ผู้ช่วยเลขาฯ ปชป.สาปส่งลูกกรอก ตีความ กม.ให้แตกก่อนริฟ้องสมาชิกและกลุ่มพันธมิตรฯ เคลื่อนไหวภาคประชาชน กระตุกต่อมสำนึก ส.ส.-ส.ว.ถอนเข้าชื่อยื่นญัตติ ตะเพิด “เพ็ญ” อย่าฝืนกระแสสังคมกดดันให้ลาออก
วันนี้ (28 พ.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ผู้ช่วยเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรคพลังประชาชนเข้าแจ้งความดำเนินคดี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตามมาตรา 68 ว่า ตนอยากให้พรรคพลังประชาชนดูข้อกฎหมายให้ละเอียด เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ ที่เข้าข่ายมาตรา 68 ว่าด้วยการล้มล้างระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เชื่อว่าการแจ้งความดังกล่าวก็เพื่อดิสเครดิตพรรคประชาธิปัตย์ อีกทั้งการแจ้งความเอาผิดกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน และมีมาตรา 63 คุ้มครองอยู่ ดังนั้น พรรคพลังประชาชนอย่าสร้างภาพเพื่อก่อความวุ่นวายให้สังคม และอยากให้ย้อนกลับไปดูรายชื่อผู้ยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าตอนนี้เหลือกี่คนแล้ว เพราะได้ข่าวว่ามี ส.ส.และส.ว.เริ่มถอนรายชื่อออกบ้างแล้ว
“อยากเรียกร้องให้ ส.ส.และส.ว.ที่เข้าชื่อถอนชื่อออก เพื่อให้ญัตตินี้ตกไป อีกทั้งยังลดการปะทะของ 2 ฝ่ายที่สนับสนุนและคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ อย่ากลัวเสียหน้า เพราะถ้าเสียหน้าแล้วไม่ทำให้ประเทศเสียหายก็ควรจะทำ” นายเทพไท กล่าว
นายเทพไท กล่าวถึงกระแสข่าวนายทหารชั้นผู้ใหญ่มีความคิดเห็นต่อกรณีการจาบจ้วงสถาบันของนายจักรภพ เพ็ญแข ว่ารู้สึกไม่ดีและไม่อยากร่วมสังฆกรรมกับนายจักรภพว่า ชัดเจนแล้วว่าทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ย่อมมีความรู้สึกรับไม่ได้กับบุคคลที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ ซึ่งก็แน่นอนว่าประชาชนคนทั่วไปก็คงรับไม่ได้ ดังนั้น เมื่อเป็นเช่นนี้นายจักรภพคงทนกระแสสังคมไม่ได้ และลาออกในที่สุด เพราะแม้แต่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็ปล่อยวาง ไม่สนใจ ตนจึงไม่อยากให้นายจักรภพซื้อเวลา เพราะอย่างไรก็ตาม กระแสสังคมคงไม่ลดไปกว่านี้
