านมาโดยตลอด แต่รัฐบาลของนายสมัคร ไม่สนใจหรือสุดท้ายจะยอมเสียอธิปไตยแลกกับแหล่งก๊าซธรรมชาติ ที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้าไปลงทุน ขณะนี้ตนทราบมาว่า ทางฝ่ายกัมพูชา เค้ามีการเฉลิมฉลองกันแล้ว ในรอบ 46 ปี ซึ่งไม่เคยฉลองมาก่อน ขณะที่วันนี้พวกเราเรียกร้องผลประโยชน์ประเทศชาติ แต่นายนพดล กลับไปปกป้องผลประโยชน์ของระบอบทักษิณ
“เป็นเรื่องน่าแปลกที่นายนพดล ไม่เปิดเปิดเผยแผนที่ อ้างว่าเป็นเอกสารลับ และกัมพูชาขอร้องเกรงกระทบการเลือกตั้ง ที่จะมีขึ้นในวันที่ วันที่ 20 ก.ค.นี้ นายนพดลตอบสนองกัมพูชาทุกเรื่อง รวมถึงการขึ้นทะเบียนมรดกโลกที่กัมพูชาอ้างว่าไม่กระทบเขตแดนไทย ให้ยอมไปก่อนและมาตกลงกันภายหลัง นายนพดลทำได้อย่างไร นายนพดล ไม่ใช่ทนายของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่เป็นแค่โฆษกรักษาผลประโยชน์ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ถึงได้ดิบได้ดีมาเป็นรัฐมนตรี กระทรวงการต่างประเทศ” อดีตรองประธานวุฒิสภากล่าว
