ชมรม ส.ส.ร.50 เตรียมเปิดเว็บไซต์แจงรัฐธรรมนูญ 2550 ดีกว่ารัฐธรรมนูญ 2540 ด้าน “เสรี” เตือนภาคประชาชนเสนอแก้ รธน.เข้าข่ายล้มล้าง รธน.ผิดมาตรา 68, 291 ขณะที่ อดีต ส.ส.ร.40 จวกรัฐบาล ลนลานรีบเลือกประธานสภาฯ เตือนหากแก้ รธน.ก่อนแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน อาจเกิดวิกฤตทางการเมืองตามมาอีกระลอก
วันนี้ (13 พ.ค.) ที่รัฐสภา นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานชมรม ส.ส.ร.50 แถลงภายหลังการประชุม ว่า ชมรม ส.ส.ร.ยังคงมีจุดยืนเดิม คือ ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 50 เพราะเป็นการแก้ไขเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง และยังเห็นว่า การเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญในขณะนี้มีการเสนอข้อมูลรัฐธรรมนูญปี 50 ผิดไปจากเจตนารมณ์ในการร่าง และสร้างความสับสนให้กับประชาชน เช่น มีการระบุว่า รัฐธรรมนูญปี 50 ให้มีอมาตยธิปไตย เป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากรัฐประหาร ไม่ได้เป็นประชาธิปไตย ดังนั้น ชมรม ส.ส.ร.50 จะจัดทำข้อมูล ข้อเท็จจริงโดยการเปรียบเทียบข้อดีของรัฐธรรมนูญปี 50 เหมาะที่จะใช้ในสถานการณ์ปัจจุบันอย่างไร และปัญหาอุปสรรคในการใช้รัฐธรรมนูญปี 40 โดยจะดำเนินการอย่างรีบด่วนภายใน 5-7 วัน เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนรับทราบ ซึ่งชมรม ส.ส.ร.50 จะลงในเว็บไซต์ WWW.SSR50.NET
นายเสรี กล่าวว่า มีภาคประชาชนส่วนหนึ่งได้เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเข้าชื่อ 50,000 รายชื่อเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ และควรสนับสนุน แต่อยากให้ทำให้ถูกต้องตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญและหลักของกฎหมาย โดยการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องดำเนินการอย่างแท้จริง ไม่ใช่ไปยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 50 แล้วนำรัฐธรรมนูญปี 40 มาใช้ทั้งฉบับ ซึ่งอาจเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68, 291 ซึ่งเป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญเปลี่ยนรูปแบบการปกครอง นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้รัฐสภาเร่งออกกฎหมายว่าด้วยการเสนอกฎหมายตามมาตรา 291 เนื่องจากขณะนี้แม้ประชาชนจะเข้าชื่อเสนอแก้ไขกฎหมายก็ไม่สามารถทำได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลอ้างว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของรัฐสภาไม่เกี่ยวกับรัฐบาล นายเสรี กล่าวว่า เป็นการแก้ตัวที่ฟังขึ้น เพราะการเสนอแก้ไขกฎหมายรัฐบาล ส.ส. ส.ว.ประชาชน สามารถเสนอได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็เห็นได้ชัดเจนว่ารัฐบาลเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยตัวเอง ดังนั้น จึงเป็นการปฏิเสธข้อกล่าวหา
ขณะที่ นายถาวร จันทร์สม อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ปี 2540 กล่าวว่า การเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้ เป็นจุดด่างพร้อยของระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทย ทำกันด้วยความลนลานรีบเร่ง เป็นเกมการเมืองที่มุ่งจะแก้รัฐธรรมนูญเพื่อช่วยเหลือพวกพ้องของตนเองรวม ทั้งเลือกคนที่มีมลทินมัวหมองมาเป็นประธานสภา ที่เป็นถึงตำแหน่งประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นหน้าตาของประเทศ และขอเตือนรัฐบาลว่า หากเลือกประธานสภา เสร็จแล้วเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ระวังกระแสต้านที่รุนแรงถึงขั้นเกิดวิกฤตทางการเมืองตามมาอีกระลอก