xs
xsm
sm
md
lg

ครม.เงาจี้ “เจ๊มิ่ง” ทบทวนตัวเอง แก้ปัญหาข้าวเหลว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ
รมว.พาณิชย์เงา เย้ยรัฐบาลลูกกรอกถึงเวลานับถอยหลัง เรียกร้องเจ๊มิ่งทบทวนตัวเองหลังแก้ปัญหาราคาข้าวเหลว จี้แจงข้าวค้างสต๊อก 2.1 ล้านตัน จับตานักธุรกิจต่างชาติฮุบอาชีพเกษตรกรรมภายใต้ชื่อนอมินี ขู่เจอโทษอาญาขั้นติดคุก

วันนี้ (5 มิ.ย.) นายเกียรติ สิทธีอมร รมว.พาณิชย์เงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงถึงวิธีการทำงานแก้ปัญหาราคาข้าวของรัฐบาลอย่างมาก เพราะหลายเรื่องยังไม่มีความชัดเจน ทั้ง ปัญหาเรื่องสต๊อก สัญญาคำสั่งซื้อข้าว 6.7 ล้านตันที่ยังไม่มีความชัดเจน ส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกตกต่ำและผันผวน ความมั่นใจในการสั่งซื้อของผู้บริโภคในต่างประเทศลดถอยลง รัฐบาลมีมาตรการออกมาเพื่อรับจำนำข้าวที่ราคาตันละ 1.4 หมื่นบาท แต่รัฐมนตรีบางคนบอกว่าความชื้นอยู่ที่ระดับ 5 เปอร์เซ็นต์ แต่บางคนบอกว่าไม่ควรจำกัดความชื้น ตนอยากให้ประกาศให้ชัดเจนแล้วทำให้จริง เพราะมีข่าวอีกว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ได้รับคำสั่งให้ไปดำเนินการในวันนี้ แต่ ธ.ก.ส.บอกว่าไม่พร้อม สะท้อนให้เห็นว่าการบริหารงานของรัฐบาลมีปัญหา แม้แต่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมด้วย และมีมติสั่งการ แต่เจ้าหน้าที่ภาครัฐบอกไม่พร้อม ดังนั้น ควรจะกลับไปทบทวนเพราะเป็นโอกาสสุดท้ายของรัฐบาลที่จะทำให้ประชาชนเห็นว่ายังสามารถบริหารงานได้ และต้องทำให้เร็ว อย่ารอให้ถึงกรณีที่ต้องมีคนออกมาประท้วงในสิ่งเหล่านี้

“รัฐบาลอย่านั่งเฉย ต้องรีบทำก่อนที่ปัญหาจะตามมา โดยเฉพาะเรื่องข้าวถือเป็นโอกาสสุดท้ายจริงของคุณมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ ที่จะทำให้ประชาชนยอมรับการทำงานของรัฐบาลว่ามีฝีมืออยู่บ้าง การรับจำนำไม่ใช่เรื่องยาก สามารถทำได้ง่ายและเร็ว คุณมิ่งขวัญควรจะพิจารณาตัวเองว่าต้องทบทวนตัวเองมากน้อยแค่ไหน 2 เรื่องที่ยังทำไม่ชัดเจน คือ คำสั่งซื้อ 6.7 ล้านตัน อยู่ที่ไหน พอมาตั้งประกาศว่ามีคำสั่งซื้อเพื่อที่จะปั่นให้ราคาสูงขึ้น ทั้งที่ไม่มีใครเชื่อข้อมูลนี้ เพราะหมดความน่าเชื่อถือแล้ว และเรื่องสต๊อกข้าว 2.1 ล้านตันในวงการค้าข้าวบอกว่ามีจำนวนไม่ถึง 1 ล้านตัน เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีต้องชี้แจง ผมไม่ต้องไปนั่งตรวจสอบแทน แต่รัฐมนตรีต้องเปิดเผยออกมาว่าข้าว 2.1 ล้านตันอยู่ที่ไหนบ้าง ถ้าบอกว่าไม่รู้ก็บริหารงานต่อไปยาก เคยมีการยืนยันว่าส่วนต่างมีอยู่เพียงไม่กี่หมื่นตัน แต่ใครก็ตามที่รับผิดชอบในเรื่องนี้จะต้องดำเนินคดี อยากถามว่าวันนี้ไปถึงไหนแล้ว เรื่องเงียบหายไปเลย ดังนั้น ขอให้รัฐมนตรีแก้ตัว เอาข้อเท็จจริงมาเปิดให้ชัดเจน อย่ามุบมิบเล่นตัวเลข อย่าเล่นสื่อ เพราะแก้ปัญหาไม่ได้จากการให้ข่าว ตรงนี้ทั่วโลกรอฟังข้อเท็จจริงอยู่ และถ้าไม่มีการประกาศข้อเท็จจริงก็จะไม่มีใครมั่นใจการทำงานของรัฐบาลอีกต่อไป และถ้าครั้งนี้รัฐบาลไม่สามารถดำเนินการเรื่องรับจำนำข้าวได้ ผมคิดว่าโอกาสที่รัฐบาลจะดำเนินการต่อไปคงมีปัญหามากทีเดียว”

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนักธุรกิจชาวบาห์เรนเริ่มเข้ามาซื้อพื้นที่รกร้างสร้างพื้นที่การเกษตรในประเทศไทย นายเกียรติ กล่าวว่า มีกฎหมายอยู่ 3 ฉบับ คือ 1.การที่ต่างชาติจะมาซื้อที่ดินทำไม่ได้อีกแล้วตาม พ.ร.บ.ที่ดิน การมาทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตรกร คือ การทำนา ทำสวน ทำไร่ ก็อยู่ในบัญชี 1 ของ พ.ร.บ.ประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ต้องห้ามอยู่แล้ว ถ้าจะมาประกอบอาชีพก็ไม่ได้อีกเช่นกัน เพราะติด พ.ร.บ.ว่าด้วยการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2521 ฉะนั้น ตรงนี้พรรคจะติดตามอย่างใกล้ชิดเพราะเป็นห่วง เนื่องจากเชื่อว่ามีความพยายามที่จะเข้ามาดำเนินการ

“แต่วิธีเดียวที่นักธุรกิจต่างชาติจะทำและอาจจะมีบางคนได้ทำ คือ การมีนอมินี ซึ่งถือว่าผิดกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เรื่องนี้ดูไม่ยากกำลังตรวจสอบอยู่ แต่ต้องปรามเอาไว้เลยว่าใครก็แล้วแต่ที่คิดจะทำอย่างนี้ผิดกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ ซึ่งไม่ใช่โทษทางแพ่งอย่างเดียว แต่มีโทษอาญาถึงขั้นติดคุกด้วย แต่เท่าที่ทราบมีการชี้แจงใน ครม.ว่าทำไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ผมรู้สึกเป็นห่วง แต่ก็ไม่แปลกใจว่าทำไมจึงเกิดเหตุการณ์อย่างนี้เพราะปัญหาหลายเรื่องรู้มานานแล้ว แต่บางเรื่องไม่ได้ดำเนินการ บางเรื่องก็ดำเนินการด้วยวิธีที่ผิดผลที่เกิดขึ้นสวนทางกับวัตถุประสงค์ ผมเชื่อว่ารัฐบาลมีเวลาไม่มากที่จะแก้ตัว ขณะที่เท่าที่ทราบมีกลุ่มผู้ชุมนุมอีกหลายกลุ่มนอกเหนือจากมีอบชาวนา และม็อบสิบล้อพร้อมที่จะเดินทางมาประท้วงรัฐบาลอยู่ในขณะนี้” นายเกียรติกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น