พันธมิตรฯ ถกประเมินเข้มจับตา “สนธิ” เปิดโปง กกต.-สินบนคืนนี้

พันธมิตรฯ ประเมินสถานการณ์วันต่อวัน ให้จับตา “สนธิ” เปิดโปงความชั่วร้ายใน กกต. พร้อมวิเคราะห์ที่มาที่ไปสินบนตุลาการอย่างถึงกึ๋น คืนนี้ (11 มิ.ย.) ชี้อารยะขัดขืนในภาคประชาชนเริ่มเห็นผล ชาวบ้านเริ่มฮึดสู้ข้าราชการชั่วรับใช้ระบอบทักษิณมากขึ้นเรื่อยๆ

วันนี้ (11 มิ.ย.) เมื่อเวลา 18.00 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถลงที่หลังเวทีเชิงสะพานมัฆวานฯ ว่า มติของ 5 แกนนำพันธมิตรฯ ในวันนี้เห็นตรงกันว่า การแสดงท่าทีทางการเมืองแบบวันต่อวันจะแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ เวลา 10.00 น.จะเป็นการแสดงความเห็นของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จากนั้นในเวลา 18.00 น. ตนหรือนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ จะมาตอบคำถามสื่อมวลชน หากมีประเด็นข่าวใหม่ในช่วงบ่าย

สำหรับกรณีสินบนตุลาการนั้น วันนี้แกนนำจะหารือและพูดคุยกัน ส่วนบนเวทีนั้นจะมีการเปิดโปงเบื้องหน้าเบื้องหลัง โดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งเราทราบข้อมูลตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว แต่ที่ไม่มีการพูดบนเวที เพราะยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่ข่าวทั้งหมดในวันนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า ข่าวดังกล่าวเป็นความจริง

สำหรับการทำงานของกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ที่เกี่ยวข้องกับกรณีใบแดงของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ซึ่งอาจจะโยงไปถึงการยุบพรรคด้วยนั้น เราก็พบความไม่ชอบมาพากล ดังนั้นบนเวทีวันนี้จะมีการพูดถึงด้วยว่า สุดท้ายแล้วกรณีนี้จะกลายเป็นมวยล้มต้มคนดูหรือไม่

สำหรับมาตรการอารยะขัดขืน ที่พรรคพลังประชาชน (พปช.) กล่าวหาว่าเป็นคนยุให้ประชาชนทำผิดกฎหมายนั้น หากดูมาตรการแรกของเราตั้งแต่ต้นให้ละเอียดจะเห็นว่า ไม่ผิดกฎหมาย แต่เป็นการกระตุ้นให้ประชาชนใช้ความกล้าหาญเพื่อพิทักษ์สิทธิของตนเอง เพราะวันนี้ข้าราชการและประชาชนเกรงกลัว ทั้งๆ ที่ขัดต่อมโนสำนึก ขอให้อ่านในรายละเอียดให้ดีก่อนจะมากล่าวหา

ด้าน พล.ต.จำลอง กล่าวว่า มาตรการอารยะขัดขืนที่ประกาศไปนั้นไม่ใช่เรื่องที่เร่งร้อนประกาศออกไป แต่แกนนำได้มีการพิจารณาหารือกันจนเห็นว่าไม่มีอะไรเสียหาย ไม่ใช่อยู่ดีๆ เราก็ประกาศออกไป

ถามว่า มองอย่างไรที่ในวันนี้ พรรคชาติไทย ได้ยื่นญัตติขอให้ตั้งกรรมการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ (รธน.) และข้อดีข้อด้อยตาม รธน.นายสุริยะใส กล่าวว่า ญัตติดังกล่าวเป็นเพียงรายละเอียดปลีกย่อย แต่สิ่งที่พันธมิตรฯขัดขวางนั้น คือ เจตนารมณ์ที่จะล้มล้าง รธน.ได้เกิดขึ้นแล้ว อย่าไปหลงประเด็นกับการยื่นญัญติ ซึ่งเป็นเพียงหลุมพรางใหญ่ของ พปช.ที่ต้องการฟอกผิด ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ขณะที่ พล.ต.จำลอง กล่าวว่า รัฐบาลน่าจะใช้เวลาอย่างเต็มที่กับการแก้ปัญหาปากท้องประชาชนจะดีกว่าการที่มาทำเรื่องปลีกย่อยอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถไปขัดขวางหรือควบคุมอะไรได้ เพียงแต่ว่าเราอยากให้รัฐบาลใช้ระยะเวลาทั้งหมดแก้ปัญหาปากท้องประชาชนจะดีกว่า รธน.ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ปัญหาข้าวยากหมากแพงเป็นเรื่องที่ชาวบ้านเดือดร้อนมากที่สุด

เมื่อถามว่า มาตรการอารยะขัดขืนในวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง นายสุริยะใส กล่าวว่า ภายหลังประกาศอารยะขัดขืนออกไป ที่กบินทร์บุรี ซึ่งมีการประชุมคู่ขนานกับการชุมนุมใหญ่ของพันธมิตรฯ ปรากฏว่า ถูกตำรวจพยายามมาปิดจอทีวีเพื่อให้เลิกชุมนุม ดังนั้น ชาวบ้านจึงโทร.มาปรึกษา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือว่าจะฟ้องร้องอย่างไรหรือไม่ ส่วนจะเรียกร้องให้รัฐบาลถอนตัวหรือไม่ อยากให้ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร ตัดสินใจเอาเองมากกว่า โดยให้มาสนใจปากท้องประชาชนให้มากขึ้น เพราะขณะนี้แม้แต่คณะกรรมาธิการสามัญก็ยังไม่สามารถตั้งได้ จึงไม่สามารถสะท้อนหรือแก้ไขปัญหาประชาชนได้ รัฐสภาจึงเป็นเพียงที่เล่นเกมการเมืองเท่านั้น

เมื่อถามว่า การถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล หรือการยุบสภานั้น ถือเป็นทางออกใช่หรือไม่ นายสุริยะใส กล่าวว่า คงให้ฝ่ายการเมืองพิจารณาและตัดสินใจเอาเอง เราไปชี้นำหรือกดดันอย่างใดอย่างหนึ่งคงไม่ได้

ส่วนกรณีที่จะมีการเชิญกลุ่มพันธมิตรฯ มาเป็นคณะกรรมมาธิการด้วยนั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า หากมีการเชิญเข้ามาจริง เราก็จะมีการประชุมกันว่าจะจัดคนไปเป็นตัวแทนหรือไม่ และจะได้ประโยชน์อะไรหรือไม่ อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีคูปองคนจนนั้น เราจะเชิญนักวิชาการ ที่คร่ำหวอดในเรื่องนี้ มาเสวนาบนเวที โดยอาจจะใช้หัวข้อว่า “คูปองคนจน แก้ปากท้องคนจนได้จริงหรือ” โดยคาดว่าจะมีการจัดเสวนาดังกล่าวในวันพรุ่งนี้

ขณะที่ นายสุริยะใส กล่าวถึงกรณีคูปองคนจนว่า มาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจนั้น หากมาตรการใดที่เป็นประโยชน์กับคนจนที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารประเทศของรัฐบาล หากสามารถแก้ปัญหาได้จริง กลุ่มพันธมิตรฯ ก็ไม่คัดค้าน แต่เรามองว่ากรณีนี้เป็นการแก้ที่ปลายเหตุ เพราะต้นเหตุจริงๆ คือ รัฐบาลล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ คูปองคนจนจึงเป็นเพียงแค่การใช้นโยบายประชานิยมซื้อใจคนยากจนเท่านั้น