xs
xsm
sm
md
lg

อัดยับ! “ระบอบแม้ว” ไฟเขียวทุนต่างชาติ-ฮุบผลประโยชน์ของคนไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้จัดวงเสวนาทางเศรษฐกิจ ชี้ให้เห็นผลกระทบจากกระบวนการทำธุรกิจของโมเดิร์นเทรดหรือห้างค้าปลีกสมัยใหม่ ดำเนินรายการโดยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
วงเสวนาทางเศรษฐกิจ พันธมิตรฯ เผยกระบวนการทำธุรกิจของยักษ์โมเดิร์นเทรดจากต่างชาติในบทนักบุญคนบาป ใช้วิธีขายต่ำกว่าทุนเป็นแม่เหล็กดึงผู้บริโภคเข้าห้างสร้างความเป็นพวก เพื่อใช้เป็นเครื่องมือฟันรายได้จากส่วนอื่นๆ สารพัด ชี้ผลกระทบทำลายทั้งร้านค้าปลีกรายย่อยและระบบผู้ผลิตด้วยการสร้างเฮาส์แบรนด์ ทำให้ผู้ผลิตอิสระกลายเป็นเพียงผู้รับจ้างทำของ จวกรัฐกำลังทำให้ประเทศตกเป็นอาณานิคมธุรกิจต่างชาติ

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง การเสวนาเรื่อง "ผลกระทบจากกระบวนการทำธุรกิจของโมเดิร์นเทรดหรือห้างค้าปลีกสมัยใหม่" 

วานนี้ (7 มิ.ย.) ที่เวทีสะพานมัฆวานรังสรรค์ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้จัดวงเสวนาทางเศรษฐกิจ ชี้ให้เห็นผลกระทบจากกระบวนการทำธุรกิจของโมเดิร์นเทรดหรือห้างค้าปลีกสมัยใหม่ โดยมี ว่าที่ ร.อ.จิตร์ ศิรธรานนท์ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และนายอัมรินทร์ คอมันตร์ นักธุรกิจและนักวิชาการด้านกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นวิทยากร ดำเนินรายการโดย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

โดย ว่าที่ ร.อ.จิตร์ วิเคราะห์ว่า กระบวนการทำธุรกิจของโมเดิร์นเทรดหรือห้างค้าปลีกสมัยใหม่ จะใช้วิธีการขายขาดทุนหรือขายสินค้าในราคาต่ำกว่าทุนที่ซื้อมา เพื่อเป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้บริโภคเข้าห้างฯ ให้มากๆ และทำให้กลายเป็นพวก วิธีการดังกล่าวนี้เป็นการทำลายร้านค้าปลีกขนาดเล็กและโชวห่วยโดยตรง เพราะร้านค้าปลีกขนาดเล็กมีรายได้ช่องทางเดียวคือกำไรจากการซื้อมา-ขายไป ขณะที่ห้างสมัยใหม่กลับไม่ได้ใช้การซื้อมา-ขายไปเป็นช่องทางสร้างรายได้ แต่ใช้ปริมาณของลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้าและจำนวนสาขาที่ขยายออกไปเป็นเครื่องมือในการสร้างรายได้อื่นๆ แทน

ว่าที่ ร.อ.จิตร์ กล่าวต่อว่า รายได้ของโมเดิร์นเทรดที่เป็นรายได้หลักจริงๆ จะมาจากรายได้อื่นๆ เช่น ค่านำเข้าสินค้าครั้งแรกหรือค่าฟี (FEE) ที่จัดเก็บจากคู่ค้าหรือซัพพลายเออร์ที่นำสินค้าไปวางขายในห้าง ซึ่งยิ่งเพิ่มสาขามากเท่าใดรายได้ส่วนนี้ก็มากขึ้น เพราะใช้จำนวนสาขาเป็นตัวคูณ นอกจากนั้น ยังมีค่าเก็บรหัสข้อมูลรายการสินค้า,ค่าบริการชั้นวางสินค้าอย่างโซนเอจะเก็บค่าใช้จ่ายพิเศษ, ค่าธรรมเนียมพิเศษต่างๆ เช่น ขายสินค้าเข้าเป้าโดยจัดเก็บเป็นรายเดือน รายปี, ค่าบริหารจัดการศูนย์กระจายสินค้า, ค่าแผ่นปลิวโฆษณา, ค่าส่วนลด ของแถม ตามโอกาสต่างๆ เช่น ครบรอบเดือน รอบปี, ค่าเช่าพื้นที่พลาซาโชว์รถยนต์คาราวานสินค้า เป็นต้น

อดีต สนช.ท่านนี้ยังระบุอีกว่า รายได้ของโมเดิร์นเทรด ยังมาจากการประหยัดภาษีเพราะรวมเสียภาษีที่สำนักงานใหญ่ รวมทั้งยังประหยัดค่าใช้จ่ายในการบริหารศูนย์กระจายสินค้า และประหยัดจากจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็มีรายได้จากดอกเบี้ยรับเนื่องจากมีระยะเวลาการชำระเงินยาวกว่า ชำระเงินให้คู่ค้าล่าช้า แต่ขายได้เงินสดทุกวัน

นอกเหนือจากนั้น วิธีการทำธุรกิจของโมเดิร์นเทรดที่นิยมกันมากขณะนี้ คือ การสร้างเฮาส์แบรนด์ หรือสร้างสินค้าของตนเอง ซึ่งวิธีการดังกล่าว ว่าที่ ร.อ.จิตร์ ระบุว่า เป็นการทำลายระบบผู้ผลิต ทำให้ผู้ผลิตอิสระกลายเป็นเพียงผู้รับจ้างผลิตของ ขณะที่โมเดิร์นเทรดได้ก้าวเข้ามาควบคุมผูกขาดด้านระบบผลิต เป็นการมุ่งสู่ความเป็นหนึ่งที่ยึดกุมทั้งการผลิตและการขายเอาไว้ในมือ

ขณะที่ นายอัมรินทร์ มองปัญหาดังกล่าวกำลังสร้างปัญหาให้กับปากท้องและอนาคตของคนไทยทุกคน คนไทยกำลังจะตกเป็นทาสโดยไม่รู้ตัว เราต้องปกป้องไม่ให้กระบวนการทำธุรกิจของต่างชาติเข้ามาครอบงำธุรกิจคนในประเทศ คนไทยกำลังถูกพวกนักการเมืองเลวบางคนหลอกลวงมาตลอด เห็นได้จากความพยายามที่จะผลักดัน พ.ร.บ.ค้าปลีก ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่พยายามตั้งกฎเกณฑ์เพื่อปกป้องสิทธิ์ของผู้ค้าปลีกรายย่อย

“วันนี้เราต้องการรัฐบาลที่เข้ามาเพื่อปกป้องการทำมาหากินของประชาชน ไม่ใช่ปล่อยให้ทุนต่างชาติเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ ฉะนั้นประชาชนต้องลุกขึ้นดูแลปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่ให้นักการเมืองมาโกงชาติโกงแผ่นดิน ขืนปล่อยให้นักการเมืองพวกนี้อยู่ต่อไป สักวันหนึ่งประเทศไทยจะตกเป็นอณานิคมของธุรกิจต่างชาติแน่นอน” นักธุรกิจและนักวิชาการด้านกฎหมายระหว่างประเทศ กล่าวทิ้งท้าย
นายอัมรินทร์ คอมันตร์ นักธุรกิจและนักวิชาการด้านกฎหมายระหว่างประเทศ
ร.อ.จิตร์ ศิรธรานนท์ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)
กำลังโหลดความคิดเห็น