xs
xsm
sm
md
lg

“ปลาไหล” จูบปาก “พปช.” ป้องเอกสิทธิ์ ส.ส.ยื่นญัตติแก้ รธน.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมศักดิ์ ปริศนานันนทกุล รองหน.พรรคชาติไทย
“สมศักดิ์” กลับลำจูบปาก “พลังแม้ว” ชี้แสดงความเห็นแก้ รธน.ควรรอผลการศึกษาของ กมธ.วิสามัญ ก่อน ป้องเอกสิทธิ์ ส.ส.เข้าชื่อยื่นแก้ รธน.รอบสอง

วันนี้ (3 มิ.ย.) นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงท่าทีของพรรคชาติไทยต่อการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ว่า พรรคชาติไทยยังไม่ได้หารือกัน เพราะยังไม่มีการประชุมพรรคตั้งแต่ปิดสมัยประชุมสภา เรื่องนี้เป็นใหญ่ ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกด้วย

“เท่าที่คุยกับหัวหน้าพรรค ท่านเป็นห่วงเรื่องของการชุมนุมที่ยืดเยื้อ เพราะไม่อยากเห็นการเผชิญ และที่ห่วงที่สุด คือ เรื่องใช้กำลังไม่ว่าฝ่ายใด ก็พยายามให้ทุกฝ่ายใช้สันติวิธี ทำตามขอบเขตที่รัฐธรรมนูญกำหนด อย่าออกนอกเส้นรัฐธรรมนูญ” นายสมศักดิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า พรรคชาติไทยจะรับไม่ได้เลยหรือไม่หากมีการใช้กำลัง นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ถึงเวลา แต่ดูสถานการณ์แล้วก็น่าสบายใจขึ้น เพราะเหตุการณ์คลี่คลายลง จากที่วิตกว่าจะมีการสลายการชุมนุม ก็ไม่เกิด เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็น่าจะคลี่คลายได้ หลังจากที่ในสภาเห็นสอดคล้องกันให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษารัฐธรรมนูญ ก็น่าจะรอดูผลการศึกษาก่อนมีความเห็นไปสู่กระบวนการแก้ไข

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า สถานการณ์จากนี้จะไป ถ้าทุกฝ่ายยึดมั่นในกรอบของรัฐธรรมนูญ ก็ไม่น่าเกิดอะไร เพราะสถานการณ์ก็คลี่คลาย เมื่อสภาที่ทำหน้าที่เป็นเวทีทางออกสังคมก็กำลังขับเคลื่อน ทุกฝ่ายไม่ว่าฝ่ายค้าน หรือฝ่ายรัฐบาล ก็ให้ความร่วมมือตั้งในการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษารัฐธรรมนูญปี 2550 ว่ามีปัญหาอะไร เมื่อได้ใช้ไปแล้วช่วงหนึ่งแล้ว

เมื่อถามว่า หลักการทำงาน พรรคพลังประชาชนควรจะหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลมากกว่านี้หรือไม่ เช่น การยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การยื่นญัตติเป็นเอกสิทธิ์ ไม่อย่างนั้นแต่ละพรรคการเมืองก็ทำงานไม่คล่องตัว การเสนอกฎหมาย หรือ พ.ร.บ.อาจมีความเห็นไม่ตรงกัน นั่นก็เป็นการทำงานของพรรค อย่านำมารวมกับรัฐบาล เพราะถ้ามองอย่างนั้นจะนำไปสู่ความไม่เข้าใจระบบ ว่า พรรคคือพรรค รัฐบาลคือรัฐบาล

ต่อข้อถามว่า การที่ ส.ส.อีสานใต้จะยื่นญัตติแก้รัฐธรรมนูญอีกครั้ง ไม่กระเทือนพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า เขามีสิทธิ รัฐธรรมนูญเขียนไว้ชัดเจนว่าถ้าเข้าชื่อ 1 ใน 5 ก็เสนอได้ ไม่ต้องเป็นมติของพรรค ฉะนั้นพรรคพลังประชาชนมีเสียง 200 กว่าเสียง เสนอ 100 กว่าเสียงก็ทำได้ แต่เมื่อเข้าไปจะขอความร่วมมือจากพรรคร่วมก็ต้องคุยกันอีกประเด็น ตรงนั้นค่อยว่ากัน

“โดยหลักการ เมื่อทุกฝ่ายทำความเข้าใจ ไปตกลงกับประธานสภาเมื่อวาน (2 มิ.ย.) เท่ากับได้รับมอบหมายจากทางพรรคมาแล้ว ตามหลักการควรรอให้คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาก่อน ซึ่งประกอบด้วย สมาชิกทั้งฝ่านค้าน ฝ่ายรัฐบาล บุคคลภายนอก ตัวแทนกลุ่มองค์กร มาศึกษาร่วมว่ารัฐธรรมนูญมีปัญหาอุปสรรคตรงไหน ถึงจะนำไปแก้ไข แบบนี้สิ่งที่หวาดวิตกก็ไม่เกิด” นายสมศักดิ์ กล่าว

ส่วนในการประชุม ครม.จะนำเรื่องสถานการณ์การชุมนุมขึ้นมาหารือหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ระเบียบวาระไม่มี ถ้ามี ครม.หลายท่านคงมีความคิดหลากหลาย ส่วนเรื่องความสัมพันธ์พรรคชาติไทยกับพรรคพลังประชาชนนั้น ต้องแยกเรื่องพรรคกับสมาชิกพรรคออกจากกัน นักการเมืองแสดงความคิดได้โดยเสรี แต่จะเอาความคิดสมาขิกคนใดมาเป็นเรื่องพรรรคไม่ได้ ถ้าเป็นเรื่องของพรรคต้องมีการประชุม มีมติออกมา ฉะนั้น การแสดงความเห็นต่างเป็นเพียงความเห็นของสมาชิกเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น