หน.ปลาไหล ชักเสียวกลิ่นอายปฏิวัติ ดิ้นพล่านแต่สายไปแล้ว เสนอ “ลูกกรอก-พันธมิตรฯ” ถอยคนละก้าว ยุติชุมนุม - ชะลอแก้ รธน. ถามหาผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหากถึงเวลาต้องเสนอตัวเป็นคนกลาง
วันนี้ (29 พ.ค.) นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงปัญหาระหว่าง นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กับนายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค ว่า ไม่มีปัญหา และกรณีที่นายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี พี่ชายนายประภัตรจะออกมาแก้ข่าวให้น้องชายถือเป็นเรื่องปกติ และขอยืนยันว่าไม่มีปัญหาภายในพรรค ตราบใดที่ยังมีคนชื่อบรรหาร ศิลปอาชา ทั้งนี้ ส่วนตัวมีความเป็นห่วงเรื่องการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มากกว่าปัญหาภายในพรรค
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เห็นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมควรยุติการชุมนุม และชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ก่อน นายบรรหาร กล่าวว่า ตนมีความเป็นห่วงเรื่องดังกล่าว ซึ่งถ้ามองในภาพรวมเมื่อปี 2549 เคยเกิดเหตุปฏิวัติขึ้น ประเทศย่ำแย่ และรัฐบาลที่แล้วไม่ได้แก้ไขปัญหา ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์บานปลายขึ้นอีกจะไม่เป็นผลดีต่อประเทศ ดังนั้น ควรต้องถอยกันคนละก้าว
“หากรัฐธรรมนูญปี 50 ดีก็ให้บังคับใช้ไป แต่ถ้าไม่ดีก็ต้องแก้ไข ส่วนตัวเห็นว่ารัฐธรรมนูญปี 50 ไม่ดีหลายอย่าง มีการร่างโดยใช้อคติ และบางมาตราไม่สามารถนำมาใช้ได้ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องหารือกันให้ดี และขอยืนยันว่าพรรคชาติไทยจะยึดถือความถูกต้องเป็นหลัก” นายบรรหาร กล่าว
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีเดินหน้าทำประชามติ ขณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมยังเดินหน้าถอดถอน ส.ส.ที่ลงชื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายบรรหาร กล่าวว่า เป็นความเห็นของแต่ละฝ่าย ไม่สามารถก้าวก่ายได้ และขอย้ำว่าต้องถอยคนละก้าว
“รู้สึกเป็นห่วงฝ่ายที่ 3 คือประเทศชาติว่าจะอยู่กันอย่างไร เมื่อมีการทะเลาะกัน และยอมรับว่าเป็นห่วงเรื่องการปฏิวัติ ซึ่งเรื่องนี้ต้องใจเย็นๆ ทำอะไรต้องนับหนึ่งถึงร้อย ซึ่งผมได้เตือนทุกคนไปแล้ว ทั้งนายสมศักดิ์ นายประภัตร แต่ยังไม่ได้เตือนนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ และคงไม่ต้องบอกถึงนายกรัฐมนตรี และนายสนธิ ลิ้มทองกุล” นายบรรหาร กล่าว
เมื่อถามว่ามีการเสนอให้มีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเป็นคนกลางประสานทำความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาของประเทศที่เกิดขึ้น นายบรรหาร กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลา และตนไม่เหมาะสมที่จะเป็นคนกลาง เพราะในบ้านเมืองมีผู้ใหญ่ที่มีความเหมาะสมมากกว่าตน
