บุรีรัมย์ - อดีต ส.ส.ร.และปราชญ์ชาวบ้านบุรีรัมย์ ระบุ “ชัย ชิดชอบ” พ่อ “ยี้ห้อย” ประธานรัฐสภา คนใหม่ มีคุณสมบัติไม่เหมาะสม ขาดความสง่างาม มีมลทินมัวหมองเป็นจำเลยในคดีบุกรุกที่หลวง ซัดเป็นจุดด่างพร้อยระบอบ ปชต.ของไทย ชี้ รนรานแต่งตั้งมุ่งแก้ รธน.ฟอกมาร เตือนรัฐบาล “หุ่นเชิด” เร่งแก้ รธน.เมินแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ระวังกระแสต้านเกิดวิกฤตทางการเมือง
วันนี้ (12 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากบุรีรัมย์ ว่า จากการสำรวจความเห็นของประชาชนหลายกลุ่มอาชีพใน จ.บุรีรัมย์ ทั้งอดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2540 และปราชญ์ชาวบ้าน ต่อกรณี นายชัย ชิดชอบ ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน (พปช.) ถูกเสนอชื่อและได้รับเลือกให้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ ในวันนี้ (12 พ.ค.) ส่วนใหญ่มองว่า นายชัย ชิดชอบ ยังไม่มีความเหมาะสมในการเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญัติ หรือประธานสภาผู้แทนราษฎร เพราะยังขาดความสง่างาม เนื่องจากยังตกเป็นจำเลยคดีบุกรุกที่สาธารณประโยชน์ใน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ กว่า 139 ไร่ ติดตัวอยู่ ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ในชั้นการพิจารณาของอัยการ
อีกทั้งการเลือกประธานสภาครั้งนี้ กระทำกันแบบเร่งรีบในระยะเวลาอันสั้น เหมือนมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง เชื่อว่า มีการบล็อกโหวตจากกลุ่มการเมืองเดียวกัน เพื่อมุ่งหวังที่จะเข้าไปแก้รัฐธรรมนูญช่วยเหลือพวกพ้องมากกว่าจุดประสงค์อื่น ซึ่งข้อเท็จจริงแล้วน่าจะเร่งแก้ไขปัญหาปากท้องประชาชนก่อน แล้วค่อยมาเลือกประธานสภาในภายหลังก็ได้ เพราะยังมีรองประธานสภาที่ปฏิบัติหน้าที่แทนได้อยู่แล้ว
นายถาวร จันทร์สม อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2540 กล่าวว่า การเลือกประธานสภา ในครั้งนี้ เป็นจุดด่างพร้อยของระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทย ทำกันด้วยความรนรานรีบเร่ง เป็นเกมส์การเมืองที่จะมุ่งแก้รัฐธรรมนูญเพื่อช่วยเหลือพวกพ้องตัวเอง และเลือกคนที่มีมลทินมัวหมองมาเป็นประธานสภา ที่เป็นถึงตำแหน่งประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติเป็นหน้าตาของประเทศ
“ขอเตือนรัฐบาล ว่า หากเลือกประธานสภาเสร็จ แล้วเร่งแก้รัฐธรรมนูญก่อนแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน ระวังกระแสต้านที่รุนแรงถึงขั้นเกิดวิกฤตทางการเมืองตามมาอีกระลอก” นายถาวร กล่าว
ด้าน นายสมศรี ทองหล่อ ปราชญ์ชาวบ้าน ต.ร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ให้ความเห็นว่า ถึงแม้ นายชัย ชิดชอบ ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรค พปช.จะมีความพร้อมทั้งวัยวุฒิ คุณวุฒิ ที่ถูกเสนอและได้รับเลือกเป็นประธานสภานั้น ไม่เป็นปัญหา แต่ปัญหามีอยู่ว่า นายชัย ยังมีคดีติดตัวซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดี ประกอบกับรัฐบาลไม่น่าจะเร่งรีบในการเลือกประธานสภา ควรจะไตร่ตรองและวิเคราะห์ให้ถี่ถ้วน
“สิ่งที่ควรทำมากที่สุดในขณะนี้ คือ แก้ไขปัญหาปากท้องประชาชน ทั้งด้านค่าครองชีพ น้ำมัน และข้าวสารแพง อาหารแพงจะดีกว่า” นายสมศรี กล่าว
