“ยุทธ ตู้เย็น” ส่งทนายแจ้งจับกำนันจันจว้าพยานคดีใบแดงข้อหาเบิกความเท็จ

“ยุทธ ตู้เย็น” ส่งทนายความ แจ้งจับกำนันจันจว้า พยานสอยตัวเองร่วง ในข้อหาเบิกความเท็จกรณีเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ด้าน พ.ต.ท.กานต์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เอาสีข้างเข้าถู ยันแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 237 และ 68 กันถูกกลั่นแกล้งปั้นพยานเท็จยุบพรรค

วันนี้ (13 พ.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.00 น.พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้า พรรคพลังประชาชน พร้อมด้วย นายวาสุเทพ ศรีโสดา ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สมยศ พรหมนิ่ม รอง ผบก.ป.เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ นายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนันตำบลจันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย พยานในคดีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ใบแดงแก่นายยงยุทธ ในข้อหาเบิกความอันเป็นเท็จต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาต่อผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พร้อมนำสำเนาคำให้การในชั้นศาล สำเนาเอกสารการขอตรวจสอบการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองของ นายชัยวัฒน์ มามอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน

พ.ต.ท.กานต์ กล่าวว่า ต้องมีการดำเนินคดีกับ นายชัยวัฒน์ ในข้อหาเบิกความอันเป็นเท็จ จากกรณีที่ได้ให้การว่า ตนเองไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ แต่ กกต.ได้รับรองว่า นายชัยวัฒน์ เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.2547 และจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่พ้นจากสมาชิกภาพ โดยมี นายทรงยศ กนกวรรณจำรัส กกต.ประจำ จ.เชียงราย เป็นผู้ลงนามรับรองในเอกสาร นอกจากนี้ นายชัยวัฒน์ ยังให้การเท็จต่อเจ้าหน้าที่ กกต.และต่อศาลฎีกา เพื่อให้เข้าองค์ประกอบต่อการดำเนินคดีอาญากับ นายยงยุทธ กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

พ.ต.ท.กานต์ กล่าวต่อว่า การที่ กกต.เชื่อคำให้การของนายชัยวัฒน์ ทำให้สังคมเชื่อว่า นายยงยุทธ ทำความผิดจริง เป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรมกับนายยงยุทธ มีการกลั่นแกล้งกัน แสดงให้เห็นว่า มีใบสั่ง หรือขบวนการที่จะนำไปสู่การยุบพรรคพลังประชาชนอย่างแท้จริง นายชัยวัฒน์ โกหกตัวเอง โกหกศาล เป็นสาเหตุสำคัญที่มีผลต่อคดีของนายยงยุทธ เพราะคนโกหกย่อมพูดโกหกในสำนวนคดีได้อย่างแนบเนียน

“ผมขอท้าให้ นายชัยวัฒน์ มาแจ้งความดำเนินคดีกับ นายยงยุทธ โดยด่วน และถ้า นายชัยวัฒน์ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ก็เรียกร้องขอให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค และ นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรค ออกมาช่วย นายชัยวัฒน์ ซึ่งจากการโกหกครั้งนี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่า มีขบวนการของกลุ่มบุคคลบางกลุ่มที่เสกสรรค์ปั้นแต่ง จัดฉาก พูดเท็จ เพื่อให้เข้าองค์ประกอบของข้อกฎหมาย และเสนอ กกต.ให้ยุบพรรคฝ่ายตรงข้ามได้ ดังนั้น จึงถือว่า มีความชอบธรรมที่จะต้องแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 237 และมาตรา 68 เพื่อมิให้บุคคลบางกลุ่ม หรือสมาชิกพรรคการเมืองบางพรรค ใช้คนโกหกมาเป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามได้ เพราะกรณีของ นายชัยวัฒน์ ถือว่ามีผลต่อกระบวนการยุติธรรม” พ.ต.ท.กานต์ กล่าว

พ.ต.ท.กานต์ กล่าวอีกว่า ตนจะเป็นผู้นำในสภาผู้แทนราษฎร ที่จะขอล่ารายชื่อเพื่อให้มีการแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 237 โดยด่วน เพื่อให้ความมั่นใจว่า อีก 3 เดือนจะมีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ให้เสร็จสิ้น หลังจากนั้น ก็จะดำเนินการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับต่อไป เพื่อให้เกิดผลดีกับชาติบ้านเมือง โดยนำเอาฉบับปี 2540 มาเป็นตัวตั้ง

ส่วน พ.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ได้รับเรื่องไว้โดยมอบหมายให้ พ.ต.ท.ไพลิน แจ่มจำรัส พนักงานสอบสวน ฝป.10 บก.ป.สอบปากคำและตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ ต่อไป