“วีระ สมความคิด” แจงสาเหตุ พันธมิตรฯ ยังไม่เลิกชุมนุม เพราะรัฐบาลยังเลิกล้มความคิดที่จะแก้ รธน. – “สุทิน คลังแสง” ชี้ รัฐบาลจะไม่ตอบเรื่องแก้ รธน.แล้ว รอผลประชามติออกมาแล้วค่อยว่ากัน โยนบาป พันธมิตรฯ อยากไล่นายกฯ เพราะ หนุน ปชป.เป็นรัฐบาล
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการคมชัดลึก
วานนี้ (2 มิ.ย.) นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.บางส่วนของพรรคพลังประชาชน กำลังจะรวบรวมรายชื่อเพื่อขอแก้ไข รธน.ว่าตอนนี้ทางรัฐบาลคงไม่ตอบคำถามเหล่านี้แล้ว เพราะคำตอบว่าสุดท้ายว่าตกลงจะแก้ รธน.หรือไม่นั้น อยู่ที่คนทั้งประเทศ คือ รัฐบาลจะรอจนกว่าจะมีประชามติออกมา ว่า ประชาชนต้องการให้แก้หรือไม่ ดังนั้นหากตอนนี้จะมี ส.ส.เข้าชื่อเสนอแก้ รธน.แต่ถ้าผลประชามติออกมาว่าไม่อยากให้แก้รัฐบาลก็ไม่แก้ ถึงมีการยื่นขอแก้ รธน.ไว้ก็ต้องถอนออกมาอยู่ดี
อีกทั้งตนยังคิดว่าเรื่องชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น แท้จริงแล้วไม่ได้อยู่ที่ รธน.อย่างที่พันธมิตรฯ อ้างแต่อย่างใด เพราะความคิดที่จะชุมนุมมีมาตั้งแต่รัฐบาลเพิ่งเข้ามาทำหน้าที่แล้วโดยเริ่มจากโจมตีว่าโยกย้ายข้าราชการไม่เป็นธรรม แล้วจึงเปลี่ยนมาเป็นเรื่องแก้ รธน.ซึ่งที่ผ่านมา ตนยืนยันว่า รัฐบาลก็ฟังคำท้วงติงของพันธมิตรฯ มาโดยตลอด สังเกตได้จากตอนแรกรัฐบาลก็คิดจะแก้แค่ไม่กี่มาตรา พันธมิตรฯ บอกไม่ให้แก้ ต้องแก้ทั้งฉบับ เราก็แก้ทั้งฉบับ จากนั้นก็บอกให้ทำประชามติ พอรัฐบาลจะทำแล้วประชามติจริงๆ ก็ไม่ยอม และเรียกร้องไปถึงขับไล่รัฐบาลในที่สุด
นายสุทิน กล่าวด้วยว่า การที่พันธมิตรฯ บอกว่า เป็นการเมืองภาคประชาชนอย่างแท้จริงนั้น คงไม่เป็นความจริง เพราะบนเวทีการชุมนุมของพันธมิตรฯ มีคนของพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นไปร่วมอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น สิ่งที่พันธมิตรฯ ทำอยู่แล้วบอกว่าเป็นการเมืองภาคประชาชน ทำเพื่อประชาชน คงเป็นเรื่องที่เชื่อได้ยาก และตนก็คิดว่า สิ่งที่พันธมิตรฯ ยังไม่พูดความจริงออกมาตอนนี้ ก็คือ แท้จริงแล้วสิ่งที่พันธมิตรฯ ต้องการ คือ อยากให้รัฐบาลออกไป แล้วให้คนที่เขาสนับสนุน นั่นคือ คนของพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมาเป็นรัฐบาลแทน ดังนั้น ตนจึงมองว่าหากพันธมิตรฯ จะบอกว่า ตัวเองเป็นกระจกเงาสะท้อนการเมืองภาคประชาชน ก็ควรทำให้จริง และอยู่ในขอบเขต คือ บางครั้งก็ควรจะลดความแข็งกร้าวลงบ้าง ฟังเสียงส่วนรวมและเห็นความเดือดร้อนของบ้านเมืองบ้างด้วย “ผมยอมรับว่ากระจกต้องมีนะ แต่คุณต้องดูด้วยว่า วันนี้คุณทำหน้าที่เกินกระจกหรือเปล่า คุณกำลังจะเอากระจกไปตีหัวใครหรือเปล่า”
ขณะที่ นายวีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน และหนึ่งในแนวร่วมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้สัมภาษณ์ในรายการ คมชัดลึก ทางสถานีโทรทัศน์ ถึงสาเหตุที่พันธมิตรฯ ยังไม่เลิกชุมนุม ว่า เป็นเพราะเรายังไม่อาจแน่ใจได้เลยว่า รัฐบาลจะยุติการแก้ รธน.จริงหรือไม่ เพราะเมื่อญัตติแก้ไข รธน.ชุดเดิมถูกถอนออกมาแล้ว ทาง ส.ส.รัฐบาลก็ยังออกมาประกาศอีกว่าจะรวบรวมรายชื่อยื่นขอแก้ไข รธน.ต่ออีก
