นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์ ซึ่งวิจารณ์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่าขายชาติที่จะนำนักลงทุนซาอุดิอารเบียเข้ามาจ้างชาวนา ให้ทำนา จนถูกโต้กลับอย่างรุนแรงจาก ส.ส.พรรคพลังประชาชน และ นายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรฯ จากพรรคพลังประชาชน หลังประชุม ครม. นายสมศักดิ์ ได้ลงจากห้องประชุมก่อนกำหนด โดยพยายามหลบเลี่ยงผู้สื่อข่าว ก่อนขึ้นรถออกจากทำเนียบฯทันที
นายธีระชัย แสนแก้ว รมว.เกษตรฯ เปิดเผยหลังการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมไม่ได้หารือเรื่องนายสมศักดิ์วิจารณ์พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งตนก็เตรียมที่จะชี้แจงประเด็นขายชาติต่อนายสมศักดิ์อย่างเต็มที่ แต่นายสมศักดิ์ ออกจากห้องประชุมก่อน อย่างไรก็ตาม ตนได้ชี้แจงต่อที่ประชุม ครม.ว่า ทุกฝ่ายไม่ต้องกังวลว่านักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาแย่งอาชีพของคนไทย เนื่องจากกฎหมายที่มีอยู่เดิมมีความชัดเจนเป็นอย่างยิ่งในการคุ้มครองอาชีพของคนไทย จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาเสียเวลากับเรื่องนี้อีก
นายธีระชัย กล่าวว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีรับฟังคำชี้แจงแล้ว ก็ได้ขอบิณฑบาตร ให้เรื่องนี้ยุติลง โดยระบุว่าคำชี้แจงของนายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี พี่ชาย นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทย ชัดเจนแล้ว และนายสมศักดิ์ก็ออกมา ขอโทษแล้วด้วยเช่นกัน ซึ่งตนก็ไม่ได้ติดใจอะไร
อย่างไรก็ตาม ระหว่างตนกับนายสมศักดิ์ยังไม่มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ เมื่อถามคำก็ตอบคำ แต่ยืนยันว่ากรณีดังกล่าวจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาในการทำงาน ในกระทรวงเกษตรฯ แน่นอน
ด้านนายภราดร ปริศนานันกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทย ลูกชายนาย สมศักดิ์ กล่าวถึง กรณีที่ นายประสิทธิ์ โพธสุธน ตั้งข้อสังเกตุว่านายสมศักดิ์เดินทางไปรัสเซีย ไปซื้อปุ๋ยหรือไปเชียร์ฟุตบอล ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก ระหว่างแมนเชสเตอร์ ยุไนเต็ด กับเชลซี นัดชิงชนะเลิศว่า ตนพร้อมบิดาและน้องชายบินไปดูฟุตบอลเป็นการส่วนตัวไม่ได้ไปราชการซื้อปุ๋ย หากเรื่องนี้จะเป็นความผิดตนก็ผิดเพราะเป็นคนชวนบิดาและน้องชายไป
นายภราดร กล่าวว่า ตนได้อ่านหนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 22 พ.ค. บนเครื่องบิน ได้เห็นข่าวที่มีการเชิญชวนชาวต่างชาติมาร่วมลงทุนทำนาในประเทศไทย โดยได้ลง รายละเอียดที่นายประภัตร โพธสุธน ส.ส.สัดส่วน เลขาธิการพรรคชาติไทย ชักชวนนักลงทุนเข้ามา ซึ่งนายสมศักดิ์ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าไม่เห็นด้วยเพราะถือว่าเป็นการทำลายชีวิตและอาชีพของเกษตรกรไทย แต่นายประสิทธิ์กลับออกมา ให้ข่าวว่าไม่ใช่เรื่องของนายทุนต่างชาติที่จะมาทำนาแทนคนไทย แต่เป็นการเชิญชวนให้นักลงทุนจากต่างชาติมาซื้อข้าวสาร ซึ่งเห็นชัดว่าข้อมูลนายประภัตรและนายประสิทธิ์พูดไม่ตรงกัน
