บอร์ด กขช.-คชก.เห็นชอบให้รับซื้อข้าวจากชาวนา ทั้งข้าวเจ้า-ข้าวเหนียว พร้อมประกาศพยุงราคาข้าว โดยรับประกันราคาข้าวเปลือกขั้นต่ำที่ตันละ 14,000 บาท ความชื้นไม่เกิน 15% “หมอเลี้ยบ” หนุนพาณิชย์ แทรกแซงราคาข้าว เพื่อให้ตลาดกลับสู่ภาวะปกติ ยันไม่ใช่การบิดเบือนราคาแท้จริง แย้มแผนขายข้าวในสต๊อกเก่า เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนซื้อข้าวเปลือกใหม่
วันนี้ (15 พ.ค.) นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) และคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร(คชก.) ซึ่งมี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบให้หลักการโครงการรับซื้อข้าวจากชาวนา โดยจะรับซื้อเฉพาะข้าวเปลือกเจ้าและข้าวเปลือกเหนียวเท่านั้น
ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลินั้นไม่ใช่เป้าหมายที่รัฐบาล และจะไม่เปิดรับซื้อในขณะนี้ เนื่องจากชาวนาไม่มีผลผลิตข้าวเปลือกหอมมะลิในช่วงฤดูกาลผลิตข้าวนาปรัง อีกทั้งข้าวเปลือกหอมมะลิส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในมือชาวนาแล้ว
นายยรรยง กล่าวว่า ราคาข้าวเปลือกเจ้าที่จะรับซื้อนั้นเบื้องต้นกำหนดไว้ที่ตันละ 14,000 บาท แต่ยังไม่ได้กำหนดปริมาณที่จะรับซื้อ เพราะคาดว่าจะมีมาขายไม่มากนัก เพราะราคาตลาดตอนนี้ค่อนข้างสูง ส่วนข้าวเปลือกเหนียวราคาจะอยู่ที่ตันละ 7,000-8,000 บาท คาดว่า จะมีจำนวน 2 แสนตัน โดยระดับความชื้นมาตรฐานต้องไม่เกิน 15% แต่หากข้าวเปลือกเหนียวมีระดับความชื้นต่ำกว่า 15% ก็จะรับซื้อในราคาตันละ 9,000 บาท
ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการรับซื้อ ปริมาณที่จะรับซื้อ ระยะเวลาของโครงการ และวงเงินที่จะใช้นั้น ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และองค์การคลังสินค้า (อคส.) ในฐานะที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบจะไปหารือในรายละเอียดอีกครั้ง
**“เลี้ยบ” ยันรัฐแทรกแซงตลาดเพื่อให้กลับสู่ภาวะปรกติ
นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ เข้าไปแทรกแซงราคาข้าว โดยการรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกร เพื่อแก้ไขปัญหาพ่อค้าคนกลางกดราคา โดยเชื่อว่า การแทรกแซงราคาข้าวในครั้งนี้ จะทำให้กลไกด้านราคากลับสู่ภาวะปกติ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องเข้าไปดูแลให้ระดับราคาข้าวที่เกษตรกรจะได้รับเป็นที่น่าพอใจ และไม่ทำให้เกิดการบิดเบือนของราคาที่แท้จริง
ทั้งนี้ การแทรกแซงราคาดังกล่าวเป็นการรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศโดยตรง ไม่ใช่การรับจำนำ จึงมั่นใจว่าจะไม่ทำให้รัฐบาลขาดทุนเหมือนการรับจำนำข้าวเปลือกเหมือนที่ผ่านมา
นพ.สุรพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการรับซื้อข้าวเปลือกจากเกษตรกรตามนโยบายนี้ รัฐบาลจะนำข้าวเก่าในสต็อกที่มีอยู่เดิมออกขายให้กับเอกชนในประเทศและต่างประเทศ เพื่อนำเงินกลับมาซื้อข้าวจากเกษตรกรเพื่อส่งออกต่อไป รวมทั้งจะให้ ธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ให้แก่โรงสี เพื่อรับซื้อข้าวจากชาวนาด้วย ซึ่งจะทำให้เกษตรกรได้รับผลตอบแทนตามความเป็นจริง