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยกันว่า เหตุใดจึงมี ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมกับเวทีของกลุ่มพันธมิตรฯ นั้น ตนไม่สามารถกล่าวแทนได้ว่า เพราะอะไร ส.ส.เหล่านั้น จึงมีความเห็นไปในทางเดียวกันกับพันธมิตรฯ แต่ตนก็คิดว่าคงเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยต่างจากเมื่อครั้งที่ ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน ไปร่วมกับเวที นปก.และหากจะบอกว่ามีคนพรรคประชาธิปัตย์มาขึ้นเวที เป็นเพราะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นรัฐบาลหรือเปล่านั้น ตนคิดว่าคงไม่ใช่เพราะคนที่มาจากพรรคการเมืองอื่นๆ ก็มาร่วมกับพันธมิตรฯ เหมือนกัน เช่น คุณเสกสรร แสงภูมิ อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย หรือพรรคพลังประชาชนเดิม ก็ยังมาขึ้นเวทีแล้วก็แฉ เบื้องลึกเบื้องหลังของพรรคไทยรักไทย ที่เวทีพันธมิตรฯ เลยด้วยซ้ำ ดังนั้นคงมองไม่ได้ว่าพันธมิตรฯ สนับสนุนให้พรรคประชาธิปัตย์หรือพรรคใดๆ เป็นรัฐบาล
ขณะที่ นายชัยวัฒน์ ถิรพันธุ์ ผู้อำนวยการ Bangkok Forum หนึ่งในผู้ก่อตั้งเครือข่ายคิดต่างกันได้แต่ต้องไม่มีความรุนแรง กล่าวว่า เวทีพันธมิตรฯ สมควรจะอยู่ต่อไปได้ เพราะเขาได้นำเสนอแนวความคิดต่างๆ เพื่อให้รัฐบาลได้พิจารณา ซึ่งเขาก็มีสิทธิ์ที่จะผลักดันความคิดของเขาต่อไป หากถามข้อเรียกร้องของพันธมิตรฯ มีเพิ่มต่อไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุดเสียที ก็ต้องย้อนถามว่า แล้วสิ่งที่เขาเรียกร้องหรือท้วงติง เป็นปัญหาที่มีอยู่จริงใช่หรือไม่ และเป็นเรื่องที่ควรจะได้รับพิจารณาใช่ไหม ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นเขาก็มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องในสิ่งที่เขาคิดว่าเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองต่อไป
ด้าน นายสุวรรณ สิทธิเสนา เลขาธิการสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) กล่าวว่า พันธมิตรฯ ควรจะทบทวนบทบาทของตัวเอง เพราะตนคิดว่าในตอนนี้ น่าจะกล่าวได้ว่าการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ไม่ใช่การเคลื่อนไหวของภาคประชาชนอย่างแท้จริง เห็นได้จากการที่มีองค์กรภาคประชาชนหลายส่วน เช่น สนนท.เองที่ได้ถอนตัวออกมาจากการร่วมงานของพันธมิตรฯ แล้ว จากเดิมที่เราเคยร่วมกับพันธมิตรฯมาเมื่อครั้งก่อน 19 ก.ย.เนื่องจากเราเห็นว่า ตอนนี้การเรียกร้องของพันธมิตรฯ ไม่ได้ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง เห็นได้จากเมื่อตอนมีการออก พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยให้ออกนอกระบบ ซึ่งตอนนั้นพันธมิตรฯ ก็ควรแสดงบทบาท แต่กลับไม่ได้ดำเนินการอะไรเลย
ส่วนกรณีการเรียกประชาชนมาชุมนุมของพันธมิตรฯ ขณะนี้นั้น จริงอยู่ว่าสามารถทำได้ เนื่องจากเป็นสิทธิเสรีภาพที่ประชาชนสามารถทำได้ แต่อยากให้พันธมิตรฯ มีความรับผิดชอบด้วยว่าเมื่อนำกลุ่มมวลชนมาแล้ว สามารถดูแลความปลอดภัยให้เขาได้หรือเปล่า และที่สำคัญ การที่กลุ่มตัวเองนำภาคประชาชนไปต่อสู้ แท้จริงแล้วเป็นการนำประชาชนมาเพื่อสร้างประโยชน์ให้กับกลุ่มตัวเองหรือไม่ และการกระทำเหล่านั้นเป็นการทำเพื่อประชาชนจริงหรือไม่