“ไม่ควรโยงเป็นเรื่องการเมือง เพราะพ่อของผมแสดงความเห็นในหลักการว่าการให้ต่างชาติมาทำนาแทนคนไทย มายึดเอาวัฒนธรรมของคนไทย เอาวิถีชีวิตออกไปจากสังคมและชุมชนชาวไทย จะเป็นการลบล้างชาติออกไป อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นเรื่องผู้ใหญ่ที่จะประสานให้พ่อและท่านประภัตรมาคุยกัน”
นายธีระชัย แสนแก้ว รมว.เกษตรฯ เปิดเผยหลังการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมไม่ได้หารือเรื่องนายสมศักดิ์วิจารณ์พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งตนก็เตรียมที่จะชี้แจงประเด็นขายชาติต่อนายสมศักดิ์อย่างเต็มที่ แต่นายสมศักดิ์ ออกจากห้องประชุมก่อน อย่างไรก็ตาม ตนได้ชี้แจงต่อที่ประชุม ครม.ว่า ทุกฝ่ายไม่ต้องกังวลว่านักลงทุนต่างชาติจะเข้ามาแย่งอาชีพของคนไทย เนื่องจากกฎหมายที่มีอยู่เดิมมีความชัดเจนเป็นอย่างยิ่งในการคุ้มครองอาชีพของคนไทย จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาเสียเวลากับเรื่องนี้อีก
นายธีระชัย กล่าวว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีรับฟังคำชี้แจงแล้ว ก็ได้ขอบิณฑบาตร ให้เรื่องนี้ยุติลง โดยระบุว่าคำชี้แจงของนายประสิทธิ์ โพธสุธน ส.ว.สุพรรณบุรี พี่ชาย นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรคชาติไทย ชัดเจนแล้ว และนายสมศักดิ์ก็ออกมา ขอโทษแล้วด้วยเช่นกัน ซึ่งตนก็ไม่ได้ติดใจอะไร
อย่างไรก็ตาม ระหว่างตนกับนายสมศักดิ์ยังไม่มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ เมื่อถามคำก็ตอบคำ แต่ยืนยันว่ากรณีดังกล่าวจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาในการทำงาน ในกระทรวงเกษตรฯ แน่นอน
ด้านนายภราดร ปริศนานันกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทย ลูกชายนาย สมศักดิ์ กล่าวถึง กรณีที่ นายประสิทธิ์ โพธสุธน ตั้งข้อสังเกตุว่านายสมศักดิ์เดินทางไปรัสเซีย ไปซื้อปุ๋ยหรือไปเชียร์ฟุตบอล ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก ระหว่างแมนเชสเตอร์ ยุไนเต็ด กับเชลซี นัดชิงชนะเลิศว่า ตนพร้อมบิดาและน้องชายบินไปดูฟุตบอลเป็นการส่วนตัวไม่ได้ไปราชการซื้อปุ๋ย หากเรื่องนี้จะเป็นความผิดตนก็ผิดเพราะเป็นคนชวนบิดาและน้องชายไป
นายภราดร กล่าวว่า ตนได้อ่านหนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 22 พ.ค. บนเครื่องบิน ได้เห็นข่าวที่มีการเชิญชวนชาวต่างชาติมาร่วมลงทุนทำนาในประเทศไทย โดยได้ลง รายละเอียดที่นายประภัตร โพธสุธน ส.ส.สัดส่วน เลขาธิการพรรคชาติไทย ชักชวนนักลงทุนเข้ามา ซึ่งนายสมศักดิ์ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าไม่เห็นด้วยเพราะถือว่าเป็นการทำลายชีวิตและอาชีพของเกษตรกรไทย แต่นายประสิทธิ์กลับออกมา ให้ข่าวว่าไม่ใช่เรื่องของนายทุนต่างชาติที่จะมาทำนาแทนคนไทย แต่เป็นการเชิญชวนให้นักลงทุนจากต่างชาติมาซื้อข้าวสาร ซึ่งเห็นชัดว่าข้อมูลนายประภัตรและนายประสิทธิ์พูดไม่ตรงกัน
“ไม่ควรโยงเป็นเรื่องการเมือง เพราะพ่อของผมแสดงความเห็นในหลักการว่าการให้ต่างชาติมาทำนาแทนคนไทย มายึดเอาวัฒนธรรมของคนไทย เอาวิถีชีวิตออกไปจากสังคมและชุมชนชาวไทย จะเป็นการลบล้างชาติออกไป อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นเรื่องผู้ใหญ่ที่จะประสานให้พ่อและท่านประภัตรมาคุยกัน”